eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: jhasound ที่ วันที่ 6 มิถุนายน 2011, 07:12:08 น.
-
การเล่น 2 ทาง วิธีต่อลำโพงกลางแหลมครับต่อแบบไหนเสียงดี โดย 1 ตู้จะมีดอก กลาง 2 ดอก แหลม 1 ดอก
แบบที่ 1 ต่อแบบเอาเสียงกลาง 2 ดอกมาขนานกันจะได้ 4 โอมห์ และดอกแหลม พ่านเน็ตเวิกต์แหลม แล้วมาขนานกับดอกกลางที่ขนานเมื่อกี้ (การต่อแบบนี้มีเฉพาะเน็ตเวิกต์เสียงแหลมอย่างเดียว)
แบบที่ 2 ต่อแบบผ่านเน็ตเวิกต์ 2 ทาง
สรุป เล่น 2 ทาง การต่อแบบไหนเสียงดีกว่าครับ ส่วนมากคนนิยมต่อแบบไหนครับ แบบ เน็ตเวิกต์ แหลมอย่างเดียว หรือ เน็ตเวิกต์ 2 ทาง ย้ำนะครับ 1 ตู้ มีดอกกลาง 2 ดอก แหลม 1 ดอก :thank1:
-
การเล่น 2 ทาง วิธีต่อลำโพงกลางแหลมครับต่อแบบไหนเสียงดี โดย 1 ตู้จะมีดอก กลาง 2 ดอก แหลม 1 ดอก
แบบที่ 1 ต่อแบบเอาเสียงกลาง 2 ดอกมาขนานกันจะได้ 4 โอมห์ และดอกแหลม พ่านเน็ตเวิกต์แหลม แล้วมาขนานกับดอกกลางที่ขนานเมื่อกี้ (การต่อแบบนี้มีเฉพาะเน็ตเวิกต์เสียงแหลมอย่างเดียว)
แบบที่ 2 ต่อแบบผ่านเน็ตเวิกต์ 2 ทาง
สรุป เล่น 2 ทาง การต่อแบบไหนเสียงดีกว่าครับ ส่วนมากคนนิยมต่อแบบไหนครับ แบบ เน็ตเวิกต์ แหลมอย่างเดียว หรือ เน็ตเวิกต์ 2 ทาง ย้ำนะครับ 1 ตู้ มีดอกกลาง 2 ดอก แหลม 1 ดอก :thank1:
1. เอาความคิดผมสำำหรับผม มันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่นำไปใช้งาน ความสะดวกสบายเป็นหลัก และสามารถใ้ช้งานหลากหลาย สมมุติเจตนาผมต้องการเล่นสองทางแต่ต้องการใช้สำหรับงานเล็กได้ด้วยโดยที่ไ่ม่ต้องใช้ลำโพง ซับเบส ผมก็ไม่ใส่เน๊ตเวิกเสียงกลางแต่ผมใช้เสียงแหลม อย่างเดียว เพราะการใส่เน๊ตเวิกเสียงกลางก็จะจำกัดความถี่ต่ำบางความถี่ไป เช่น เบสต่ำ หรือ เบส ส่วนการนำไปใช้ร่วมกับซับเบส ก็ขึ้นอยู่ที่การตัดความถี่ที่คลอส
2. กรณีตู้เบิ้ล กลาง 2 ดอก ถ้าเป็นผม ผมจะเลือก 2 ดอกต่อกันแล้วความต้านทานได้ 8 โอมห์ (อาจจะเป็น 4 โอมห์ 2 ดอก อนุกรมกัน หรือดอก 16 โอมห์ 2 ดอก ขนานกัน ) ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น 2.1 การต่อพ่วงระหว่างตู้ 2.2 ขยายเสียงที่นำมาขับ 2.3 ผลของเสียงที่ออกมา 3.3 ฯลฯ
-
ตู้กลาง แหลม ซึ่งมีดอกกลางแฝด 2 ดอก เป็นตู้ก็อป jbl ผมก็มีใช้งานอยู่ 2 ตู้ ตู้แบบนี้มีขนาดใหญ่ สูงมากเท่าๆกับ W และหนักกว่า W ที่ผมมีเสียอีก..ตู้แบบนี้ให้เสียงกลางที่อมเบสหน่อย คือเสียงกลางที่ออกใหญ่ๆหนาๆ มีน้ำหนักเสียงมาก แต่ให้ควมดังมาก ชนิดที่ว่าถ้าได้พาวเวอร์ขับกลางดีๆ กำลังสูงๆ ตู้แบบนี้ ข้างละแค่ 2 ตู้ ยกสูงๆหน่อย เอางานขนาดสนามฟุตบอลอยู่หมัดเลย
...การต่อพ่วงดอกกลางในตู้ควรต่อแบบขนาน จะได้ความต้านทาน 4 โอห์ม และต่อขนานอีกชุดไปเข้า Passive crossover network สำหรับเสียงแหลมในตู้และต่อเข้าดอกแหลมเลย ต่อเล่นแบบนี้ใช้พาวเวอร์ที่สเป็คบอกโหลดได้แค่ 4 โอห์มมาขับก็ไม่มีปัญหา..แต่ถ้าใช้พาวเวอร์ที่สเป็คบอกโหลดได้ถึง 2 โอห์ม ยิ่งดีครับ สำคัญที่พาวเวอร์ที่ใช้ต้องมีกำลังขับวัตต์ต่อข้าง พอดี สมดุลย์กับกำลังรับวัตต์ของดอกลำโพงรวมกันด้วย..
