..ก.ว.ก.ป ก็ว่ากันไป...
.....ผมแนะนำมาเพราะเมื่อก่อน ผมไม่ได้รับคำแนะนำจากใคร มันยังไม่มี Internet ที่สามารถแนะ สอบถาม หาความรู้กันง่ายๆเหมือนเดี๋ยวนี้.ผมเสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สะเปะ สปะ ฟัง เขื่อคนโน้น คนนี้บอก ซึ่งก้เป็นพวกเครื่องเสียงบ้านนอก สุดท้ายเขาก็เอาของเก่าที่เขาจะเปลี่ยนแล้วมาหลอกขายให้เรา...เสียเงิน เสียเวลาไปมหาศาล..
......ต่อมาเมื่อผมได้รับคำแนะนำ ความรู้จากคนที่ใจดี ใจกว้าง ไม่หวงวิชาหลายๆท่าน.งผมก็คิดว่าถ้ามีโอกาสผมจะให้คนอื่นบ้าง.( ผมจึงพยายามเขียนบทความแนะนำหลายๆเรื่องมาให้มือใหม่ๆได้เอาไปปรับใช้ ต่อยอดกับความรู้จากแหล่งอื่นๆให้เกิดประโยชน์)..
.......แล้วถามว่าเจ้าของกระทู้จะหยุดเท่าที่ถาม ได้รับคำแนะนำมาไหม?..ผมว่าไม่มีทาง พอเวลาผ่านไปสักระยะ เขาเก่ง รู้มากขึ้นเขาก็จะไม่ยอมหยุดอยู่เท่านั้น...เขาก็ต้องเสียเวลา เสียเงินเสียทอง ขวนขวายหาใหม่อีกจนได้..
....ดังนั้นผมจึงพยายามที่จะเอาข้อมูลต่างๆมาเท่าที่ผมมี ผมได้มา มาถ่ายทอดให้เขา เพื่อเป็นการช่วยเขาให้สามารถตัดสินใจเลือกเอาสิ่งที่ดีที่สุด ในความสามรถ ในงบประมาณที่เขาสามารถเพิ่มเติมได้ไม่มากนัก แต่ได้ของที่มีคุณภาพ การใช้งานเหนือกว่า....ผมคิดว่าจะช่วยให้เขาประหยัดเงิน+เวลามากกว่านะครับ...
......เวลาเล่นอะไรผมจะเล่นแบบบ้าคลั่งเลย..ผมจะเล่นแต่ละอย่างๆไปจนคิดพอใจสิ่งนั้นที่สุดแล้วผมจึงหยุด ..... ตอนเริ่มแรกผมเล่นเรื่องมิกเซอร์ ก็ตลุยเสาะแสวงหาทุกยี่ห้อ ทุกตัวที่สนใจ เท่าที่มีปัญญามาใช้ มาเป็นของตนเองพร้อมทั้ง ไปฟัง ไปดู ไปถาม ไปศึกษาจากผู้รู้ หนังสือ internet ฯลฯ ต่อมาก็เล่นแบบตู้ลำโพงทั้งซับ และกลางแหลม แล้วมาเล่นระบบเสียงกลาง เพราะเสียงกลางเป็นเสียงที่ทำให้ดีได้ยากที่สุดผมจึงเน้นทั้งภาคไมค์+FX แบบตู้ ดอกลำโพง ครอสโอเวอร์ทั้ง PAssive และ Electronic และพาวเวอร์แอมป์สำหรับขับเสียงกลาง เพื่อให้ได้ยี่ห้อรุ่น ที่มีบุคลิค โทนเสียง เหมาะกับใช้ขับเสียง Mid ..ต่อมาก็เล่นเสียง Low ทั้งแบบตู้ ดอก และพาวเวอร์สำหรับขับ และเสียง Hight จนปัจจุบันคิดว่าควรพอได้แล้ว..อวดเขาได้ไม่อายใครที่ไหนแล้ว..และสิ่งที่ผมได้อีกอย่างคือสามารถแยกแยะรู้ วิเคราะห์ได้ว่ามิกซ์เซอร์ -พาวเวอร์แอมป์- ครอส-EQดอกลำโพง ยี่ห้อ รุ่นนั้นๆมีบุคลิคโทนเสียงอย่างไร เหมาะกับงานแบบไหน และรู้ว่าตู้ซับแบบนั้นให้โทนเสียงอย่างไร ยิงใกล้ ยิงไกลอย่างไร ฯลฯ
