เท่าที่อ่านกระทู้ของสมาชิกมาหลายปี เกือบทุกคนพยายามเสาะหาซาวด์การ์ดที่สามารถตอบสนองควมต้องการได้มาใช้ โดยมีเหตุผลเหมือนๆกันว่ารับไม่ค่อยได้กับเสียงที่ได้จาก ซาวด์ออนบอร์ด วันนี้ขอนำเคล็ดเล็กๆน้อยๆที่หลายคนมองข้ามมาฝากกัน คนที่รู้แล้วก็เฉยๆไว้ครับ เพราะผมก็จำขี้ปากเขามาอีกที
อย่างที่รู้ๆกันว่าคุณภาพเสียงในระบบดิจิตอลขึ้นอยู่กับ Hardware ซึ่งก็คือซาวด์การ์ด และเหตุผลอีกสองอย่างได้แก่การตั้งและเซ็ตค่า bitrate และค่าความที่ที่นำมาใช้ในการถอดรหัส (sampling)ของอุปกรณ์ โดยในทางทฤษฎี bitrate ที่ใช้ในการเข้ารหัสก็มักจะว่ากันที่ 16 bit ,18 bit,20 bit , 24 bit, 32 bit , 40 bit ประมาณนั้น ว่ากันว่ายิ่งมากเสียงยิ่งดี
ส่วนที่สองคือ ค่า sampling rate ซึ่งคุณภาพที่ได้ก็ไล่กันตั้งแต่น้อยไปหามาก โดยในระดับมาตรฐานของคอมพิวเตอร์หรือระดับเสียงทั้วๆไปก็มีคร่าวๆประมาณนี้ ซึ่งค่าต่างๆทั้งสองอย่างนี้ทำได้ไม่เท่ากันในชิบซาวด์แต่ละตัวแต่ละรุ่น
ที่นี้เราก็มาว่ากันถึงวิธีเซ็ตเพื่อให้ชิบซาวด์ตัวนั้น ทำงานเต็มประสิทธิภาพร้อยเปอร์เซนต์
1. คลิกที่รูปลำโพงที่ taskbar ด้านล่างขวามือ
2. คลิกที่ mixer
3. คลิกที่ อุปกรณ์ที่เราใช้เป็นเสียงออก ในที่นี้คือ speaker (หมายเลข1) จะมีหน้าต่าง speaker properties โผล่ขึ้นมา
ให้เราคลิกที่แทป Advanced (หมายเลข 2)
4.ค่า default format ที่ใช้อยู่ตอนนี้จะแสดงขึ้นมา
5.หากต้องการปรับเปลี่ยนจากที่เป็นอยู่ ให้กดที่เครื่องหมายดรอปดาวน์(ลูกศรชี้ลง) เพื่อแสดงให้เห็นว่าซาวด์ตัวนี้สามารถทำงานที่ค่า bitrate และค่าsampling ได้ที่เท่าไหร่บ้างตามนี้
6.ทีนี้ก็อยู่ที่หูท่านละกว่าจะตั้งค่าบิทเรท และค่าแซมปลิ้งเรทที่เหมาะสมเท่าไหร่ เลือกแล้วกด test เพื่อทดสอบว่ามันทำงานได้จริงหรือไม่
จำไว้ว่า ยิ่งตั้งเยอะ ระบบยิ่งทำงานหนัก และที่ระดับสูงมากๆ หูผมก็แยกไม่ออกแล้ว ดังนั้น ผมใช้อยู่แค่ที่ 24bit,96000Hz ผมพอใจแล้ว
ปรับแล้วอย่าลืมกด OK เพื่อทำการบันทึก แล้วลองไปทดสอบฟังเพลงกันดูครับ หาเพลงที่คุณภาพดีๆหน่อยน๊ะ mp3 ตลาดๆที่เขาอัพกันอาจไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ขอให้โชคดี ไม่เสียเงินครับ