ผู้เขียน หัวข้อ: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง  (อ่าน 9065 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ spm150

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 388
  • HL#8CABD2E8 (ปีอกมิวสิคโปร)
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: วันที่ 21 มีนาคม 2011, 23:30:45 น. »
ผมว่าไม่เสมอไปหรอกครับ ไม่งั้นคงไม่ผลิตซาว์ดการ์ด  ออกมาขายกันราคาเรือนหมื่นหรอกครับ  ผมว่านะ  อิอิอิอิ  เริ่มมีความรุ้ขึ้นมาหน่อยจากท่าน กูรู  มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง  ตั้งแต่ตัวกำเนิดเสียง  ภาคขยาย  ออกสู่ลำโพง  จนกระทบโสตประสาทหูของเรานะครับ  ผมยอมรับว่า เมนบอร์ดทุกวันนี้ได้พัฒนาระบบเสียงมาพร้อมกันเลย  แต่ความสามารถคงจะสู้ตัวที่ทำหน้าที่เฉพาะเสียงโดยตรงไม่ได้กะมั่งครับ  ถ้างั้นบริษัทยักษ์ใหญ่คงขายซาว์ดไม่ได้อย่างแน่นอน  อย่างเช่น ระบบสังเคราะห์เสียงจากเครื่องดนตรีภายนอก ถ้าไม่มีซาว์ดการ์ดเป็นตัวเชื่อม  ค่ายเพลงใหญ่ๆ ในประเทสไทยหรือเทศ  ผมเชื่อแน่ว่า  ไม่มีค่ายไหนแน่ที่ไม่ใช้ซาว์ดการ์ด  นะครับ  สรุป(ตามความคิดผมนะครับ ไม่รู้ถูกหรือเปล่า) 

ออฟไลน์ พ.พล

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 4288
  • 3C0542C6, 4A95C3D5 [x-men]
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: วันที่ 21 มีนาคม 2011, 23:43:03 น. »
ผมว่าเรื่อง Soundcard เราต้องแยกประเภทให้ออกครับ.. ใช้ยังไง ใช้ที่ไหน Studio หรือ PA
Soundcard ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนสำหรับงาน Studio แต่พอออก PA อาจสู้ตัวหลักพันไม่ได้ก็เป็นได้

ซึ่งหลายคนก็คงเค้าใจอยู่แล้วว่างาน Studio มันละเีอียดกว่างาน PA มาก
และงาน PA ใหญ่ๆ ตัวกำเนิดเสียงผมว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ได้มาจาก Computer

และสิ่งสำคัญเครื่องไม้เครื่องมีในการปรับแต่งเสียงของเรารวมไปใจถึงดอกและตู้ลำโพงก็มีส่วนเยอะ
ซึ่งจะให้เสียงออกมาดี ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันสอดคล้องกันให้ได้มากทีสุด

;D ;D

suthara

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 00:07:45 น. »
ผมว่าเรื่อง Soundcard เราต้องแยกประเภทให้ออกครับ.. ใช้ยังไง ใช้ที่ไหน Studio หรือ PA
Soundcard ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนสำหรับงาน Studio แต่พอออก PA อาจสู้ตัวหลักพันไม่ได้ก็เป็นได้

ซึ่งหลายคนก็คงเค้าใจอยู่แล้วว่างาน Studio มันละเีอียดกว่างาน PA มาก
และงาน PA ใหญ่ๆ ตัวกำเนิดเสียงผมว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ได้มาจาก Computer

และสิ่งสำคัญเครื่องไม้เครื่องมีในการปรับแต่งเสียงของเรารวมไปใจถึงดอกและตู้ลำโพงก็มีส่วนเยอะ
ซึ่งจะให้เสียงออกมาดี ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันสอดคล้องกันให้ได้มากทีสุด

