ผู้เขียน หัวข้อ: ขอถามเรื่อง Mixer. X Air 18 Behringer จากผู้มีความรู้และประสบการณ์ครับ  (อ่าน 11789 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tree997

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 108
  • 9660 E 454 อู๊ด



อยากได้เครื่องที่ทุ่นแรง ราคาไม่แพง และมีคุณภาพครับ Mixer. X Air 18 Behringer คุณภาพเสียงดีไหมครับ ผู้รู้ช่วยตอบโจทย์ให้ทีครับ ขอบคุณครับบบบ
 :thank1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 6 พฤษภาคม 2015, 21:28:45 น. โดย ไวยาวัจกร (อู๊ด โคจร เจ้าเก่า) »

ออฟไลน์ sarawutsound

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 371
  • 8FE34E61 ((MP))
Re: ขอถามเรื่อง Mixer. X Air 18 Behringer จากผู้มีความรู้และประสบการณ์ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: วันที่ 7 พฤษภาคม 2015, 23:12:51 น. »
ผมสั่งไป ได้ของประมาณกลางเดือนนี้  เดาว่าเสียงน่าจะบาง แต่ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่  เพราะผมเน้นที่มันสะดวกดีครับ

ผมขอเอารีวิว ของ อ.น้อย ทรงพล แจ่มแจ้ง  มาให้อ่านละกันครับ


ทรงพล แจ่มแจ้ง ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 19 ภาพ — กับ MusicSpace Rca
27 เมษายน เวลา 20:53 น. ·
มาตามสัญญาครับกับ Behringer XAir XR18
หลังจากที่ได้รับตัวเครื่องมาทดสอบเรื่องการทำงานและคุณภาพเสียง วันนี้ขอรีวิวเรื่องคุณภาพและการใช้งานเพื่อให้ทุกคนได้ทราบรายละเอียดของสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้ามาใช้งาน เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
1.การออกแบบ
ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดด้วยน้ำหนัก 3.2 kgs. ถือว่าไม่เยอะมากสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีหูหิ้วทำด้วยสแตนเลสง่ายต่อการจับถือคลื่นย้ายหรือจะยึดกับRackก็สามารถทำได้เพราะแถมหูยึดRackขนาด3Uมาให้ด้วย การเชื่อมต่อต่างๆอยู่ด้านหน้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นช่อง Input/Output ไม่ต้องอ้อมไปเสียบด้านหลังให้ยุ่งยาก
2.Built-in Tri Mode Wi-Fi
มีWi-Fiมาให้เสร็จสรรพขนาดคลื่นความถี่ 2.4GHz สามารถตั้งค่าChannel เพื่อเลือกช่องสัญญาณWi-Fiได้ อีกทั้งสามารถใช้ Wi-Fi Router จากข้างนอกเพื่อเชื่อมต่อกับตัวเครื่องโดยไม่ใช้Wi-Fiที่ให้มากับเครื่อง เพราะบางครั้งเราไปเจอสถานที่ที่ใช้สัญญาณWi-Fiเป็นจำนวนมาก และเมื่อความถี่ใกล้กันตัวที่สัญญาณอ่อนกว่าก็จะโดนแทรกแซงไปโดยปริยาย แต่เราก็สามารถหาRouterคลื่นความถี่ขนาด 5 GHzมาใช้งานแทนได้ หรือจะใช้สายCat5ในการเชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องกับคอมพิวเตอร์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ใช้งานที่สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย
3.Applicationบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย
XAir XR18นั้นสามารถเลือกอุปกรณ์เพื่อใช้งานApplicationได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น iPad, iPhone, Android,Mac หรือ PC ไม่ว่าท่านจะมีอุปกรณ์ชนิดไหนก็ไม่ต้องกังวลสามารถเลือกใช้งานได้ตามความถนัด
4.Combo Jack Input Connector & Routing
Connector ของ XAir XR18 ที่ให้มานั้นทางด้าน Input ทั้งหมด16ช่อง เป็นแบบ Combo Jack นั้นคือใน1ช่องสัญญาณเราจะใช้Connectorแบบ XLR หรือ Jack Phone 1/4” ก็ได้ ให้มาแบบไม่มีกั๊ก ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ค่อยมีในหลายๆยี่ห้อ นั่นเท่ากับว่าเราสามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น บางยี่ห้อจะให้Connector แบบ Combo Jack อย่างมากก็ 6 ช่องสัญญาณ การRouting สัญญาณนั้นทำได้อย่างอิสระทุกช่องสัญญาณ Input และ Output นั่นคือเราสามารถเลือกสัญญาณ Analog Input จากช่องที่1ไปลงChannelไหนก็ได้ในหน้า Mixer บน Software หรือช่องสัญญาณ Aux Output หรือ Master ก็ไปเลือกออกที่ช่องAnalog Outputไหนก็ได้ ส่วนมากฟั่งชั่นนี้มักจะเจอกับMixerรุ่นใหญ่ๆเท่านั้น แต่ด้วยตัว XAir XR18 มันทำได้ขนาดนี้ถือว่าคุ้มมากๆ ต้องยกให้ความคิดนี้เป็นความคิดที่ชาญฉลาดของผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจเรื่องการทำงานทำให้ผู้ใช้งานทำงานได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับ Personal Monitor ให้นักดนตรีบนเวทีสามารถปรับเสียง Monitor ของตัวเองได้อิสระอีกต่างหากโดยผ่านระบบ Ultranet
5.Ultranet
ชื่อนี้หลายๆคนอาจจะไม่รู้จักและไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ถ้าบอกว่าเป็นการส่งสัญญาณแบบ Digital เหมือนกับที่เรารู้จัก Dante, MADI, AES50 ฯลฯ แต่ Ultranet นี้ทาง Behringer เลือกใช้งานเพื่อให้สามารถส่งสัญญาณแบบDigitalไปยังProductที่ใช้ Ultranet เช่น ลำโพงของTurbosound ซึ่งสามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังลำโพงผ่านระบบ Ultranet ได้โดยใช้เพียงสาย Cat5e ก็ส่งสัญญาณเสียงไปได้แล้ว อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับสินค้าของ Turbosound และ Behringer ผ่าน Ultranet ได้ง่ายๆอีกด้วย
6.การใช้งานต่างๆในSoftware
