หัวข้อ: อยากทราบสไตล์การปรับแต่งมิกเซอร์ 8 ช่อง (หรืออื่นๆ) ในแต่ละท่าน

[มร สุวรรณภูมิ]

สวัสดีครับ

ปัจจุบันนี้ผมใช้ HL ของ eXtreme Karaoke 3.0 และมีเครื่องมิกเซอร์แล้ว สถานะกำลังหัดใช้งานอยู่ครับ
แต่เจอปัญหาการปรับแต่งเสียง (เสียงฟังไม่ไพเราะ เสียงตีกัน ไม่มีละเอียดของเสียง เสียงจู่ๆก็ดังเกิน)
ผมก็เข้าเวปเสาะหาวิธีที่เมาะสมที่สุด ก็ยากเย็นในการค้นหา เวลาไปแจมกับท่านผู้รู้ก็ไม่มี เอาไงดีล่ะทีนี้

จึงใคร่ขอใช้พื้นที่นี้ในการแลกเปลี่ยนเทคนิคการปรับแต่งเสียง (เน้นการมิกส์เสียง) กับทุกท่านด้วยครับ
ยินดีน้อมรับคำเสนอแนะต่างๆโดยมิมีเงื่อนไขใดๆ :sadism: :mad245:

ผมขอเริ่มก่อนพอเป็นตัวอย่าง ดังนี้

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอนำเสนอการปรับแต่งมิกเซอร์ 8 ช่อง ในสไตล์ผมเอง เวอร์ชัน 0.0.0.1
(ไม่มีหลักการ ไม่มีคู่มือ ผมอาศัยลูกมั่วลองผิดลองถูก และยังต้องปรับปรุงอีกเยอะเลยครับท่าน)

เนื้อหานี้ สำหรับผู้ผ่านขั้นตอนการติดตั้งและเซ็ตค่าต่างๆสำหรับระบบแยกไลน์ 8 ช่องแล้วเท่านั้น!!!
ซึ่งเนื้อหาก่อนหน้า ท่านสามารถหาดูได้จากท่านอื่นๆที่ทำไว้ให้ศึกษากันแล้วตามเวปไซต์หรือยูทูป

คำนำ
วิธีนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นกันอย่างไรดีกับข้อจำกัดในการมิกซ์และการจัดกลุ่มเสียงดนตรี
บางท่านที่โปรสุดขีด โดยแยกมันทุกชิ้นที่อยู่ในวงเพราะเขามีมิกเซอร์หลายไลน์อยู่แล้ว ซึ่งใช้เฉพาะวงนั้นๆ
บางท่านก็แยกโดยการจัดกลุ่มตามประเภทของดนตรี แต่ไม่ได้แยกย่อยตามโทนเสียงดนตรีอีก เสียงจึงตีกัน
บางท่านก็แยกย่อยตามโทนเสียงดนตรี แต่แบบนี้จะจัดกลุ่มยากหน่อยเวลาต้องการแบ่งกรุ๊ปเพื่อที่ให้อิสระกัน
ที่กล่าวมามันคงยากไปสำหรับผม สุดท้ายผมจึงลองทำแบบไฮบริดท์ดู อาจโดดเด่นหรืออาจดูแย่ในบางอย่าง
โดยที่ผมได้ลองเซ็ตไว้เป็นเพียงไกด์ไลน์เพื่อให้ท่านนำไปสานต่อเพื่อให้เป็นในแบบฉบับของท่านเองเท่านั้น

อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- เครื่องคอมพิวเตอร์พอใช้ได้สักเครื่อง ควรใช้ไม่ต่ำกว่า i3 ถึง i5 พอ แรมก็ 4 กิกะไบต์ขึ้น วินโดว์ 7 ขึ้นไป
- โปรแกรม Extreme Karaoke 3.0.xxx ที่ใช้เพราะเขามีฟังก์ชันให้ใช้ง่าย และมีผู้ใช้กันมากมายอยู่แล้ว
- ไฟล์ SoundFont ตัวเป้งๆสักตัว ขนาดราวร้อยกว่าเมกะไบต์ขึ้นไป ที่มีการจูนเสียงมาดีฟังไม่แปลกแยก
- การ์ดเสียง 7.1 แนะนำเป็นการ์ดซาวด์บัสเตอร์รุ่นกลางๆขึ้นไป เพราะเสียงจะหนาดี และเสียงไม่หน่วงมาก
- สาย unbalance ที่ต่อออกจากการ์ดเสียงไปเข้ามิกเซอร์ได้ จะทำเองหรือจัดหามาก็สุดแต่ท่านเลยครับ
- เครื่องมิกเซอร์ 8 ไลน์ขึ้นไป มี FX ที่ผมใช้มิกเซอร์ เพราะมันใช้งานสะดวกกว่าการมิกซ์โดยใช้โปรแกรม
- ผมไม่ใช้โปรแกรมตัวกลางในการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงอื่นใด เพราะไม่ชอบปัญหาการหน่วงที่เซ็ตยุ่งยาก


ที่เหลือก็เซ็ตเหมือนชิ้นดนตรีที่ 37

ก่อนลงมือมิกซ์เสียง
- ซาวน์การ์ดที่เซ็ต 7.1 ไว้แล้ว
- คาราโอเกะที่เซ็ตแยก 8 ไลน์ไว้ โดยก่อนเซ็ตแบบผมควรจดหรือถ่ายภาพการเซ็ตค่าของท่านเก็บไว้ก่อน
- ในคาราโอเกะให้ลองเซ็ตชิ้นดนตรีออกไปที่ไลน์ขาออกของการ์ดเสียงดังรูปที่ให้มาแทนของเดิม
- ที่มิกเซอร์ ให้เลื่อนสไลส์ลงให้หมดก่อน
- ที่มิกเซอร์ ให้สไลส์สีแดง(Master/Stereo Out) เลื่อนไปที่ 0
- ที่มิกเซอร์ ให้ปรับ GAIN ต่างๆที่เป็น -15 ถึง +15 ให้หมุนไปที่ 12 นาฬิกาก่อน

กรณีที่ไม่ได้ INSERT FX จากข้างนอกเข้ามา
- ที่มิกเซอร์ ให้เซ็ต FX เป็น "DRUM AMBIENCE" หมุนไปที่ 9  นาฬิกา
- จะนำไปใช้สำหรับกลอง Tom (ดนตรีบางชิ้นอาจได้รับอนิจสงฆ์จาก FX นี้บ้าง)
- ไมค์ผมจะให้ผ่านมิกเซอร์ไมล์ก่อนแล้วใช้ช่องที่ 11/12
- โดยถ้าไมล์กินไฟก็กดปุ่ม PHANTOM 48V ได้

กรณีที่ INSERT FX จากข้างนอกเข้ามา
- ผมยังไม่ได้ลอง เพราะยังไม่มี Module FX แต่คิดว่าคงดีกว่า (ในใจก็อยากมี FX ในเครื่องมิกซ์สัก 4 fx ให้ใช้ในคราวเดียว)

ในส่วนของการปรับตำแหน่งเสียง(PAN) ซ้าย กลาง ขวา
ช่องที่ 01: หมุนไปที่ 12 นาฬิกา และกดปุ่ม Group 1-2
ช่องที่ 02: หมุนไปที่ 12 นาฬิกา และกดปุ่ม Group 1-2
ช่องที่ 03: หมุนไปขวาสุด และกดปุ่ม Group 1-2
ช่องที่ 04: หมุนไปซ้ายสุด และกดปุ่ม Group 1-2
ช่องที่ 05: หมุนไปขวาสุด และกดปุ่ม Group 1-2 และ FX หมุนไปที่ 10  นาฬิกา
ช่องที่ 06: หมุนไปซ้ายสุด และกดปุ่ม Group 1-2 และ FX หมุนไปที่ 9  นาฬิกา
ช่องที่ 07: หมุนไปซ้ายสุด และกดปุ่ม Group 3-4
ช่องที่ 08: หมุนไปขวาสุด และกดปุ่ม Group 3-4