......และผมเล่นทุกอย่างมายาวนานตั้งแต่สิบกว่าปีแล้ว และไม่เคยหยุดเล่น เสาะแสวงหา อย่างเรื่องมิกเซอร์ผมเคยมีทีเดียว 7-8 ตัว ทั้งๆที่ไม่ได้ทำระบบเครื่องเสียงเป็นอาชีพ..เวลาผมอยากรู้ อยากทดลองเปรียบเทียบว่าตัวไหน บุคลิค โทน อุปนิสัย เสียงเป็นอย่างไร ผมจะตั้งระบบที่บ้านแล้วลองเอามิกซ์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อมาใช้งานเปรียบเทียบกันดู โดยใช้ระบบเดียวกันทดสอบ..( ตอนที่เล่นเครื่องเสียงไฮเอนในบ้าน กลุ่มผมก็บ้าแบบนี้ว่างๆก็ยกชุดเครื่องเสียงของแต่ละคนมาเปิดประชันกัน ฟัง วิจารณ์กันทั้งวัน)
...ในความคิดของผม ผมคิดว่ามิกเซอร์ นั้นมีส่วนสำคัญมากที่สุดในระบบเสียง เพราะเป็นตัวเมน ศูนย์กลางที่จะรับสัญญาณมาผสมกันและจ่ายสัญญาณเสียงไปยังแหล่งอื่นๆ รวมทั้งจะมีความสำคัญต่อภาคไมค์+FX ที่สุด เปรียบกับรถยนต์มิกเซอร์ก็เหมือนกับคาร์บูเรเตอร์ หรือหัวฉีด ที่จะรับเอาน้ำมันมาผสมกับอากาศ ผสมกันได้ดีรถก็เดินเรียบ มีแรงม้าเต็มที่ ผสมส่วนผสมออกมาไม่ดี เครื่องก็เสียงดัง เดินไม่เรียบ สะดุด ส่งผลให้ระบบเกียร์ ช่วงล่างดัง เป๋ไปด้วย
...ผมพยายามที่จะเอาข้อดี บุคลิค โทน คุณสมบัติของมิกเซอร์มาให้มือใหม่ได้เอาไปเปรียบเทียบ ตัดสินในเลือกเอง ตามกำลังทรัพย์ ..ผมจะไม่โน้มน้าวให้คล้อยตาม..ขอบคุณครับ...ฝากข้อมูลนี้ที่ผมใช้เวลามานานนับสิบปี+ เงินที่ใช้ไปในการซื้อ มาขายไป เปลี่ยนแปลงระบบอีกเกือบล้านบาท ค้นคว้าหามาได้เรื่องมิกเซอร์หลายๆยี่ห้อ รุ่นที่เคยใช้มา ก็ขอเอาให้อ่านกัน รู้กันภายใน 5 นาทีด้วยครับ...
...
....... ที่ผ่านมาใช้มิกซ์มาทั้งBehringer MX,SL ,UB - soundcraft FX8,FX16 -Alto 140 FX,L16 -Mackei CFX 12 FX, 1604 VLZ Pro , Yamaha MX 12/4 FX, MX 200 ,MG 10/2 FX, MG 24/14 FX ,MG 16/6FX - Tascam M 2516, M208,M 2508 ( ตัวนี้กำลังเดินทางมาจากญี่ปุ่น เพราะให้ บ.รับประมูลประมูลมาให้ ทุกอย่างเหมือน M 2516 ต่างกันที่จำนวนโมโนเท่านั้น)
...จากที่ได้ใช้มาสำหรับมิกซ์ขนาดเล็ก ไม่เกิน 24 MOno ขอบอกว่า
1 Behringer ที่เสียงดี เสียงหนา ทนทานมีรุ่นเดียวคือ MX ที่ตัวดำๆ มีหม้อแปลงขนาดใหญ่ 2 U เข้าแร็ค รุ่นอื่นๆเสียงบางหวิว ไม่ทนโดยเฉพาะภาค FX เจอไฟบ้าน้ราเจ๊งง่ายๆเลย
2.Soundcraft รุ่นเล็กมี FX ในตัว โดยรวมให้เสียงที่หนา นุ่มนวล หวาน คมชัด ภาคไมค์+FX ยอดเยี่ยมที่สุดกว่ายี่ห้ออื่น เพราะเป็น Altra Mic+ Lexicon เหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดี ระดับสูง เช่นงานผู้ใหญ่ ผู้ดี ประกวดร้องเพลง งานโชว์เสียงร้อง เสียงพูด คอนเสิร์ต วงเล็กๆ..แต่สไตล์เสียงจะไม่ถูกหูคอเหล้า งานคาราโอเกะ ที่ต้องการเสียงที่หนักแน่น โฉ่งฉ่าง จิ๊ดจ็ด เร้าอารมณ์หน่อยๆ ที่สำคัญ สัญญาณ output ค่อนข้างเบา ต้องเร่งระบบช่วยมากๆ และควรใช้พาวเวอร์ที่กำลังสูงมากๆ ช่วย ไม่งั้นไม่ได้ดังใจแน่ ....ขอบอกว่างานสนามเล็กๆ งานคาราโอเกะ งานลูกทุ่ง คอเหล้าจะผิดหวัง