...การจะเล่นแบบ 2 ทางผมเคยเขียนตอบคนถามไว้ในกระทู้นี้ ลองตามไปดูครับ
http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=50555.0
-
(http://image.ohozaa.com/i/3df/xez41.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=01db802930515a3c790eb505b01f0090)
ตามรูปต่อแบบไหนดีครับ ที่นิยมต่อกัน และแบบมาตรฐาน โอมห์ ออกมาที่ 4 โอมเหมือนกัน
แบบ 1 แหลมผ่านเน็ตเวิกต์ กลางต่อตรง
แบบ 2 กลางแหลม ผ่านเน็ดเวิกต์ 2 ทาง
-
...แบบที่ท่านเอาแปลนมาให้ดูในการเล่นระบบ 2 ทาง มันใช้ได้ทั้ง 2 แบบ...แต่อยู่ที่จะเลือกเอามาเล่นกับการต่อระบบอย่างไรเท่านั้น..แบที่ 1 มันเหมาะกับการใช้กับระบบ 3 ทางมากกว่า เพราะถ้าเอาใช้กับระบบ 2 ทางแล้วเสียงที่ได้จะไม่เพราะ เสียงกลางจะหายไปมาก ไม่พุ่ง ไม่โปร่ง หวาน หนา
..ส่วนแบบที่ 2 มันใช้กับระบบ 2 ทางทั้งเล่นโดยใช้ Electronic crossver แบบ 2 ทาง หรือ ไม่ใช้ก็ได้ ถ้าไม่ใช้ก็โดยการต่อพ่วง Link หลังแอมป์ แยกกันไปขับซับ 1แท่น ขับกลางแหลม 1แท่น
..เรื่องการเล่น 2 ทางโดยใช้ Passive crossover network ผมเคยเขียนไว้ที่นี่..ลองตามไปอ่านนะครับ...อาจจะมีอะไรวุ่นๆกันหน่อยในกระทู้ ก็พยายามเลือกที่ผมเขียนมาปะติดปะต่อกันเอานะครับ..
http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=50320.msg618059
-
ขอขอบคุณมากครับที่ได้อธิบายในรูป เห็นรูปแล้วอธิบายเข้าใจขึ้นมากเลย :thank1:
-
สรุปเล่นสองทางก็คือเนสามทาง เพราะมี ลำโพงสามย่าน แต่ ลดเพาเวอร์ลงเท่านั้นเองครับ
-
สรุปเล่นสองทางก็คือเนสามทาง เพราะมี ลำโพงสามย่าน แต่ ลดเพาเวอร์ลงเท่านั้นเองครับ
ผมก้อว่างั้นล่ะครับ ทีแอมป์บ้านตัวเดียวยังเรียกสามทาง เบส กลาง แหลม กันเลยทำไมไม่เรียกเล่นทางเดียว ใช้แอมป์สองแต่NWก้อตัดออกไปอีกทีให้เป็นสามทางอยู่ดี
-
...จริงๆที่ถูกแล้วเขาเรียกเล่นแบบ...
- Single - amp. เล่นโดยใช้พาวเวอร์แอมป์แท่นเดียวขับทั้ง Low Mid Hight โดยใช้ Passive crossover network แบบ 3 ทางเป็นตัวแยกความถี่ไปเข้ายัง Driver ต่างๆ..สามารถเล่นได้ทั้งระบบในบ้าน และระบบสนาม (PA) เพียงแต่จะต่างที่ Volt ของ C เท่านั้น ในบ้านใช้ C 50 Volt ..สนามใช้ C 250 Volt
- Bi-amp. เล่นโดยใช้พาวเวอร์แอมป์ 2 แท่นแยกขับ Low 1 แท่น..ขับ Mid+Hight 1 แท่น แบบนี้จะใช้ Electronic cross แบบ 2 ทางหรือไม่ใช้ก็ได้ แต่ต้องใช้ Passive crossover network 2 ทางกลาง-แหลม ในตู้ร่วมด้วย
- Tri-amp. เล่นโดยใช้พาวเวอร์แอมป์ 3 แท่นแยกขับ Low Mid Hight และต้องใช้ Electronic cross แบบ 3 ทาง แบบนี้ไม่ต้องใช้ Passive crossover network 2 ทางกลาง-แหลม ..ใช่แค่ Passive crossover network เสียงแหลมอย่างเดียวเท่านั้น