ใครที่เคยใช้งาน Behringer X32และMidas M32 อยากบอกว่าการใช้งานทุกอย่างคล้ายๆกัน แถมฟั่งชั่นต่างๆก็แทบจะเหมือนX32และM32 เรื่องของ EFX ให้มาจนเลือกใช้ไม่หมดในX32และM32มีอะไร Xair จัดให้ทุกอย่าง EFXสามารถเลือกใช้งานได้พร้อมกัน 4ตัว หรือจะใช้แบบ Insert ก็สามารถทำได้แถมสามารถใช้กับWave Multirackโดยการเชื่อมต่อผ่านUSBได้อีกต่างหาก มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มแล้วครับแบบนี้ และยังสามารถ Record เป็น Multitrack ผ่านสายUSBพร้อม Playback กลับมาเพื่อทำ Visual Sound Check ได้อีกต่างหาก ด้าน Aux Output ยังเลือกรูปแบบสัญญาณขาออกได้หลายรูปแบบเช่น Pre EQ, Post EQ, Pre Fader, Post Fader หรือเปลี่ยนโหมดจาก Aux ให้เป็น Group ก็ยังได้มีEQมาให้ทั้ง PEQ และ GEQ เรื่อง Software ถ้าบรรยายในนี้คงไม่หมดง่ายๆ เอาเป็นว่าไปลองโหลดมาใช้งานแล้วท่านจะเห็นภาพชัดมากขึ้นว่ามันคุ้มขนาดไหน
7.Auto Mixer
ในอนาคตยังสามารถ Update Firmware ให้ทำงานเป็น Auto Mixer ได้อีกต่างหาก คราวนี้งานประชุมที่ใช้ Microphone หลายๆตัวก็จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป เพราะตัว Auto Mixer นี้จะแชร์ Gain Input ของ Microphone แต่ละตัวให้ทำงานเฉลี่ยกันป้องกันเรื่อง Feedback ได้เป็นอย่างดี แถมช่วยทำงานได้สะดวกขึ้นคนไหนพูดเบาไปก็จะเร่งระดับสัญญาณขึ้นมาให้เฉลี่ยความดังให้เท่ากับ Microphone ตัวอื่นๆที่อยู่ในระบบ สะดวกสะบายสำหรับคนทำเสียง Microphone ไม่เก่งเหมือนผม
8.คุณภาพเสียง
เรื่องของคุณภาพเสียงของเจ้าXAir XR18นี้ถือว่าประทับมากทีเดียว เสียงมันคงไม่อุ่นหนาเหมือน Digital Mixer รุ่นใหญ่ๆ แต่มันให้รายละเอียดของเสียงที่ดี เสียงของEFXเป็นธรรมชาติ ปกติถ้าเราเจอพวก Digital ตัวเล็กๆแบบนี้การ Processing ในส่วนของ EFX นั้นไม่ค่อยดีไม่มีความเป็นธรรมชาติ แต่ XAir ทำได้น่าประทับใจมาก
สรุปที่กล่าวมาแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วกับเงินที่จ่ายไป ส่วนที่ผมไม่ชอบคือการออกแบบปลั๊กไฟและสวิทซ์เปิดปิดที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องเพราะมันจะรู้สึกยุ่งยากนิดนึงเวลาเรายึดกับ Rack และ Wi-Fi ที่ให้มากับตัวเครื่องถือว่าธรรมดาพอเจอ Wi-Fi ตัวอื่นที่แรงกว่าในพื้นที่เดียวกันทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ ถ้าให้ปลอดภัยที่สุดคงต้องใช้ Wi-Fi Router จากข้างนอกแทนน่าจะดีที่สุด ถือว่า Behringer ทำได้ดีที่ให้สามารถเลือกใช้ Wi-Fi จากข้างนอกได้ ส่วนตัวอื่นที่ไม่สามารถเลือกใช้ Wi-Fi จากข้างนอกได้นี่คงต้องคิดหนักแล้วล่ะ ถ้าคุณอยากรู้ว่าBehringer XAir XR18ทำงานได้ดียังไง คุณต้องลองใช้ดูครับ แล้วจะรู้ว่ามันคุ้มค่าอย่างที่ผมบอกหรือเปล่า