ขณะลงมือมิกซ์เสียง
1. ให้เปิดเพลงที่ดนตรีมาครบๆและเราคุ้นหูอยู่แล้ว จากคาราโอเกะที่เซ็ต 8 ไลน์ไว้
2. ปรับ GAIN ใหม่ไม่ให้ไฟแดงขึ้น
3. ปรับโวลุ่มเสียงแหม
4. ปรับเสียงกลาง โดยให้ตัดความถี่ที่ 250Hz ก่อน (หมุนไปซ้ายสุด)
5. ปรับโวลุ่มเสียงกลาง (ส่วนมากก็หมุนไปที่ 12 นาฬิกา)
6. ปรับโวลุ่มเสียงต่ำ
7. หากไฟแดงขึ้นให้กลับไปเริ่มใหม่ที่ข้อ 2
8. ดูที่ระดับสัญญาณขาออกที่ด้านขวามือ หากเกิน 0 ให้สไลส์ช่องไลน์นั้นๆลงมาจนกว่าระดับสัญญาณขาออกไม่เกิน 0
9. ไล่ทำไปเรื่อยๆให้ครบทั้ง 8 ไลน์
10. สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด ให้ลองฟังเพลงไปเรื่อยๆหลายๆแนวและสังเกตุไฟแดงด้วย หากมีก็ให้ลด GAIN ลง และ
ให้ลองฟังการโฟกัสตำแหน่งของชิ้นคนตรีว่าถูกต้องตามที่เราต้องการแล้วหรือยัง ถ้ายังก็ปรับปุ่ม PAN ใหม่ อีกที และ
หากท่านจะเปลี่ยนไฟล์ซาวด์ฟ้อนท์ ท่านก็คำนึงถึงด้วยว่า เอกลักษณ์ของน้ำเสียงมันต่างกัน ดังนั้นท่านก็ต้องมิกซ์ใหม่

สุดท้ายที่เหลือก็ปรับแก้เองตามอัธยาสัยจนได้เวอร์ชันของท่านเองนั่นแหล่ะ จะมิกซ์ดีไม่ไดีก็ต้องหัดลองทำไปเรื่อยๆ
เมื่อได้ลองแล้ว ก็เซ็ตกลับได้จากค่าที่ท่านได้จดบันทึกเก็บไว้ก่อนหน้าตามที่ผมแจ้งให้ทำการจดบันทึกไว้ก่อนหน้านี้

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หากพบว่ามีข้อมูลผิดพลาดอันใด ผมมือใหม่หัดมิกซ์ครั้งแรก ต้องขออภัยมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ "ขอให้สนุกกับมันพอ"

[MP]

เมื่อวานผมแยก 10 ไลน์ MOTU896 ปรับ FLAT
input gain -4dB

Sent from my X9006 using Tapatalk

[เสน่ห์]

อ้างจากน้านพ สพรรณ การแยกไลน์ บางช่วงบางตอน

[มร สุวรรณภูมิ]

http://uploads.tapatalk-cdn.com/20160411/0e28f4769ecc4a6b7ba5990b66492fe5.jpg

เมื่อวานผมแยก 10 ไลน์ MOTU896 ปรับ FLAT
input gain -4dB

Sent from my X9006 using Tapatalk

ว้าวๆๆๆ 10 ไลน์ ทำยังไงครับเนี่ย ใช้ sonar เหรอ? :drool:

[มร สุวรรณภูมิ]

อ้างจากน้านพ สพรรณ การแยกไลน์ บางช่วงบางตอน

  นี่แหล่ะที่ผมอยากได้จากผู้มีปสก.

