หัวข้อ: ขั้วต่อสัญญาณชนิด XLR.....ที่พวกเราชอบเรียกว่า แจ๊คแคนน่อน

[raysoundmark]

กระทู้นี้ เป็นข้อความที่ผมเคยมั่วเขียนเอาไว้นานแล้วครับ

เคยเอาไปลงไว้ในเว็บบอร์ดที่ผมเข้าประจำเมื่อ 2-3 ปีก่อน

ขอเอามาลงซ้ำอีกครั้งนึง.....ขออภัยท่านที่เคยทราบแล้ว

ถือว่าเป็นการฝากลงไว้ที่ www.karaoke-soft.com ครับ
.

[raysoundmark]

ในบรรดา “ขั้วต่อสัญญาณเสียง” แบบต่างๆที่พวกเราใช้กันอยู่ ฮิตๆเห็นกันบ่อยๆ
ก็น่าจะเป็นชนิด   RCA , PHONE  และ XLR

XLR ( ออกเสียงว่า เอ๊กซ์ – แอล – อาร์ ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ )

ย่อมาจากคำว่า EXTRA LOW RESISTANCE
.

[raysoundmark]

ย้อนยุคไป เมื่อก่อนโน้นนนนนนนนนนนนน

“ขั้วต่อสัญญาณเสียง” นิยมใช้ขั้วต่อชนิด RCA และขั้วต่อชนิด PHONE แบบ TR

เพราะใช้ต่อสัญญาณเสียงแบบ UNBALANCED SIGNAL
ใช้ 2 ขาสัญญาณก็พอ
( คือ ขา SIGNAL และ ขา GROUND )
( หรือ ขาบวก และ ขากราวด์ )……………วงเล็บซ้อนก้อมีวุ้ย
.

[raysoundmark]

ต่อมา ผู้ผลิตเครื่องเสียงก็เกิดคิดค้นการต่อสัญญาณเสียงแบบ BALANCED SIGNAL ขึ้นมาได้
โดยมีจุดเริ่มต้นจาก ใช้สำหรับการต่อสัญญาณ จากไมโครโฟนมาเข้าปรีไมค์ หรือ เครื่องมิกเซอร์

คราวนี้ขั้วต่อแบบ 2 ขาไม่พอใช้แล้ว
เพราะต้องใช้การนำสัญญาณทั้งหมด 3 ขา
คือ ขา HOT , ขา COLD , ขา GROUND
( หรืออาจจะเรียกว่า  V+ , V- , GROUND )
( หรืออาจจะเรียกว่า  บวก , ลบ , กราวด์ )……………วงเล็บซ้อนแล้วซ้ำอีกก้อมีวุ้ย
.

[raysoundmark]

ช่วงแรกๆของการเริ่มใช้ขั้วต่อแบบ 3 ขาสัญญาณ  ก็ชุลมุนกันอยู่พักใหญ่ๆ
คือแต่ละบริษัท ก็คิดกันเอาเองไปเรื่อย ใช้ขั้วต่อแบบนั้นบ้าง แบบนี้บ้าง

อย่างเช่น ไมโครโฟนยี่ห้อ SHURE รุ่นเก่าๆ ก็ใช้ขั้วต่อ 3 ขาแบบขันเกลียวได้
.

[raysoundmark]

จนกระทั่ง ผู้ผลิตไมโครโฟน และ ผู้ผลิตเครื่องเสียง ทั้งหลาย มีการปรองดองกัน
เลือกหยิบเอาขั้วต่อชนิด XLR แบบ 3 ขา  เอามาใช้สำหรับต่อสัญญาณเสียง กันทุกเจ้า
( จริงๆแล้ว...ขั้วต่อชนิด XLR มีทั้งแบบ 2 ขา , 3 ขา , 4 ขา , 5 ขา , 6 ขา , 7 ขา )

แต่ก็ยังมีชุลมุนเล็กๆกันอยู่อีกหลายปีครับ
บางเจ้า    ใช้ ขา 1 เป็นกราวด์ , ขา 2 เป็นบวก , ขา 3 เป็นลบ
บางเจ้า    ใช้ ขา 1 เป็นกราวด์ , ขา 2 เป็นลบ , ขา 3 เป็นบวก
.