ออฟไลน์ tree997

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 108
  • 9660 E 454 อู๊ด
Re: ขอถามเรื่อง Mixer. X Air 18 Behringer จากผู้มีความรู้และประสบการณ์ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: วันที่ 11 พฤษภาคม 2015, 08:49:47 น. »
ขอบคุณครับ เป็นความรู้ที่ดีครับ ตัดสินได้แล้วว่าต้องซื้อ ;D
ผมสั่งไป ได้ของประมาณกลางเดือนนี้  เดาว่าเสียงน่าจะบาง แต่ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่  เพราะผมเน้นที่มันสะดวกดีครับ

ผมขอเอารีวิว ของ อ.น้อย ทรงพล แจ่มแจ้ง  มาให้อ่านละกันครับ


ทรงพล แจ่มแจ้ง ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 19 ภาพ — กับ MusicSpace Rca
27 เมษายน เวลา 20:53 น. ·
มาตามสัญญาครับกับ Behringer XAir XR18
หลังจากที่ได้รับตัวเครื่องมาทดสอบเรื่องการทำงานและคุณภาพเสียง วันนี้ขอรีวิวเรื่องคุณภาพและการใช้งานเพื่อให้ทุกคนได้ทราบรายละเอียดของสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้ามาใช้งาน เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
1.การออกแบบ
ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดด้วยน้ำหนัก 3.2 kgs. ถือว่าไม่เยอะมากสะดวกในการเคลื่อนย้าย มีหูหิ้วทำด้วยสแตนเลสง่ายต่อการจับถือคลื่นย้ายหรือจะยึดกับRackก็สามารถทำได้เพราะแถมหูยึดRackขนาด3Uมาให้ด้วย การเชื่อมต่อต่างๆอยู่ด้านหน้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นช่อง Input/Output ไม่ต้องอ้อมไปเสียบด้านหลังให้ยุ่งยาก
2.Built-in Tri Mode Wi-Fi
มีWi-Fiมาให้เสร็จสรรพขนาดคลื่นความถี่ 2.4GHz สามารถตั้งค่าChannel เพื่อเลือกช่องสัญญาณWi-Fiได้ อีกทั้งสามารถใช้ Wi-Fi Router จากข้างนอกเพื่อเชื่อมต่อกับตัวเครื่องโดยไม่ใช้Wi-Fiที่ให้มากับเครื่อง เพราะบางครั้งเราไปเจอสถานที่ที่ใช้สัญญาณWi-Fiเป็นจำนวนมาก และเมื่อความถี่ใกล้กันตัวที่สัญญาณอ่อนกว่าก็จะโดนแทรกแซงไปโดยปริยาย แต่เราก็สามารถหาRouterคลื่นความถี่ขนาด 5 GHzมาใช้งานแทนได้ หรือจะใช้สายCat5ในการเชื่อมต่อระหว่างตัวเครื่องกับคอมพิวเตอร์ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ใช้งานที่สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย
3.Applicationบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย
XAir XR18นั้นสามารถเลือกอุปกรณ์เพื่อใช้งานApplicationได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น iPad, iPhone, Android,Mac หรือ PC ไม่ว่าท่านจะมีอุปกรณ์ชนิดไหนก็ไม่ต้องกังวลสามารถเลือกใช้งานได้ตามความถนัด
4.Combo Jack Input Connector & Routing
Connector ของ XAir XR18 ที่ให้มานั้นทางด้าน Input ทั้งหมด16ช่อง เป็นแบบ Combo Jack นั้นคือใน1ช่องสัญญาณเราจะใช้Connectorแบบ XLR หรือ Jack Phone 1/4” ก็ได้ ให้มาแบบไม่มีกั๊ก ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ค่อยมีในหลายๆยี่ห้อ นั่นเท่ากับว่าเราสามารถเลือกใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น บางยี่ห้อจะให้Connector แบบ Combo Jack อย่างมากก็ 6 ช่องสัญญาณ การRouting สัญญาณนั้นทำได้อย่างอิสระทุกช่องสัญญาณ Input และ Output นั่นคือเราสามารถเลือกสัญญาณ Analog Input จากช่องที่1ไปลงChannelไหนก็ได้ในหน้า Mixer บน Software หรือช่องสัญญาณ Aux Output หรือ Master ก็ไปเลือกออกที่ช่องAnalog Outputไหนก็ได้ ส่วนมากฟั่งชั่นนี้มักจะเจอกับMixerรุ่นใหญ่ๆเท่านั้น แต่ด้วยตัว XAir XR18 มันทำได้ขนาดนี้ถือว่าคุ้มมากๆ ต้องยกให้ความคิดนี้เป็นความคิดที่ชาญฉลาดของผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจเรื่องการทำงานทำให้ผู้ใช้งานทำงานได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับ Personal Monitor ให้นักดนตรีบนเวทีสามารถปรับเสียง Monitor ของตัวเองได้อิสระอีกต่างหากโดยผ่านระบบ Ultranet