3. Mackei รุ่น CFX เสียงบาง มีมิติลึกมากเกินไป FX ปรับใช้งานยากมาก สัญยาณ Output เบา ออกมาสไตล์เดียงกับ soundcraft FX8,FX16 แต่คุณภาพด้อยกว่ามาก ..แต่รุ่น VLZ Pro ให้เสียงที่ดี ใช้ได้เลยที่เดียวไม่ผิดหวัง เพียงแต่ไม่มี FX ในตัวเท่านั้น ( ตัวนี้ผมให้คะแนเหนือกว่า Yamaha MG 16/6 FX )
4. Alto 140 FX สำหรับงานเล็กๆแล้ว Ok ทั้งภาคดนตรี +ไมค์+FX แต่ถ้าออกงานสนามเร่งมากๆแล้วจะแกว่ง เพิ้ยนไปหมด พาลพาให้เสียชื่อได้ง่าย..L16 เสียงบาง ไม่ผ่าน สอบตกครับ
5 Yamaha งานเล็กๆ MG 10/2 FX ผ่านนะ เร่งหนักๆเสียงยังนิ่งไม่แกว่ง ไม่เพี้ยน .. ตระกูล MG ผมยกคะแนนยอดเยี่ยมให้ MG16/6FX มันได้ไปหมด ( ปัจจุบันผมมีใช้อยู่ 3 ตัว)ทั้งภาคดนตรีที่ Low หนักแน่น กลางแหลมที่สดใส จัดจ้าน โฉ่งฉ่าง พองาม ภาคไมค์+FX ที่ให้เสียงที่คมชัด มีมิติ มีน้ำหนัก และคมซิบๆได้ เอาออกงานสนามเล็กๆ งานคาราโอเกะได้สบายๆ..ผมว่าโทนเสียงมันถูกหูคอคาราโอเกะ คอเหล้า ที่เร้าอารมณ์เวลาได้ที่ได้ดีพอสมควรทีเดียว..แต่ตัว MG 24/14 ไม่ได้เรื่องเลย ผมซื้อมาตัวหนึ่งเคยเอาทดลองออกงาน แต่ทำซาวด์แล้วไม่ผ่านต้องยกลงก่อนงานเริ่มเลย..ตัวหลังๆมาผมว่าไม่ผ่านนะคุรภาพเสียง+เกรดอุปกรณื ความทนทานมันด้อยลงไปเยอะเลย......ตัว MX 200 -MX 400 รุ่นเก่า แก่ โบราณ เสียงโครตดี หนา นุ่ม หนักแน่น มีน้ำหนัก มีมิติ ยอดเยี่ยมทั้งภาคไมค์+ ภาคดนตรี ออกงานสนาม งานใหญ่ได้สบายเลยแต่มันดูไม่สวย เทอะทะ โบราณทั้งปุ่ม รูปทรง และหนัก เพราะเป็นเหล็กทั้งนั้น..ผมขายให้สมาชิกในนี้ที่อยู่ลำปางไป 9500 บาท กว่าจะจ่ายเงินมานานเกือบ 2 เดือน ตอนหลังเห็นเอามาประกาศขาย 14500 บาท( ถ้าจำไม่ผิด)
6. Tascam เป็นมิกซ์ที่ผมตัดสินใจเลือกมาใช้ เพราะตอนนั้น Soundcraft Live3- Live 4 ที่กำลังเล็งๆอยู่ถูกพ่อค้าทั้งหลายในเวปปั่นราคาจนเว่อร์เกินจริง..และไปลองใช้ ลองฟังแล้วผมคิดว่า Out put มันเบา เร่งมาสเตอร์จนสุด เร่งสไลด์ในไลน์จนเกือบสุดมันยังให้เสียงไม่แรงพอ ตามที่ผมต้องการ..ผมได้มาเพราะประมูลมาจากญี่ปุ่น จ่ายเงิน แล้วรอ 1 เดือนกว่าๆ มันเป็นมิกซ์สตูดีโอ ห้องอัด ดังนั้นเกรดอุปกรณ์ +ความเที่ยง แม่นยำ ตอบสนองในการคอนโทรล ปรับมิกซ์ เสียงเพี้ยน ความเพี่ยน เสียงรบกวนไม่ต้องพูดถึง..ที่สำคัญ Tascam มันเป็นมิกซ์สตูดีโอที่เอามาใช้งานสนาม งาน PA ได้ดีเสียด้วย..ปัจจุบันผมจึงไม่คิดที่จะหาตัวไหนมาใช้แทนมันอีกแล้วสำหรับงานทั้ง Indoor- OutDoor