[raysoundmark]

เช่น มิกเซอร์ยี่ห้อดังๆ ของอังกฤษ ยี่ห้อนี้ครับ

ใช้ ขา 3 เป็น บวก ( HOT )
.

[raysoundmark]

หรือ อุปกรณ์ระบบเสียง ของยี่ห้อดังจาก USA

แนะนำให้เราใช้ ขา 3 เป็น บวก ( HOT )   
.

[raysoundmark]

ถ้าเป็นช่วงเมื่อสิบกว่าปีก่อน
หากต้องการจะต่อพ่วงเครื่องเสียง ยี่ห้อต่างๆ ที่เพิ่งซื้อ หรือ เพิ่งได้มาใหม่ๆ.....เข้าหากัน
ต้องเรียกดู “คู่มือการใช้” ทุกครั้ง ทุกเครื่อง ก่อนจะติดตั้ง
เพื่อจะดูซิว่า เจ้าเครื่องนี้ เขาใช้ ขา 2 หรือ ขา 3 เป็นบวก
แต่ละยี่ห้อ ไม่เหมือนกัน ตามใจผู้ผลิตจะคิดมาให้

แต่หลังจากที่แต่ละบริษัท ชิงไหวชิงพริบ ถืออัตตา กันอยู่หลายปี
ในที่สุด จนกระทั่งปัจจุบัน ก็เป็นอันลงตัวกันเรียบร้อยแล้วว่า


จะใช้ ขา 1 เป็นกราวด์ ( GROUND )  , ขา 2 เป็นบวก ( HOT )  , ขา 3 เป็นลบ ( COLD )


อย่างนี่ก็ง่ายหน่อย พวกเราผู้ใช้งานก็ไม่ต้องมึนมาก
.

[raysoundmark]

ขั้วต่อสัญญาณชนิด XLR
คนในประเทศไทยบ้านเราจะชอบเรียกมันติดปากว่า  “แจ๊คแคนน่อน”
บางครั้งก็ออกเสียงเพี้ยนไปอีกนิดนึง กลายเป็น “แจ๊คแชนน่อล” ก็มี

ความจริงแล้ว คำว่า “แคนน่อน” ก็คือชื่อยี่ห้อ ผู้ผลิต XLR ยี่ห้อนึง  คือ บริษัท ITT CANNON
( ความจริงแล้วยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหน่อยนึง ผมขอละไว้ก่อนครับ เดี๋ยวเยอะไป )

XLR ยี่ห้อ ITT CANNON ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาก่อน
เข้ามาในเมืองไทยเป็นเจ้าแรกๆ ไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีมาแล้ว
ก็เลยฮิตติดปาก  กลายเป็นคำพูดทับศัพท์ ทับยี่ห้อ กันไป

คล้ายๆกับ เช่น
เราชอบเรียก “ผงซักฟอก” ทุกยี่ห้อ    ว่า “แฟ๊บ”
เราชอบเรียก “เครื่องถ่ายเอกสาร” ทุกยี่ห้อ    ว่า “เครื่องซีรอกซ์”
สมัยก่อน อาจจะเรียก “ยาสระผม” ทุกยี่ห้อ    ว่า “แฟซ่า” แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วครับ
ดังนั้น ก็จึงไม่แปลก ถ้าจะมีคนเรียก “XLR” ทุกยี่ห้อ   ว่า “แจ๊คแคนน่อน”

สำหรับตัวผม ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลก เรื่องน่าซีเรียส อะไร
ถ้าจะมีใครพูดคุยกับผม ด้วย คำว่า XLR , แจ๊คแคนน่อน , แจ๊คแชนน่อล
เพราะแม้กระทั่งทุกวันนี้ ผมก็พูดคุยกับทุกๆท่านด้วยคำเหล่านี้อยู่
คุยกันได้หมดครับ สื่อสารกันรู้เรื่อง
.