;D ;D

ตามนั้นครับ

ส่วนตัวผมเอง  ครั้งแรกที่รู้จัก MIDI Karaoke ก็ค้นคว้าหามาซึ่ง Sound Card เพื่อเสียงที่คิดว่าดี
หลังจากงมงายซื้อมาลองหลายรุ่นแล้วขายทิ้งเพื่อรุ่นที่(หลงผิด)คิดว่าดีกว่า  ตั้งแต่ CT 4780
ไปจนถึง X-fi ... ตัวครึ่งหมื่น  สุดท้ายได้ฟังเสียงซาวน์ฟอนท์จากออนบอร์ดของเจ้าหนึ่งในชลบุรี
ทำให้ผมคิดได้ว่า...... "ถึง Sound Card เราจะดี+โหลดซาวน์ฟอนท์ได้ขาดขนาดไหน
ถ้าซาวน์ฟอนท์นั้นไม่สมบูรณ์ดังที่ต้องการยังไง  เราก็เหมือนกับนั่งรถไฟที่ถูกบังคับไปตามราง"
ลองเดินลงข้างทางไปกับถนนในป่าที่คนอื่นแผ้วถางไว้บ้างครับ  แล้วจะเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นตอนนั่งบนรถไฟ
บางทีเราอาจได้ทำทางเดินเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นเดินตามบ้างก็ได้......ใคระไปรู้ ^_^

 :beer: :beer: :beer: :beer:  :flower: :flower: :flower: :flower:

ออฟไลน์ spm150

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 388
  • HL#8CABD2E8 (ปีอกมิวสิคโปร)
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 00:32:14 น. »
สุดยอดของความคิด ต่อยอดกันได้ดีมากครับ  อืมก็อีกแง่คิดก็เข้าท่านะครับ

ออฟไลน์ สไปเดอร์แมน

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 4752
  • HL#648948B1 (x-men)
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 07:08:15 น. »
คุณภาพ ต่างกันตามราคาครับ เปรียบเหมือนจักรยาน กับรถสิบล้อ การ์ดที่มีราคาแพงย่อมขนของได้มากกว่า หรือคุณภาพเสียง ส่วนประกอบของเสียงเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้มากกว่าของแถม หรือของราคาถูก ไม่งั้นของราคาสูง ก็คงขายไม่ได้ คนซื้อก็คงไม่ใช่คนบ้า....ที่หาของแพงๆมาใช้...แต่ถ้าคิดจะทำมาหากินด้วย คอมพิวเตอร์ คาราโอเกะ แนะนำให้ลงทุนด้วยชุดคอมพิวเตอร์+Soundcard คูณภาพดี ตามที่งบประมาณจะจัดหาซื้อมาได้ ไม่งั้นจะเหมือนท่านจ้างพนักงานขับรถชั้นดี มาขี่รถจักรยานแทน.....ลงทุนกับเครื่องเสียง ลำโพง เครื่องปรุงสารพัด ดันมาจำกัดคุณภาพ ที่แหล่งต้นทาง...ผลที่ได้ก็ไม่คุ้มค่า ไม่คุ้มราคาเด้อครับ...ซื้อเครื่องเสียงเรือนล้าน มาใช้คอม+ซาวน์ดออนบอร์ด ราคาหลักร้อย หลักพัน ก็กระไรอยู่... ??? ??? ???

m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 07:17:52 น. »
คุณภาพ ต่างกันตามราคาครับ เปรียบเหมือนจักรยาน กับรถสิบล้อ การ์ดที่มีราคาแพงย่อมขนของได้มากกว่า หรือคุณภาพเสียง ส่วนประกอบของเสียงเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้มากกว่าของแถม หรือของราคาถูก ไม่งั้นของราคาสูง ก็คงขายไม่ได้ คนซื้อก็คงไม่ใช่คนบ้า....ที่หาของแพงๆมาใช้...แต่ถ้าคิดจะทำมาหากินด้วย คอมพิวเตอร์ คาราโอเกะ แนะนำให้ลงทุนด้วยชุดคอมพิวเตอร์+Soundcard คูณภาพดี ตามที่งบประมาณจะจัดหาซื้อมาได้ ไม่งั้นจะเหมือนท่านจ้างพนักงานขับรถชั้นดี มาขี่รถจักรยานแทน.....ลงทุนกับเครื่องเสียง ลำโพง เครื่องปรุงสารพัด ดันมาจำกัดคุณภาพ ที่แหล่งต้นทาง...ผลที่ได้ก็ไม่คุ้มค่า ไม่คุ้มราคาเด้อครับ...ซื้อเครื่องเสียงเรือนล้าน มาใช้คอม+ซาวน์ดออนบอร์ด ราคาหลักร้อย หลักพัน ก็กระไรอยู่... ??? ??? ???
;D ;D ;D :happy: :happy: :happy: ;D ;D ;D