[มร สุวรรณภูมิ]

ว้าวๆๆๆ 10 ไลน์ ทำยังไงครับเนี่ย ใช้ sonar เหรอ? :drool:

MOTU 896HD
18 inputs and 22 outputs
DSP-driven 18-input/8-bus
เงิบ! สงสัยจะได้เสียตังค์อีกแล้วสิเรา

[นพ สุพรรณ]

อ้างจากน้านพ สพรรณ การแยกไลน์ บางช่วงบางตอน

ขอบคุณครับที่เอามาอ้างอิงแต่อย่าเชื่อผมทั้งหมดเพราะผมอาจมั่วตอบ    เนื่องจากผมเป็นพวกมักง่ายซาวด์และหน้าด้านมิวสิค  จึงเลิกแยกไลน์มาหลายปีแล้ว  

เนื่องจากตั้งแต่เล่นมาเป็นสิบปีไม่เคยมีเจ้าภาพรายใหนเลยที่ถามผมตอนหางานเลยว่า "แยกกี่ไลน์  ใช้โปรเจคโซน่าร์หรือปล่าว  หรือใช้การ์ดเสียงยี่ห้ออะไร ฯลฯ"

! No longer available

ขนาดชุดนี้แยกได้ 8 ไลน์ในตัวผมยังไม่แยก  ดังนั้น...เอานิยายกับผมไม่ได้ครับ

! No longer available

ผมยืนยันเช่นเดิม มือใหม่สองไลน์สเตอร์คือทางออกที่ควรทำให้ดีก่อนครับ   ยกเว้นท่านจะเก๋าพอที่จะจัดการมันได้  ไม่ใช่สักแต่แยกแปดไลน์สิบไลน์ไปข่มขืนรูหูคนฟัง
! No longer available 

[เสน่ห์]

เล่น 2 ไลน์ สเตอริโอ ก็สุดยอดแล้วครับ 

[มร สุวรรณภูมิ]

ขอเม้ามอยสักนิด

นานมาแล้วเหมือนกัน ตอน SB Live 5.1 ออกมาใหม่ๆ sf ขนาดไม่ถึงหลักร้อยเมก ผมแยกไลน์ 4 ช่อง แยกลำโพงคอมชุดเล็ก มันก็ช่วยให้เสียงชัดขึ้น แต่พอใช้กับ PA เสียงมั่วกว่าเก่า และปรับยาก
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี DAC มันก้าวไกล ผนวกกับไฟล์เสียง SF ทำออกมาได้ดีขึ่น ที่สำคัญไฟล์ประเภทอื่นๆเสียงเหมือนออกมาจากห้องสตูดิโอเลยก็มี เช่น Reason Factory, Hypersonic ในยุคแรกๆ
ผมก็เคยเสาะหามาลอง ข้อดีคือ เสียงเขาทำมาดี เหมาะใช้ทำ music master ข้อเสียคือ ขอเขาแพง และกินพลัง CPU มีสดุดบ้าง หากนำมาออกงานคงเครียดน่าดูชม และเสียงไม่ใช่แนวฟังบ่มวน
ขนาดใช้ ASIO4ALL ก็แล้ว แต่ผมว่าคงมาจากตัวกลางอย่างเช่น MidiYoke หรือยี่ห้ออื่นๆทำออกมาได้ไม่เร็วพอ หรืออาจต้องพึ่ง sound module แบรนด์แพงๆที่ไวแบบ zero latancy time ไปเลย

ผมเคยยำ SF ด้วยกลอง livekit7 รู้สึกชอบเสียงมันออกแนวสตริงสดดี แต่ต้อง edit เข้าไปปรับ PAN อยู่บ้าง เดี๋ยวนี้หลายท่านทำกันเองเสียงดีกว่าเยอะจนไปถึงระดับนานาชาติแล้วก็มี แต่มักจะเป็น
เสียง studio หรือ live room ซะมากกว่า อ้าวแล้วปัจจุบันเขาทำกันยังไง อัดสดเลยสิ ไล่ได้ทุกโน็ต อ้าวแล้วนอกจากกลองสดล่ะ ก็ทำกันเยอะแล้วพวกกลุ่มดีด สี ตี เป่า มันจะสนุกตอนนำมารวมกัน
เพราะต้องทำ normalize และปรับอันไหนซ้าย กลาง ขวา อันไหนแหลง อันไหนต่ำ ไหนจะปรับต้นเสียง หางเสียงอีก Audacity ซอยข่อยแน และสนุกอีกตอนฟังแล้วหงุดหงิดต้องกลับไปทำมันใหม่