[raysoundmark]

รูปนี้ เป็น ขั้วต่อชนิด XLR ยี่ห้อ ITT CANNON
.

[raysoundmark]

เวลาสินค้าส่งเข้ามา เรียงกันมาเป็นแถวๆ คล้ายยาสระผมชนิดซอง
.

[raysoundmark]

มีชิ้นส่วนตามรูปครับ  ประกอบกันแล้วได้ขั้วต่อ XLR ตัวเมีย 1 ตัว

ใช้งานได้ดีนะครับ ขนาดกระชับเป๊ะๆ เนื้อวัสดุดีเยี่ยม บัดกรีซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่มีละลายเสียรูปทรง

แต่มีข้อเสียที่ยี่ห้ออื่นเอามาเป็นจุดเปรียบเทียบ ก็คือ
เวลาทำงาน  ต้องใช้ หัวแร้ง 1 ตัว กับ ไขควงปากแฉกตัวเล็กๆ อีก 1 ตัว
ถ้ามีแต่หัวแร้ง ลืมเอาไขควงปากแฉกไปด้วย.....ก็หมดสิทธิ์
.

[raysoundmark]

อันนี้เป็น XLR ยี่ห้อดัง SWITCHCRAFT ของ USA  ทรงดั้งเดิม ออริจินัล

ของดีอีกแหละครับ ทนทานโคตรๆๆ  ตกแล้วบุบเบี้ยวยาก
ผมมีใช้เองส่วนตัวอยู่หลายๆตัว โยนมั่ง ขว้างมั่ง เหยียบมั่ง ใช้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว

แต่......เวลาทำงาน  ต้องใช้ หัวแร้ง 1 ตัว กับ ไขควงปากแบนตัวเล็กๆ อีก 1 ตัว
.

[raysoundmark]

บริษัทผู้ผลิตที่ขั้วต่อสัญญาณ ชื่อยี่ห้อว่า NEUTRIK ก็เลยประดิษฐ์คิดค้น
แล้วก็โฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า โอ้ววว  เยสสส  ใช่เลย  ทิฟฟี่  มันยอดเยี่ยมมาก

เพราะว่า XLR ของไอน่ะ มันช่างใช้งานได้สะดวกสบายจริงๆ
สามารถลุยงานสนาม หรือ งานเร่งด่วน ได้ดี
เพียงแค่คุณมีหัวแร้งแค่อันเดียวก็พอแล้ว ส่วนไขควงลืมไว้ที่บ้านได้เลย

รูปนี้ เป็น รุ่นเก่า รุ่นสร้างชื่อ สร้างรายได้กันแบบเป็นกอบเป็นกำ
.

[raysoundmark]

ปัจจุบัน NEUTRIK ก็ปรับปรุงโฉมใหม่ ขยับหนีไปอีกแล้ว
.

[raysoundmark]

XLR ทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ ก็นับเป็นต้นแบบที่สุดๆๆๆแห่งความฮิตครับ

รับรองได้ว่า ทุกท่านต้องเคยใช้ ไม่ทรงใดก็ทรงหนึ่ง
เพราะว่า เหล่าบรรดาผู้ผลิตเจ้าอื่นๆทั้งหลาย ก็ไม่ต้องเหนื่อยคิดอะไรมากแล้ว
ลอกแบบ เสร็จปั๊บ ปั๊มออกตลาด ขายกันได้เลย
สุดแต่โรงงานไหนจะใช้วัสดุเกรดไหน จะดี จะห่วย ยังไง

ทำให้ในท้องตลาดบ้านเราทุกวันนี้ มี XLR ทุกเกรด ทุกคุณภาพ ทุกราคา
เริ่มตั้งแต่ราคาตัวละ เจ็ดบาท ไปจนถึง ตัวละสองร้อยกว่าบาท
.