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4291
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 07:28:22 น. »
ผมว่าเรื่อง Soundcard เราต้องแยกประเภทให้ออกครับ.. ใช้ยังไง ใช้ที่ไหน Studio หรือ PA
Soundcard ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนสำหรับงาน Studio แต่พอออก PA อาจสู้ตัวหลักพันไม่ได้ก็เป็นได้

ซึ่งหลายคนก็คงเค้าใจอยู่แล้วว่างาน Studio มันละเีอียดกว่างาน PA มาก
และงาน PA ใหญ่ๆ ตัวกำเนิดเสียงผมว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ได้มาจาก Computer

และสิ่งสำคัญเครื่องไม้เครื่องมีในการปรับแต่งเสียงของเรารวมไปใจถึงดอกและตู้ลำโพงก็มีส่วนเยอะ
ซึ่งจะให้เสียงออกมาดี ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันสอดคล้องกันให้ได้มากทีสุด

;D ;D

เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4291
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 07:29:21 น. »
ตามนั้นครับ

ส่วนตัวผมเอง  ครั้งแรกที่รู้จัก MIDI Karaoke ก็ค้นคว้าหามาซึ่ง Sound Card เพื่อเสียงที่คิดว่าดี
หลังจากงมงายซื้อมาลองหลายรุ่นแล้วขายทิ้งเพื่อรุ่นที่(หลงผิด)คิดว่าดีกว่า  ตั้งแต่ CT 4780
ไปจนถึง X-fi ... ตัวครึ่งหมื่น  สุดท้ายได้ฟังเสียงซาวน์ฟอนท์จากออนบอร์ดของเจ้าหนึ่งในชลบุรี
ทำให้ผมคิดได้ว่า...... "ถึง Sound Card เราจะดี+โหลดซาวน์ฟอนท์ได้ขาดขนาดไหน
ถ้าซาวน์ฟอนท์นั้นไม่สมบูรณ์ดังที่ต้องการยังไง  เราก็เหมือนกับนั่งรถไฟที่ถูกบังคับไปตามราง"
ลองเดินลงข้างทางไปกับถนนในป่าที่คนอื่นแผ้วถางไว้บ้างครับ  แล้วจะเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นตอนนั่งบนรถไฟ
บางทีเราอาจได้ทำทางเดินเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นเดินตามบ้างก็ได้......ใคระไปรู้ ^_^

 :beer: :beer: :beer: :beer:  :flower: :flower: :flower: :flower:

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4291
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 07:32:01 น. »
ผมบังเอิญเกิดก่อนหลายๆ ท่านในที่นี้  และก็โชคดีที่ได้ลองเล่นในสิ่งที่ชอบ  ผมเล่นคอมมาตั้งแต่มันไม่มีเสียง และร้องเพลงยังไม่เป็น จอก็เป็นสีเขียว 
เล่นแบบงูๆ ปลาๆ  ไปเรียนบ้างแต่ก็ไม่แตกฉาน  สมัยก่อนเล่นบนดอสอย่างเดียว  จวบจนมี วินโดว์ 3.1 เกิดขึ้นซาวด์การ์ดถึงได้พัฒนาแบบก้าวกระโดด 
แต่การนำไปใช้งานจะแบ่งการพัฒนาตามเงื่อนไข การตลาดเป็นหลัก  คือ ตลาด โฮมยูส  กับงานอาชีพซึ่งก็คือในงานในสตูดิโอ
โฮมยูสนั้น  คือการนำไปใช้งานเพื่อ  เอ็นเทอร์เทน ทุกคนในบ้าน คือดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อาจจะมีเร็คคอร์ดบ้าง เท่านั้นจริงๆ
ต่อมาก็นำไปใช้งานกับ คาราโอเกะ และก็ต่อยอดไปได้อีกเล็กน้อย  นั่นหมายถึง ใช้ ซาวด์การ์ด ในลักษณะ Player เกือบ 100% 
งานเล่นอย่างเดียวสำหรับในบ้านนั้น  ปัจจุบันที่เทคโนโลยี่ถือว่าก้าวหน้ามากนั้น ซาวด์ออนบอร์ด ที่อินเทลเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงนั้น 
ถือว่าให้ความเป็น ไฮไฟ หรือ  High fidelity ได้พอเพียงต่อการใช้งานแล้ว  แต่มันก็ยังมีแต่อีกแหละ  ในโลกของเสียงซึ่งไม่หยุดอยู่กับที่ 
พลังของคนที่รักในเส้นเสียงและมีอำนาจซื้อสูงต้องการมากกว่านั้น เพื่อมาเข้าชุดกับระบบเสียงอันแสนแพงของเขา ย้ำว่าระบบเสียงที่แพง ของเขาทั้งระบบ 
จึงเกิดมีซาวด์การ์ดที่ใช้ในบ้านขึ้นมาอีกระดับและต่อยอดออกไปเป็น DAC อย่างที่รู้กัน  แต่ต้องมีเงินถึงพอสมควร
เพราะต้องใช้อุปกรณ์เส้นสายซึ่งบางทีมันแพงกว่า DAC  เสียอีก และเป็นกฎตายตัวของการตลาด
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตซาวด์ออกขายทั่วโลก เมื่อผลิตรุ่นเรือธง  ออกมา ก็จะมีรุ่นคอมเมอร์เชียลออกมาในราคาที่คนทั่วไปยอมควักเงินซื้อซึ่งก็ขายรับเงินได้มหาศาล 
คือรุ่นที่ว่ากันนั่นละ  ตอนออกใหม่หนังสือที่เกี่ยวกับคอมเขียนเชียร์ออกหน้าออกตา แม้ทุกวันนี้ก็ยังปั่นราคากันอยู่