ส่วนตัวผมชอบ wav sampler ที่ละเอียดหน่อย แต่ลองบวกเลขคร่าวๆมันทะลุ 500MB ไปได้ง่ายๆเลย อยากให้มันอยู่แถวๆไม่เกิน 400MB ซิได้บ่ ได้ "แต่ไม่ทุกชิ้นนะ" ดังนั้นเวลาลองเล่นคาราโอเกะ
กลองมาเต็มหางเสียงน้อยไม่เป็นไรปรับแก้ได้ กีตาร์มวนขนาดแม้เสียงจะมาวูปๆเป็นระยะ เครื่องเป่าชักเริ่มยังไงๆซะแล้ว เครื่องสีโอ้วมายด์ก็อด มันรับบ่ได้รับบ่ได้ วกกลับไปถึงคำว่า "แต่ไม่ทุกชิ้นนะ"
ถึงบางอ้อในบัดดล หลายท่านคงเคยเล่นผ่านตัวกลางเช่น MidiYoke เชื่อมระหว่าง VSampler กับ Karaoke Player มันต้องใช้ตัวช่วยอีก เช่น ASIO4ALL กับอะไรอีกจำไม่ได้ เสียงดีนะมิกซ์ได้ระดับ
หนึ่ง เช่น Volume แยกได้ ใส่ FX ได้ 2-3 ตัว limiter ได้ compressor ได้ PAN ได้ แต่มีหน่วงบ้างในบางช่วง ต้องทำการปรับสดเมื่อเปลี่ยนเพลง จึงไม่เหมาะนักกับการนำมาเล่นคาราโอเกะต่อเนื่อง

ในยุคที่ผมเริ่มสนใจคาราโอเกะ ต้องท้าวความไปสมัยจบม.ปลายใหม่ๆ เด็กบ้านนอกเข้ากรุงคอมฯยังไม่มีปัญญาหาซื้อมาเล่น เสาร์-อาทิตย์ได้แต่เที่ยวเดินเล่นในงานต่างๆ เจอ set Roland ทั้งระบบ
แล้วซาวด์เอ็นจิเนียเขาเปิดเล่นมิดี้ โอ้พระเจ้า! ทำไมเสียงใส (ยุคนั้นมีแต่ tape castes) อย่างนี้ เสียงเหมือนมี concert อยู่ตรงหน้าเลย ถามหาซื้อเทปนี้ได้ที่ไหน เขาบอกเป็นมิดี้ มิดี้ อืมๆ มิดี้อะไรวะ
มันเล่นมาจากเครื่องนี้ (เป็น rack) อ้าวเหรอแล้วสื่อที่ใช้เล่นมันอยู่ตรงไหน เขาบอกเป็น ROM ที่อยู่ข้างใน ROM เหรอ ผมรู้เพราะผมอ่านหนังสือคอมมาตั้งแต่ชั้นม.3แล้ว (เก็บเงินซื้ออ่านเอง) ทำไม
จะไม่รู้ แต่มันมีในเครื่องเสียงด้วยเหรอนี่ แล้วมันสามารถสังเคราะห์ให้เสียงสแนร์พุ่งออกมาได้คมชัดอะไรเช่นนี้ นับแต่นั้นจึงได้เริ่มสนใจการเล่นเพลงไฟล์มิดี้ นี่คือครั้งแรกครับที่ได้สัมผัสมิดี้ตัวเป็นๆ

