&feature=related
เปิดวง วงแคน มมส. &feature=related
ระบำจัมปาศรี วงแคน มมส. ระบำจัมปาศรี เกิดขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความเจริญรุ่งเรืองของโบราณสถานในจังหวัดมหาสารคาม และเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของชาวอีสาน พระธาตุนาดูนซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนับเป็นของคู่บ้านคู่เมือง ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม (มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)โดยอาจารย์ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ จึงได้จัดทำระบำจัมปาศรีขึ้น โดยอาศัยจากเอกสารทางโบราณคดีและข้อเขียนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนครจัมปาศรี
ท่าฟ้อนชุดระบำจัมปาศรีประยุกต์ท่าฟ้อนพื้นเมืองอีสาน ซึ่งได้แก่ ฟ้อนภูไท ฟ้อนตังหวาย ฟ้อนสังข์ศิลป์ชัยฯลฯ ผสมกับท่าระบำโบราณคดีชุดระบำทวาราวดี และภาพจำหลักที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยท่าเคลื่อนไหวจะเป็นท่าฟ้อนพื้นเมือง ส่วนท่าหยุดจะเป็นท่าโบราณคดี
การแต่งกาย
ผู้แสดงเป็นหญิงล้วน นุ่งเสื้อในนางรัดอก มีสไบพาดไหล่ซ้าย นุ่งผ้าไหมพื้นเมืองอีสานโดยใช้ผ้าซิ่น 2 ผืน ผ้าซิ่นผืนในนุ่งพับหน้านาง ส่วนผ้าถุงผืนนอกพับทบทั้ง 2 ข้างตรงสะโพกหักคอไก่คล้ายรำมโนราห์บูชายันต์ สวมเครื่องประดับคอ (ทับทรวง) รัดต้นแขน ต่างหู กำไลและเข็มขัดทอง
เรือมจับกรับ วงแคน มมส. &feature=related
เรือมจับกรับเป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวบ้านสวายจุ๊ ตำบลป่าชัย อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งแต่เดิมเรียกว่า อาไยลำแบ
เป็นการร้องประกอบกับการร่ายรำในเชิงเกี้ยวพาราสี ซึ่งในปัจจุบัน การละเล่นชนิดนี้ไม่เป็นที่นิยมและหาชมได้ยากเนื่องจากผู้เล่นต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวอย่างสูงในการร้องและการรำประกอบกับการใช้กรับ
ภาควิชานาฏศิลป์ วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ (มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์) ได้ศึกษารูปแบบการแสดงจาก นายเจ็น ทองโยง และ นางสารส ประกายแก้ว มาจัดรูปแบบการแสดงใหม่ให้มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น โดยการนำเอาการแสดงออกถึงการเกี้ยวพาราสีกันเป็นคู่ๆ มีการหยอกล้อ และการวาดลีลาขยับกรับแบบต่างๆ มีจังหวะดนตรีทำนองช้าและเร็ว
บรรเลงดนตรีด้วยวงกันตรึม (ปัจจุบันมีการดัดแปลงนำมาเล่นกันในวงโปงลางด้วย) ประกอบด้วยลายถวายครู อาไยกลาย กันต๊บ ปะการันเจก และโอละนอย
อุปกรณ์ประกอบการแสดง หากเป็นรูปแบบวงกันตรึมทั้งชายและหญิงจะถือกรับสั้นทั้งหมด แต่หากว่าเป็นการแสดงในวงโปงลางฝ่ายชายจะถือกรับยาว 1 คู่ในมือขวา และกรับกระทบ 1 อันในมือซ้าย ฝ่ายหญิงจะถือกรับสั้นทั้งสองมือ
ฟ้อนลำเพลิน วงแคน &feature=related
เซิ้งแคน วงแคน มมส.
&feature=related
เซิ้งแคน เป็นชุดการแสดงที่ได้ต้นแบบมาจากชุดการแสดงจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คือ เซิ้งเสียงแคน เป็นการฟ้อนประกอบการเป่าแคน แสดงถึงการเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวชาวอีสานโดยใช้แคนเป็นสื่อกลาง เซิ้งแคนเป็นการแสดงฟ้อนรำที่มีความสนุกสนานด้วยท่วงทำนองและจังหวะลีลาของผู้ฟ้อนและการเป่าแคน
ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรจน์มหาสารคาม (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) โดย อ.ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ เห็นควรว่าน่าจะมีการนำเอาท่าฟ้อนต่างๆรวมทั้งท่าเซิ้งมาผสมเข้าอยู่ในชุดเดียวกัน โดยเน้นถึงความสัมพันธ์ของชาวอีสานกับอาณาจักรล้านช้าง(ลาว)และอาณาจักรล้านนา จึงเกิดเป็นชุดการแสดงชื่อ เซิ้งแคน โดยใช้ลายดนตรีที่นิยมเล่นกันแพร่หลายทั้งสามแหล่งวัฒนธรรม คือลายเซิ้งบั้งไฟ ลายลาวดวงเดือน และลายออกซุ้มลาวแพน
ในปัจจุบันชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมือง(วงแคน) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้สืบทอดชุดการแสดงเซิ้งแคน และยกเอาชุดการแสดงนี้เป็นชุดการแสดงหลักของชมรม ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการออกไปแสดงเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอีสาน


ทุกวันนี้จะมีซักกี่คนที่รักและตั้งใจที่จะทำเพื่อสืบสานไว้ซึ่งสิ่งที่ดีงาม
เห็นแต่ทำอะไรก็มีแต่แก่งแย่งแข่งขันกัน
ขอบพระคุณที่รับชมรับฟังครับ