เคยเจอกับนักร้องกรมประชาสัมพันธ์ ว่าเราเล่นคีย์ไม่ตรงห่วย
ก็เลยพูดนิ่มๆกลับไป แหม่นักร้องมืออาขีพแบบคุณพี่ร้องมาสี่ห้าสิบปี ปัญหาแค่นี่แก้ด้วยตัวเองไม่ได้ แสดงว่าเริ่มแก่แล้ว เสียงไม่ถึง แกค้อนมาสองวงแล้วเดินหนีเลน
สมัยหนึ่งนานมาแล้ว ผมไปเล่นกีตาร์กับวงคอมโบ้ (อะไรคือวงคอมโบ้ ให้น้านพแกเฉลยสำหรับคนเกิดไม่ทัน) เพราะผมอ่านโน๊ตได้
งานหนึ่งมีนักร้องรับเชิญเป็นท่าน อ. ธานินทร์ อินทรเทพ ตอนนั้นโด่งดังมาก แกให้คนมาแจกโน๊ตเพลง "วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"
แม่เจ้าเพลงแกคีย์ บีแฟลตไมเนอร์ สูงกว่าคือเอไมเนอร์ที่เราเล่นประจำอยู่ครึ่งเสียง ซึ่งไม่มีตัวแฟลตและตัวชาร์ปอยู่ในบันไดเสียงเลย
พวกเราตอนนั้นยังไม่แก่กล้าเท่าไหร่ ที่ว่าอ่านโน๊ตได้ก็แค่เพียง อินโทร(เริ่มต้น) เซ็กโน(ท่อนย้อน) โกดา(ท่อนจบ) ไอ้ที่เป็นตัวถั่วงอก
อ่านออกแต่ยังเล่นไม่ทัน เจอโน็ตมีตั้งห้าแฟลต หันหน้ากันเลิ่กลั่ก เอาไงกันดีว่ะ สุดท้ายตกลงเล่นตามคีย์ที่เราถนัดคือเอไมเนอร์ หรือคีย์ซี
ต่างกันแค่ครึ่งเสียง คงไม่เป็นไรมั้ง
ไอ้คนเป่าทรัมเปต มันรุ่นเดียวกับผมตอนนั้น พึ่งหลุดวงดุริยางค์โรงเรียนมาใหม่ๆเล่นคีย์ยากๆยังไม่เก่ง ขึ้นอินโทรมาตามที่เคยเล่นอย่างหวานเลย
ยืนโชว์ด้วย ตามธรรมเนียมวงคอมโบ้ไหง ทั่งวงจะนั่งเล่นอยู่หลังแสตนด์โน๊ต เครื่องไหนโซโล่จะลุกขึ้นยืนโชว์ พออินโทรจบส่งเข้าร้อง
ท่าน อ.ธานินทร์ แกเอาไมค์จ่อปากจะร้อง แล้วแกก็ไม่ร้อง หันมาบอกว่าผิดคีย์ ท่านขออภัยท่านผู้ชม แล้วมาให้พวกเราเริ่มใหม่ตามคีย์ในโน๊ต
แกต้องแม่นคีย์ตัวเองมาก สมัยก่อนคนทำดนตรีให้อัดเสียง เขาต้องทำเป๊ะกับช่วงเสียงนักร้องแต่ละคนเลย
สุดท้ายก็ผ่านไปได้แต่ไม่เนียนเท่าคีย์ที่เราเล่นประจำกัน ก็เป็นประสพการณ์ชีวิตเราให้ไปฝึกฝนเพิ่มในทางบันไดเสียงแฟลท ทางบันไดเสียงจร
อันนี้เป็นวงคอมโบ้
แล้วก็มาเปลี่ยนเป็นสติงคอมโบ ผมเล่นคีย์บอร์ดแล้ว เวทีสำเร็จรูปสมัยนู้นเป็นไง 555