ต่อมาพอได้คอมฯมาพักใหญ่ก็ได้ Nick Karaoke นี่แหล่ะ เล่นผ่าน gm.dls ของ Windows มาตลอด แต่ชักเบื่อแล้ว เสียงมันห่วยไปนิดแถมเพี้ยนบางเพลง ส่วนเพื่อนมันรวยกว่าใช้ SB16 ติด Wave
Table จัดเต็ม ไปขอลองฟังประจำ แต่ก็เกรงใจเพราะเขาไม่ชอบร้องคาราโอเกะ ชอบเล่นเกมส์มากกว่า สมัยนั้นบางเกมส์เล่นเพลงเมโลดี้โดย Wave Table ได้ด้วย ผมก็อุดหนุน Nick มาโดยตลอด
ต่อมาก็ Small กับ Li-ke ที่แจกโค้ดมาให้ช่วยๆกันพัฒนาต่อยอดกัน ผมก็ดาว์นโหลดมาแต่ได้แต่นั่งไล่ซอร์สโค้ดเล่นๆเพลินๆ ต่อมาก็ All In One อันนี้เล่นอยู่เหมือนกันชอบการจัดการภาพพื้นหลัง

ต่อมาก็อะไรอีกตัวจำไม่ได้ แล้วมาจบที่ eXtreme แบบรุ่นทดลองใช้ ต้องยอมรับว่าผู้พัฒนาเขาไม่ได้ทำกันเล่นๆเพราะมีการพัฒนาปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีคู่พอฟัดพอเหวี่ยงได้ในตอนนั้นคือ
Karalight เจ้านี้ผมชอบตรงใช้งานง่าย(ท่านอื่นอาจว่าไม่ง่ายนัก) เสียงดี แปลกมากว่าใช้ SF ตัวเดียวกันเล่นกับเจ้าอื่นทำไมเสียงถึงดีกว่า(พอสังเกตุได้หน่อยนึง) แต่ Karalight ไม่เหมาะกับคนอย่าง
ผมที่ชอบของฟรี พักหลังก็เลยเล่น exTreme เป็นหลัก เพราะใครๆเขาก็เล่นกัน แต่ยังเป็นรุ่นที่ไม่มี HL ซึ่งผมรู้สึกว่ารุ่นแจกฟรีนี้มันขาดอะไรๆไปพอสมควร จึงเริ่มผันตัวเข้ามาในวงการ HL กับเขาละ
หากถามว่าผมทำเองได้มั๊ย ตอบว่าทำได้ เคยทำมาแล้วพักนึงแต่หยุดไป เพราะทำเล่นเองคนเดียวได้แต่คนอื่นอาจไม่ชอบไม่ถนัด เราต้องการทำ Lyric อย่างนี้แต่เขาอยากได้อีกแบบ Lyric อีกแบบ

แล้วตอนนี้ผมเล่นอะไรอยู่เหรอ ผมกำลังบ้าหัดมิกซ์อยู่ ทำไมถึงบ้ามิกซ์ล่ะ เพราะผมเจอประเด็นของปัญหาที่ว่า ผมรวบรวม SF มาจนเต็ม hard disk แล้ว แต่ทำไมจึงไม่หยุดเสาะหาซะที เล่นๆเดี๋ยวก็
เปลี่ยน ผมชอบลองชอบเล่น ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้รับงานใดๆทั้งสิ้น อย่างมากก็เล่นที่ งานปีใหม่ของบริษัท ของในครอบครัว งานสงกรานต์รวมญาติ ซึ่งอยากจะบอกว่า เพื่อนๆผมชอบเล่นผ่าน MV มากกว่า