5.Ultranet
ชื่อนี้หลายๆคนอาจจะไม่รู้จักและไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ถ้าบอกว่าเป็นการส่งสัญญาณแบบ Digital เหมือนกับที่เรารู้จัก Dante, MADI, AES50 ฯลฯ แต่ Ultranet นี้ทาง Behringer เลือกใช้งานเพื่อให้สามารถส่งสัญญาณแบบDigitalไปยังProductที่ใช้ Ultranet เช่น ลำโพงของTurbosound ซึ่งสามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังลำโพงผ่านระบบ Ultranet ได้โดยใช้เพียงสาย Cat5e ก็ส่งสัญญาณเสียงไปได้แล้ว อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับสินค้าของ Turbosound และ Behringer ผ่าน Ultranet ได้ง่ายๆอีกด้วย
6.การใช้งานต่างๆในSoftware
ใครที่เคยใช้งาน Behringer X32และMidas M32 อยากบอกว่าการใช้งานทุกอย่างคล้ายๆกัน แถมฟั่งชั่นต่างๆก็แทบจะเหมือนX32และM32 เรื่องของ EFX ให้มาจนเลือกใช้ไม่หมดในX32และM32มีอะไร Xair จัดให้ทุกอย่าง EFXสามารถเลือกใช้งานได้พร้อมกัน 4ตัว หรือจะใช้แบบ Insert ก็สามารถทำได้แถมสามารถใช้กับWave Multirackโดยการเชื่อมต่อผ่านUSBได้อีกต่างหาก มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มแล้วครับแบบนี้ และยังสามารถ Record เป็น Multitrack ผ่านสายUSBพร้อม Playback กลับมาเพื่อทำ Visual Sound Check ได้อีกต่างหาก ด้าน Aux Output ยังเลือกรูปแบบสัญญาณขาออกได้หลายรูปแบบเช่น Pre EQ, Post EQ, Pre Fader, Post Fader หรือเปลี่ยนโหมดจาก Aux ให้เป็น Group ก็ยังได้มีEQมาให้ทั้ง PEQ และ GEQ เรื่อง Software ถ้าบรรยายในนี้คงไม่หมดง่ายๆ เอาเป็นว่าไปลองโหลดมาใช้งานแล้วท่านจะเห็นภาพชัดมากขึ้นว่ามันคุ้มขนาดไหน
7.Auto Mixer
ในอนาคตยังสามารถ Update Firmware ให้ทำงานเป็น Auto Mixer ได้อีกต่างหาก คราวนี้งานประชุมที่ใช้ Microphone หลายๆตัวก็จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป เพราะตัว Auto Mixer นี้จะแชร์ Gain Input ของ Microphone แต่ละตัวให้ทำงานเฉลี่ยกันป้องกันเรื่อง Feedback ได้เป็นอย่างดี แถมช่วยทำงานได้สะดวกขึ้นคนไหนพูดเบาไปก็จะเร่งระดับสัญญาณขึ้นมาให้เฉลี่ยความดังให้เท่ากับ Microphone ตัวอื่นๆที่อยู่ในระบบ สะดวกสะบายสำหรับคนทำเสียง Microphone ไม่เก่งเหมือนผม
8.คุณภาพเสียง
เรื่องของคุณภาพเสียงของเจ้าXAir XR18นี้ถือว่าประทับมากทีเดียว เสียงมันคงไม่อุ่นหนาเหมือน Digital Mixer รุ่นใหญ่ๆ แต่มันให้รายละเอียดของเสียงที่ดี เสียงของEFXเป็นธรรมชาติ ปกติถ้าเราเจอพวก Digital ตัวเล็กๆแบบนี้การ Processing ในส่วนของ EFX นั้นไม่ค่อยดีไม่มีความเป็นธรรมชาติ แต่ XAir ทำได้น่าประทับใจมาก
สรุปที่กล่าวมาแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วกับเงินที่จ่ายไป ส่วนที่ผมไม่ชอบคือการออกแบบปลั๊กไฟและสวิทซ์เปิดปิดที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องเพราะมันจะรู้สึกยุ่งยากนิดนึงเวลาเรายึดกับ Rack และ Wi-Fi ที่ให้มากับตัวเครื่องถือว่าธรรมดาพอเจอ Wi-Fi ตัวอื่นที่แรงกว่าในพื้นที่เดียวกันทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ ถ้าให้ปลอดภัยที่สุดคงต้องใช้ Wi-Fi Router จากข้างนอกแทนน่าจะดีที่สุด ถือว่า Behringer ทำได้ดีที่ให้สามารถเลือกใช้ Wi-Fi จากข้างนอกได้ ส่วนตัวอื่นที่ไม่สามารถเลือกใช้ Wi-Fi จากข้างนอกได้นี่คงต้องคิดหนักแล้วล่ะ ถ้าคุณอยากรู้ว่าBehringer XAir XR18ทำงานได้ดียังไง คุณต้องลองใช้ดูครับ แล้วจะรู้ว่ามันคุ้มค่าอย่างที่ผมบอกหรือเปล่า