ผมถึงได้บอกว่า ซาวด์การ์ดในระดับราคาไม่ถึงหมื่นนั้น กลไกด้านตลาดมันให้ได้แค่นั้น คือเป็นแค่ตัว  Player  เท่านั้นครับ อย่าไปหวังอะไรมากนัก

ส่วนในสตูดิโอนั้น  เน้นที่ Record  เป็นหลัก จึงเกิดมี ซาวด์การ์ดทุกระดับราคา เพื่อป้อนตลาดตามกำลังเงิน  การ์ดที่มีภาค  A/D  มีภาค ไมค์ปรีดีๆ ขั้นสุดยอด 
มีอินพุตเอ้าพุตหลายช่องมักจะมี หน่วยประมวลผลในตัวซึ่งไม่ต้องพึ่งพา CPU ของตัวคอมพิวเตอร์  ราคาก็แพงขึ้นหลักหลายๆ แสน

แต่ ภาค Player  ของการ์ดในสตูดิโอ  กลับไม่ได้ใช้ชิพหรืออ๊อพแอมป์ที่วิเศษไปกว่า       โฮมยูส มากมายนัก 
เพราะเขาถือว่ามีไว้เพื่อ ขับลำโพงมอนิเตอร์เพื่อให้เสียงที่เป็นกลางและ ใช้ เป็น มอนิเตอร์ แท้ๆ เท่านั้นครับ

ต่อมาในเรื่องของคาราโอเกะ  ก็ยังแยกออก ระหว่าง  โฮมยูส  กับอาชีพ อาชีพหมายถึงการมีวงเพื่อรับจ้างออกงาน  จะสมัครเล่นเป็นรายได้เสริม หรือจริงจังก็ตาม
การแข่งขันและตลาดผู้เป็นเจ้าภาพ ก็จะเป็นตัวกำหนดในการลงทุนกับเรื่องของซาวด์ เพื่อเข้าถึงคุณภาพ  ถึงตอนนี้ต้องแยกให้ออกละครับ 
ในเรื่องของซาวด์การ์ด ถ้าภายในบ้านผมพอแนะนำได้  แต่งานกลางแจ้ง ผมมันรู้แค่อนุบาลคงต้องให้ท่านอื่นมาแนะนำต่อ

และอย่างที่บอก ตัวหนังสือผมสามารถโต้แย้งได้ครับ  แค่นิดเดียวที่การแย้งนั้น ต้องด้วยเหตุผลและความรู้ประกอบบ้าง
ทั้งนี้เพื่อเกิดประโยชน์กับท่านอื่นที่ไม่รู้จริงๆ  ความรู้ที่แท้จริงที่ใหม่กว่าครบถ้วนสมบูรณ์กว่าที่ผมพูดถึงมันจะช่วยเติมเต็ม
และเป็นการสร้างให้เกิดองค์ความรู้ แก่ชุมชนอันเป็นที่รักของเราในนี้  ไม่ใช่แย้งด้วย ความรู้สึก เพียงอย่างเดียว สังคมจะไม่ได้อะไรเลยครับ

