หัวข้อ: การมิกซ์เสียง ต้องทำให้เสียงเป็นเหมือนต้นฉบับหรือครับ

[อ๊อฟ คลองสามวา]

หลังจากที่อ่านบทความต่างๆมา สักระยะหนึ่ง
ผมจับใจความได้ว่า การปรับแต่เสียงที่ดีนั้น ควรอิงเสียงจากต้นฉบับ พยามทำให้เป็นธรรมชาติที่สุด

แต่ในทางที่ผมทำนั้น ผมว่าผมทำผิดกับที่บทความเขียนมามากมาย
เนื่องจากผมได้รับโอกาสยืนหลังบอร์ดมิกซ์เซอร์ สำหรับเล่นสด (เจ้าของเครื่องใจถึงมากให้เด็กเล่น555)

ในบทความให้อิงจากเสียงต้นฉบับ
ผมเริ่มจาก kik เช็คเกน บูสhi ขึ้น เพื่อรับเสียงจิก ลดmid low ลงเพื่อลดเสียงอึงๆ

บูสbass ขึ้น เพื่อเพิ่มลูกกระเดื่องที่ใหญ่ขึ้น

ซึ่งมันไม่ใช้เสียงที่ควรจะออกมาจากกลอง ที่เป็นธรรมชาติของเสียงกลองตัวนั้น

ผิดถูกประการใดแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ 

[เด็กชายเคยโสด]

อุปกรณ์แต่ละตัวต่างกัน การปรับก็ต่างกัน
ไมค์สำคัญมากเพราะไมค์ดีดแทบไม่ต้องทำะอไร
หรือปรับนิดหน่อยก็ได้เสียงตามต้องการ
กลองก็สำคัญเพราะกลองดีดีบางตัวไมค์จ่อแทบไม่ต้องปรับอะไรก็ดีหรือปรับแต่น้อย
สรุปต้องประกอบกันทุกส่วน
เรื่องเสียงคุยกันยาวเพราะเป็นทั้งศาสตร์และ ศิลปะคือต้องใช้ทั้งความรู้และความชอบทีเป็นมโนและจินตนาการตัดสินครับ

[pompattaya]

ไม่จำเป็นครับ ต้องทำให้เหมาะสมกับกาละเทษะ มากกว่า ตัวอย่าง

ไปงานซึ่งส่วนใหญ่ในงานมีคนสูงอายุ ไฮโซ ในโรงแรมหรูๆก็ไม่ตึ๊บๆ จิ๊กๆ เอาแค่ทุ้มๆ นุ่มนวล

ไปงานกินเลี้ยงโต๊ะจีนชายทุ่ง ก็ซัดเต็มเหยียดไปเลย กระเดื่องลูกโตๆอัดโลว์ให้จุกอก คัดแหลมไม่พอจิ๊กๆ

เอาเหรียญสิบสองอัดซ้อนกันแปะตรงเป้ากระเดื่อง ยังไงก็จิ๊กๆ สะแนร์ใส่รีเวิร์บแบบเพลท โป้งๆๆสุดๆไปเลย

พอนึกออกไหม ถ้าทำในห้องอัด ก็จัดไปตามสไตล์เพลง ว่าจะขายตลาดไหน  นึกภาพออกนะ

[MP]

ตามพี่ป้อมว่า 

[Batman]

ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆออฟ
เดี็ยวเก่งเอง
ความรู้และประสบการณ์
หาได้จากหน้างานและทฤษฎี
ศ๊กษาและเข้าถึงอารมณ์เพลงและอายุคนฟังให้ได้
พี่เชื่อว่านายทำได้
 

[หนุ่มเมืองนคร (ไทย)]

ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆออฟ
เดี็ยวเก่งเอง
ความรู้และประสบการณ์
หาได้จากหน้างานและทฤษฎี
ศ๊กษาและเข้าถึงอารมณ์เพลงและอายุคนฟังให้ได้
พี่เชื่อว่านายทำได้
 

พี่?