[raysoundmark]

เพิ่มเติมเรื่องการสร้างสายสัญญาณโดยใช้ หัว XLR

รูปนี้ เป็นรูปวิธีการเข้าสาย ( บัดกรีสาย ) ของขั้วต่อชนิด XLR ครับ
ทุกๆท่านทราบวิธีการต่อสายดีอยู่แล้ว

ตามรูปแหละครับ , ไม่ได้เป็นวิธี ลึกลับ หรือ พิสดาร อะไร , รูปเหล่านี้ก็สามารถหาได้ทั่วๆไป
.

[raysoundmark]

อีกรูปนึงครับ

ถือเป็น “ทฤษฎี” การประกอบขั้วต่อชนิด XLR ทรง NEUTRIK
( แบบที่ใช้วิธีขันเกลียวตรงส่วนท้ายของ XLR เพื่อล๊อคสาย )

คือว่า ฝรั่งเจ้าของรูป เขาอยากให้เรา จับตรงส่วนที่เป็นบอดี้เหล็กไว้นิ่งๆ
แล้วค่อยๆหมุน ขันเกลียว ตรงส่วนท้าย
ไม่ว่าจะเป็น ตอนที่ถอดออก หรือ ขันเข้า

ถ้าหากเราหมุนส่วนที่เป็นบอดี้เหล็ก
สายก็จะบิดตามไปด้วย , อาจจะไปทำให้จุดบัดกรีเกิดบิดงอได้
.

[raysoundmark]

ส่วนรูปนี้กลับกันครับ

ถือเป็น “ทฤษฎี” การประกอบขั้วต่อชนิด PHONE ทรง NEUTRIK
( แบบที่ใช้วิธีขันเกลียวตรงส่วนท้ายของ PHONE เพื่อล๊อคสาย )

คือว่า ฝรั่งเจ้าของรูป เขาอยากให้เรา จับตรงส่วนที่เป็น “ส่วนท้าย” ไว้นิ่งๆ
แล้วค่อยๆหมุน ขันเกลียว ตรงส่วนที่เป็นบอดี้เหล็ก
ไม่ว่าจะเป็น ตอนที่ถอดออก หรือ ขันเข้า

ถ้าหากเราหมุนส่วนที่เป็น “ส่วนท้าย”
สายก็จะบิดตามไปด้วย , อาจจะไปทำให้จุดบัดกรีเกิดบิดงอได้
.

[raysoundmark]

2 รูปหลังสุด ที่เกี่ยวกับการหมุนเข้าหมุนออก
( ไม่ใช่เข้าๆออกๆน๊ะครับ )

ผมขอเรียกว่าเป็น “ทฤษฎี” นะครับ
ในตอนปฏิบัติ , ตอนที่ทำงานจริงๆ.....ก็แล้วแต่ว่าแต่ละท่านจะยึดถือ “ทฤษฎี” หรือเปล่า

____________________________________

อ่านกันเพลินๆครับ

ขอบคุณครับ
.

[natthaset]

สุดยอดเลยครับ
เป็นความรู้จริงๆ

[เลิศพล]

ขอบคุณครับ ที่นำความรู้ มาแพร่เป็นวิทยาทาน สุดยอด + 10

[+ ค ลิ นิ ก พ ร ร ณี]

...เสียดายจริง ๆ ไม่เห็นภาพซักภาพ

[raysoundmark]

5 5 5

ผมได้มีโอกาสกลับมาที่กระทู้นี้ อีกครั้ง เมื่อ 13-10-2554

พบว่า

รูปประกอบที่เคยลงไว้เมื่อปี 2552 หายไปหมด.....เหลือแต่ข้อความ

( สาเหตุน่าจะมาจากการย้ายเซิร์ฟเวอร์ของเว็บบอร์ด SMF ที่อาจทำให้ข้อมูลตกหล่นไป )



จึงขออนุญาตนำรูปกลับมาลงอีกครั้ง

เพื่อให้พี่น้องสมาชิกชาว karaoke-soft อ่านกระทู้นี้ได้อย่างมีอรรถรสเพิ่มขึ้นครับ
.