ออฟไลน์ spm150

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 388
  • HL#8CABD2E8 (ปีอกมิวสิคโปร)
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 08:39:10 น. »
เห็นด้วยกะป๋า  มะละกอ ครับ เพราะท่านเล่นเครื่องเสียงมามากกว่า 60  ปีแหล่ะครับป๋า  แล้วของที่ป๋ามีไม่ถอดออกมาปล่อยบ้างหรือครับป๋า

m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 09:11:01 น. »
ผมบังเอิญเกิดก่อนหลายๆ ท่านในที่นี้  และก็โชคดีที่ได้ลองเล่นในสิ่งที่ชอบ  ผมเล่นคอมมาตั้งแต่มันไม่มีเสียง และร้องเพลงยังไม่เป็น จอก็เป็นสีเขียว  
เล่นแบบงูๆ ปลาๆ  ไปเรียนบ้างแต่ก็ไม่แตกฉาน  สมัยก่อนเล่นบนดอสอย่างเดียว  จวบจนมี วินโดว์ 3.1 เกิดขึ้นซาวด์การ์ดถึงได้พัฒนาแบบก้าวกระโดด  
แต่การนำไปใช้งานจะแบ่งการพัฒนาตามเงื่อนไข การตลาดเป็นหลัก  คือ ตลาด โฮมยูส  กับงานอาชีพซึ่งก็คือในงานในสตูดิโอ
โฮมยูสนั้น  คือการนำไปใช้งานเพื่อ  เอ็นเทอร์เทน ทุกคนในบ้าน คือดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม อาจจะมีเร็คคอร์ดบ้าง เท่านั้นจริงๆ
ต่อมาก็นำไปใช้งานกับ คาราโอเกะ และก็ต่อยอดไปได้อีกเล็กน้อย  นั่นหมายถึง ใช้ ซาวด์การ์ด ในลักษณะ Player เกือบ 100%  
งานเล่นอย่างเดียวสำหรับในบ้านนั้น  ปัจจุบันที่เทคโนโลยี่ถือว่าก้าวหน้ามากนั้น ซาวด์ออนบอร์ด ที่อินเทลเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงนั้น  
ถือว่าให้ความเป็น ไฮไฟ หรือ  High fidelity ได้พอเพียงต่อการใช้งานแล้ว  แต่มันก็ยังมีแต่อีกแหละ  ในโลกของเสียงซึ่งไม่หยุดอยู่กับที่  
พลังของคนที่รักในเส้นเสียงและมีอำนาจซื้อสูงต้องการมากกว่านั้น เพื่อมาเข้าชุดกับระบบเสียงอันแสนแพงของเขา ย้ำว่าระบบเสียงที่แพง ของเขาทั้งระบบ  
จึงเกิดมีซาวด์การ์ดที่ใช้ในบ้านขึ้นมาอีกระดับและต่อยอดออกไปเป็น DAC อย่างที่รู้กัน  แต่ต้องมีเงินถึงพอสมควร
เพราะต้องใช้อุปกรณ์เส้นสายซึ่งบางทีมันแพงกว่า DAC  เสียอีก และเป็นกฎตายตัวของการตลาด
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตซาวด์ออกขายทั่วโลก เมื่อผลิตรุ่นเรือธง  ออกมา ก็จะมีรุ่นคอมเมอร์เชียลออกมาในราคาที่คนทั่วไปยอมควักเงินซื้อซึ่งก็ขายรับเงินได้มหาศาล  
คือรุ่นที่ว่ากันนั่นละ  ตอนออกใหม่หนังสือที่เกี่ยวกับคอมเขียนเชียร์ออกหน้าออกตา แม้ทุกวันนี้ก็ยังปั่นราคากันอยู่

ผมถึงได้บอกว่า ซาวด์การ์ดในระดับราคาไม่ถึงหมื่นนั้น กลไกด้านตลาดมันให้ได้แค่นั้น คือเป็นแค่ตัว  Player  เท่านั้นครับ อย่าไปหวังอะไรมากนัก