[MP]

อาจาย์ใหญ่พี่ต๊อก 

[kruthum]

สารภาพตามตรงเลยครับผมก็คนนึงที่เมื่อหลายปีก่อนเคยมิกซ์เสียงให้วงดนตรีของโรงเรียนให้เป็นแบบเหมือนต้นฉบับ ไร้การปรับแต่งใดๆ เหมือนกับว่าเอาไมค์ไปรับเสียงของเครื่องดนตรีให้มาออก PA เท่านั้น ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการจัดการระบบเสียงอะไรเลยเพิ่งจะเริ่มเล่นเครื่องเสียงใหม่ๆ  สายสัญญาณก็ทำแบบอันบาล๊านซ์ สัญญาณรบกวนอื้ออึงไปหมด นึกถึงตอนนั้นก็รู้สึกขำตัวเองเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครมาตำหนิเพราะโรงเรียนอยู่ห่างไกลบนยอดดอยแค่ให้มีเสียงดังก็พอ  ณ ปัจจุบันนี้หลังจากได้อ่านทั้งบทความ กระทู้ที่เกี่ยวกับระบบเสียงจากเว็ปแห่งนี้ แค่ลำโพงฟูลเรนจ์หนึ่งคู่กับเพาเวอร์มิกซ์ตัวนึง ผมให้ความสำคัญกับเสียงที่ออกมามากกว่าเมื่ออดีตหลายเท่าตัวเลยครับ

[kann]

เมื่อก่อนผมก็ปรับไม่เป็นพอมาอยู่บ้านนี้แล้วพอไปวัดไปวาได้เมืาอกาอนใช้ลำโพงรากหญ้าเกินและแอมป์ก็ใช้ตามกระแสเดี๋ยวนี้โล๊ะทิ้งทำใหม่แล้วพอคือหน่อย

[บุญหลาย]

เมื่อก่อนผมก็ปรับไม่เป็นพอมาอยู่บ้านนี้แล้วพอไปวัดไปวาได้เมืาอกาอนใช้ลำโพงรากหญ้าเกินและแอมป์ก็ใช้ตามกระแสเดี๋ยวนี้โล๊ะทิ้งทำใหม่แล้วพอคือหน่อย

เยี่ยมครับขอให้งานเยอะๆๆ

[นพ สุพรรณ]

ไม่จำเป็นครับ ต้องทำให้เหมาะสมกับกาละเทษะ มากกว่า ตัวอย่าง

ไปงานซึ่งส่วนใหญ่ในงานมีคนสูงอายุ ไฮโซ ในโรงแรมหรูๆก็ไม่ตึ๊บๆ จิ๊กๆ เอาแค่ทุ้มๆ นุ่มนวล

ไปงานกินเลี้ยงโต๊ะจีนชายทุ่ง ก็ซัดเต็มเหยียดไปเลย กระเดื่องลูกโตๆอัดโลว์ให้จุกอก คัดแหลมไม่พอจิ๊กๆ

เอาเหรียญสิบสองอัดซ้อนกันแปะตรงเป้ากระเดื่อง ยังไงก็จิ๊กๆ สะแนร์ใส่รีเวิร์บแบบเพลท โป้งๆๆสุดๆไปเลย

พอนึกออกไหม ถ้าทำในห้องอัด ก็จัดไปตามสไตล์เพลง ว่าจะขายตลาดไหน  นึกภาพออกนะ

ยืนยันตามนั้น. คนทำซาวด์ต้องไม่เอาความชอบส่วนตัวมามั่วซาวด์ให้คนอื่น ต้องเข้าใจในสไตร์ของเพลงและเอกลักษณ์ของดนตรีแต่ละประเภท

ทำซาวด์วงดนตรีแจ๊สแต่ดันเสือกเอาสไตร์รำวงย้อนยุคมาใช้แบบผม. มันใช้ไม่ได้เด้