แต่สำหรับผม มันไม่ใช่แนวครับ พองานปีใหม่ของหน่วยงานในบริษัทจัด ผมติดตั้ง Karaoke ให้เล่น เขาเล่นอยู่ไม่กี่เพลง สุดท้ายไปเปิด MV ผ่านยูทูปเล่นยาวเลยซะงั้น ตั้งแต่นั้งจึงเล่นเองฟังเองกัน
ในครอบครัว หลังๆญาติๆเริ่มนำ SF มาประชันกัน เปิด PA เล่นหน้าบ้าน Sub 15 2 ตัว กลางแหลมอีกข้างละ 2 ตู้ แอมป์ตัวเดียว มิกซ์เน้นไปที่ไมค์ SF ออก STEREO ของเขา 80MB ถึง 350MB ได้
ส่วนของผมมี 150MB (ของผมเอง) 250MB (ของท่านใจดี) โดยครั้งแรกเขาเปิดตัวหลอกมาขนาดราวไม่เกิน 80MB 3-4 เพลงต่อมาผมจึงเสียบ SF 150MB เข้าไปแทน เล่นได้ 2 เพลง เขาแทนด้วย
ตัว 350MB ไอ้ยะ! ก่อนหน้าผมว่าจะน็อคด้วยตัว 250MB เลิกล้มความคิดนั้นไปได้เลย เก็บกดมาเป็นปีกว่าจะได้ตัวใหม่มาแทน ขนาดราว 400MB ได้ อย่าคิดว่าผมบ้าขนาดของ SF นะ ผมไม่ได้บ้า
ตัวกิกกว่าก็เล่นมาแล้วแต่ก็งั้นๆแหล่ะ ขนาดไม่ได้เป็นตัวตัดสินคุณภาพที่มาควบคู่กับความเหมาะสมในการใช้งานจริงเสมอไป แต่ตัว 400MB นี่เสียงใช้ได้เลยกะนำไปทวงแชมป์กลับหายไปพร้อมๆกับ
การแบ่ง partition ซะงั้น เสียดายผุดๆ มาถึงตอนนี้ผมก็ยังชอบเสียงจากกลอง livekit7 อยู่ แม้เสียงสแนร์จะไม่ป๊องๆชวนมันส์เท่า SF ของหลายท่านก็ตามที แน่ล่ะ SF ดีๆใครจะยอมปล่อยกันง่ายๆล่ะ

กว่าจะรู้ตัวว่าออกทะเลไปเยอะแล้ว ผมขออนุญาตกลับมาที่การมิกซ์เสียงดนตรี (มิกซ์ไมค์ร้องค่อยว่ากันทีหลัง) ปัญหาของผมคือการมิกซ์เสียงดนตรีสำหรับงาน Karaoke นั้น มันมีปัจจัยทีไม่เหมือนกับ
การมิกซ์จากเสียงดนตรีสดของจริงที่หน้างาน เพราะมันมี character ที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว จะอธิบายอย่างไรดี ตัวอย่างเปรียบเปรย ของจริงคือ เรามีเมียก็มีลูก เรารู้สึกดีๆกับลูกในแบบที่เป็นมนุษย์
ส่วนเราไม่มีเมียเรามีหุ่นยนต์ตัวเล็กๆ เราก็รู้สึกในแบบที่ดูเขาไม่มีชีวิตชีวา พูดอะไรไม่เข้าใจ เอาใหม่ น้ำพริกแมงดานาแท้ทำกินเอง กับน้ำพริกกลิ่นแมงดานาของแม่... ต่างกันมั๊ย อันนี้ผมจำแนกได้ถ้า
เขาไม่ผสมขาย เพราะตอนเด็กๆผมเคยจับแมงดานาขายมาแล้วคราวละเป็นโอ่งๆเลย ตอบว่าพอแยกได้นะ ความฉุนติดจมูกมันต่างกันเยอะ SF กับเล่นสด ก็เช่นกัน เล่นสดแต่ละเพลงจะมีเสน่ห์ไปตาม
ประเภทของเพลง เช่น pop rock jazz country classic hip-hop R&B ก็ว่ากันไป มาถึงจุดนี้ต้องขอขอบคุณ eXtreme ที่เล่งได้เห็นตรงจุดนี้ โดยได้เพิ่มตัวช่วย Mixer ให้เราเลือกประเภทของเพลงได้