ส่วนในสตูดิโอนั้น  เน้นที่ Record  เป็นหลัก จึงเกิดมี ซาวด์การ์ดทุกระดับราคา เพื่อป้อนตลาดตามกำลังเงิน  การ์ดที่มีภาค  A/D  มีภาค ไมค์ปรีดีๆ ขั้นสุดยอด  
มีอินพุตเอ้าพุตหลายช่องมักจะมี หน่วยประมวลผลในตัวซึ่งไม่ต้องพึ่งพา CPU ของตัวคอมพิวเตอร์  ราคาก็แพงขึ้นหลักหลายๆ แสน

แต่ ภาค Player  ของการ์ดในสตูดิโอ  กลับไม่ได้ใช้ชิพหรืออ๊อพแอมป์ที่วิเศษไปกว่า       โฮมยูส มากมายนัก  
เพราะเขาถือว่ามีไว้เพื่อ ขับลำโพงมอนิเตอร์เพื่อให้เสียงที่เป็นกลางและ ใช้ เป็น มอนิเตอร์ แท้ๆ เท่านั้นครับ

ต่อมาในเรื่องของคาราโอเกะ  ก็ยังแยกออก ระหว่าง  โฮมยูส  กับอาชีพ อาชีพหมายถึงการมีวงเพื่อรับจ้างออกงาน  จะสมัครเล่นเป็นรายได้เสริม หรือจริงจังก็ตาม
การแข่งขันและตลาดผู้เป็นเจ้าภาพ ก็จะเป็นตัวกำหนดในการลงทุนกับเรื่องของซาวด์ เพื่อเข้าถึงคุณภาพ  ถึงตอนนี้ต้องแยกให้ออกละครับ  
ในเรื่องของซาวด์การ์ด ถ้าภายในบ้านผมพอแนะนำได้  แต่งานกลางแจ้ง ผมมันรู้แค่อนุบาลคงต้องให้ท่านอื่นมาแนะนำต่อ

และอย่างที่บอก ตัวหนังสือผมสามารถโต้แย้งได้ครับ  แค่นิดเดียวที่การแย้งนั้น ต้องด้วยเหตุผลและความรู้ประกอบบ้าง
ทั้งนี้เพื่อเกิดประโยชน์กับท่านอื่นที่ไม่รู้จริงๆ  ความรู้ที่แท้จริงที่ใหม่กว่าครบถ้วนสมบูรณ์กว่าที่ผมพูดถึงมันจะช่วยเติมเต็ม
และเป็นการสร้างให้เกิดองค์ความรู้ แก่ชุมชนอันเป็นที่รักของเราในนี้  ไม่ใช่แย้งด้วย ความรู้สึก เพียงอย่างเดียว สังคมจะไม่ได้อะไรเลยครับ

 นักเล่น โฮเอ็นด์ จะเน้นที่คุณภาพของอุปกรณ์ โดยลดความซับซ้อนของระบบลง(อุปกรณ์มันเยี่ยมอยู่แล้ว ซึ่งตามมาด้วนสนนราคาที่สูงเอาการ)ทำให้ได้สียงที่เที่ยงตรง(บางทีจนกลายเป็นระบบ ขี้ฟ้อง) แต่ในงาน พีเอ กลางแจ้งกลับไม่เป็นเช่นนั้น อุปกรณ์นอกเหนือจากที่เล่นแบบโฮมยูส มีเพิ่มมามากมาย ทั้งก็เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องซึ่งเกิดจากสภาพอคูสติกที่ไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าแบบโฮมยูสและให้ได้มาซึ่ง คุณภาพเสียงที่ให้เข้าใกล้ หรือมีความเป็นดนตรีสูงขึ้น จุดประสงค์ก็คือให้ได้เสียงที่ดี  แต่องค์ประกอบ สภาพแวดล้อมมันไม่ได้ถูกกำหนดไว้เหมือนที่ใช้ในห้องเท่านั้นเองครับ..ผมนึกถึงตอนนั่งฟัง เครื่องเล่น ซีดี (ทรานสปอร์ต) ผ่าน ดีทูเอ ไม่มีปรีแอมป์ ผ่านเพาเวอร์ ลำโพง ชั้นยอด ในห้องซึ่งเร่งแอร์จนเย็นฉ่ำ จากนั้น ปิดแอร์ ให้เงียบสนิท (ของคหบดี ที่รู้จักกันน่ะครับ ;D) แบบนี้.เสียงเข็มหล่นลงพื้น.มันยังถ่ายทอดออกมาให้ได้แบบ กระจ่าง คนละอย่างกับงานพีเอ กลางแจ้ง แต่ ก็จุดประสงค์เดียว ทำยังไงให้ได้เสียงที่ออกมา ดี เท่าที่จะทำได้..อันนี้ก็ถามกันบ่อยว่า แล้ว ชุดแบบไหน ดีที่สุด ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบยากมาก ในความรู้สึกของผม เอาเป็นว่า สนองความต้องการได้ ในงบที่เอื้อมถึง ละกันครับ.. ;D :thank1:

ออนไลน์ MP

  • ผู้ดูแลระบบ
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ***
  • กระทู้: 123115
  • 9664E44E,11D88A55,7C1132A8
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 10:22:10 น. »
 นักเล่น โฮเอ็นด์ จะเน้นที่คุณภาพของอุปกรณ์ โดยลดความซับซ้อนของระบบลง(อุปกรณ์มันเยี่ยมอยู่แล้ว ซึ่งตามมาด้วนสนนราคาที่สูงเอาการ)ทำให้ได้สียงที่เที่ยงตรง(บางทีจนกลายเป็นระบบ ขี้ฟ้อง) แต่ในงาน พีเอ กลางแจ้งกลับไม่เป็นเช่นนั้น อุปกรณ์นอกเหนือจากที่เล่นแบบโฮมยูส มีเพิ่มมามากมาย ทั้งก็เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องซึ่งเกิดจากสภาพอคูสติกที่ไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าแบบโฮมยูสและให้ได้มาซึ่ง คุณภาพเสียงที่ให้เข้าใกล้ หรือมีความเป็นดนตรีสูงขึ้น จุดประสงค์ก็คือให้ได้เสียงที่ดี  แต่องค์ประกอบ สภาพแวดล้อมมันไม่ได้ถูกกำหนดไว้เหมือนที่ใช้ในห้องเท่านั้นเองครับ..ผมนึกถึงตอนนั่งฟัง เครื่องเล่น ซีดี (ทรานสปอร์ต) ผ่าน ดีทูเอ ไม่มีปรีแอมป์ ผ่านเพาเวอร์ ลำโพง ชั้นยอด ในห้องซึ่งเร่งแอร์จนเย็นฉ่ำ จากนั้น ปิดแอร์ ให้เงียบสนิท (ของคหบดี ที่รู้จักกันน่ะครับ ;D) แบบนี้.เสียงเข็มหล่นลงพื้น.มันยังถ่ายทอดออกมาให้ได้แบบ กระจ่าง คนละอย่างกับงานพีเอ กลางแจ้ง แต่ ก็จุดประสงค์เดียว ทำยังไงให้ได้เสียงที่ออกมา ดี เท่าที่จะทำได้..อันนี้ก็ถามกันบ่อยว่า แล้ว ชุดแบบไหน ดีที่สุด ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบยากมาก ในความรู้สึกของผม เอาเป็นว่า สนองความต้องการได้ ในงบที่เอื้อมถึง ละกันครับ.. ;D :thank1:

 ;D



CD Transport ผมยังใช้ External CD SCSI โบราณเหลือใช้ ความเร็วในการอ่าน 4x เลยครับ
ไม่มีตังค์ซื้อของแพงๆ บางครั้งหาอะไรทับมันกับให้เสียงฟังเพราะขึ้นอีกต่างหาก

m sound

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีงบประมาณ 2000 จะซื้อ Sound Card มือแรกหรือมือสอง
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 14:18:56 น. »
ครับ..สำหรับผม.ตอนนี้.. Foobar เข้าประจำการ..มันทำให้อะไร ๆ ก็ดูดีขึ้นแล้วครับ... ;D :thank1:



บางที บันทึกแบบห่วย ๆ ฟูบาร์ ยังช่วยขัดเกลา ให้งานเก่าๆ พอฟังได้ บางทีก็ฟังที่ลำโพงเล็ก ๆ ข้าง ทีวี แทนตัวใหญ่ๆ(น้องๆตู้เย็น) ก็พอได้อยู่ครับ.. ;D


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 มีนาคม 2011, 14:27:16 น. โดย ฅนไทบ้าน »