ถ้า เอาประสบการณ์ผม นะครับ
ผมจะตอบว่า
ผมบ้าเครื่องเสียง PA ครับเพื่อที่จะมอง "คาราโอเกะ" ให้เหมือน ดนตรีสด เพราะเราจะปรับเสียงอะไรก็ได้
คนที่มีซาวน์โมดูล เค้าก็มาพ่วงกันหลายๆ ตัว
มีดรัมโมดูล เค้าก็แยกเสียงออกหลายๆ รู
เพื่อที่จะปรับเสียงแต่ละชิ้นที่มิกซ์ได้
คนที่เล่นซาวน์ฟอนต์
ยุคนั้น ก็เริ่มที่จะมีการแยกไลน์ โดยใช้ ซาวน์การ์ดหลายๆตัว โหลดซาวน์ฟอนต์คนละตัว
(ซาวน์ฟอนต์กลอง ซาวน์ฟอนต์เบส ซาวน์ฟอนต์กีตาร์)
ต่อมา มีการทำซาวน์ฟอนต์ แบบ โมโน แพนเสียงต่างๆ ไปคนละข้าง
เพื่อที่จะ "เพิ่มประสิทธิภาพการแยกไลน์" ก็จะได้ไลน์เพิ่มขึ้น
หลังจากนั้น ไม่นาน ก็มีโปรเจคโซนาร์เกิดขึ้น
แยกไลน์ออกทุกช่องของซาวน์การ์ด โดยผ่าน ASIO
จุดนี้ล่ะ เป็นจุดเริ่มต้นของการแยกไลน์ในปัจจุบัน
เพราะว่า ซาวน์ 5.1 ก็จะออกได้ 6 ไลน์ 7.1 ก็ได้ 8 ไลน์
การแยกไลน์ มันก็ดีตรงที่ว่า
เสียงต่างๆ พอออกจากการ์ดมาแล้ว มันก็คือ "สัญญาณเสียง" ครับ
จะไปต้มยำทำแกงอะไรกับมันก็ได้
กระบวนการทาง Signal Processing ต่างๆ ก็จะถูกเรียกมาใช้
มันก็เป็นเรื่องหมูๆ สำหรับมือมิกซ์ เพราะคุ้นมืออยุ่แล้ว
แต่ผู้ใช้ธรรมดาล่ะครับ ก็คงได้แค่ ปรับ level กับทุ้มกลางแหลม แค่นั้น
ณ วันนี้ "ถ้าเป็นผม" ผมก็จะตอบว่า ผมแยกไลน์ไปเพราะ
1. มันโก้ดีครับ
2. บางเพลง เราสามารถเร่งเสียง - เบาเสียง ชิ้นดนตรี ต่างๆ ได้
ในช่วงโซโล อยากให้ดนตรีเด่น เราก็เร่งขึ้นได้ก็จะเกิดคำถามอีกล่ะว่า
"แล้วทำไมไม่ปรับเอาในโปรแกรมเลยละ มันก็มี Mixer ให้อยู่แล้ว ตั้ง 16 แชนแนล เชียวนะ"อันนั้นมันก็เป็นการปรับ ในภาค MIDI ครับ ไม่ใช่ภาค Audio Signal
อย่างที่ว่าล่ะครับ คนเล่นเครื่องเสียงเค้าจะรู้ ว่า เราทำอะไรกับ audio signal ได้บ้าง จะเอาไปผ่าน processor อะไรบ้าง มันก็ย่อมได้
แต่การที่จะแยกไลน์ นั่นหมายถึง
ท่านต้องมีซาวน์การ์ด ที่มีจำนวนช่องเพียงพอ ที่ท่านจะแยก
อยากจะแยก 16 ช่อง ท่านก็ต้องมีซาวน์การ์ด 7.1 2 ตัว
นอกจากนี้ ต้องมี สายสัญญาณอีก 16 เส้น
connector ต่างๆ อีก
แล้วก็ ท่านก็ต้องมี มิกเซอร์ ที่มีช่องว่างพอ ที่จะรับกับคาราโอเกะของท่านได้
สุดท้าย ก็อยู่ที่ท่านเองล่ะครับ
ว่า อยากจะแยก หรือ ไม่แยกถ้าอยากแยก
ก็ลองมองดูทรัพยากรตัวเองว่า
มีมิกซ์พอรึยัง สายสัญญาณ ซาวน์การ์ด สเปคเครื่อง ฯลฯ
ด้วยความเคารพคับ
วิศวะพอกะเทิน (เด็กบางมด)
ป.ล. พิมพ์ซะนาน โดนแซงไป 3 กระทู้