เริ่มเห็นแล้วใช่มั๊ยครับว่าผมหมายถึงอะไร แล้วหมายถึงอะไรล่ะ งึ! ขณะที่ผมลองมิกซ์เพลงๆหนึ่งแบบว่าใน MV มันมันส์มาก แต่พอเล่นจากมิดี้ไหงมันไม่มี inner ที่มันส์ๆให้เราได้รู้สึกมันส์กับเพลงเลย
แต่พอลองปรับ HI ปรับ BASS โอ้วเริ่มมาแล้ว เพิ่ม FX นิด โอ้วมันส์ยอดมากเลยจอร์จ ครั้นพอจะให้บางชิ้นออก STEREO เพราะใน SF ชิ้นดนตรีมันก็ STEREO แต่ดัน LINE OUT มา MONO เช่น ปรับ
แยกชิ้นอิเล็กโทนหรือซินธิไซเซอร์เสียงต่างๆเป็น FR (Font Right) มันก็ออก MONO มาเข้าที่ Mixer และออกไปแอมป์แบบ MONO แล้วจะให้ทำฉันใด ปรับ FL & FR ก็ออกมาเป็น CENTER ซะงั้น!!
ซะงั้นจริงรึ อ้าวถ้าให้เงื่อไขไปว่าถ้าเราเลือก FL & FR ให้ปล่อยสัญญาณออกไปเป็น STEREO แท้ๆไปเลย ไม่ใช่ปล่อย DUAL MONO หรือ STEREO เทียมๆออกมา นี่ไงครับที่ผมต้องการ ท่านคิดเช่น
ผมรึเปล่า ต้องขอขอบคุณ eXtreme อีกครั้งครับ สุดท้าย การมิกซ์ของผมก็ยังไปไม่ถึงไหน เพราะยัง sneckๆ fishๆ อยู่เลย คิดไปก็ต้อแต้ละเหี่ยใจ ครั้นจะลงทุนไปร่ำเรียนก็ใช่เรื่อง มีรึเปล่าก็ไม่รู้เนอะ

คนอ่านจบหล่อเลย :hap5:

[มร สุวรรณภูมิ]

ของน้านพ เสียงดีจังเลย

[มร สุวรรณภูมิ]

ล่าสุดมิกซ์ใหม่แล้ว โจทย์คือทำอย่างไรให้สัญญาณจากซาวด์การ์ดเข้ามิกซ์ 8 ไลน์เสียงออกมาดีที่สุด (ยังไม่ต้องถึง 16-24 ไลน์)

[มร สุวรรณภูมิ]

ขอขอบคุณทุกท่านที่เมตราร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

ผมยังไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่า ผมแยก 8 ไลน์ยังไง
เพราะกะว่าจะถ่ายรูปมาให้ดู แต่คิดไปคิดมามันอายครับ
ก็ขออธิบายเลยแล้วกัน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้
ถือเป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องทำเหมือนผมใดๆทั้งสิ้น

Step-By-Step (ขอนุญาตใช้คำไทยผสมคำฝรั่ง)

1. ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ {PC, Sound Card 7.1, สายสัญญาณต่างๆ, Mixer, Crossover, Power Amp., ลำโพง, ไมค์}

2. ต่อสายต่างๆ พร้อมทั้งปรับ Master Volume ของทั้ง Mixer และ Amp. ต่ำสุด

3. เปิด PC, Mixer, Crossover, Amp. ตามลำดับ แล้วเพิ่ม Volume เสียง PC แถว 80%,  Mixer Master Volume ที่ 0, ส่วนอุปกรณ์อื่นๆตามอัถยาสัย

4. ... จะบ้าเรอะ!!! อธิบายมาทำไม เค้ารู้กันหมดแล้ว เอาเนื้อๆน่ะมีมั๊ย :mad245:

ก้อไม่มีอะไรมากครับ

1. Master Volume on Mixer = 0 (Default) ถ้าดังไปก็ให้ไปลดที่ Amp. แทน

2. Compressor Volume on Mixer = เปิดสัญญานเข้ามา 100% ไม่อั้นแต่ผมจะใช้วิธีลด Volume ขาเข้าแทน
    เพราะ Compressor Volume ของผมมันเก้ (ตอนใช้จริงอาจจำเป็นต้องปรับลดทั้ง GAIN และ COMP)

3. FX = มีตัวเดียงจึงเลือก Ambient (เสียงโอบล้อม) ผมจะใช้กับ Kick, Kymbal, Tom เพื่อขยายเวทีให้ฟังดูกว้างขึ้น

4. CH1(Kick) CH2(Snare) CH3(Cymbal) CH4(HiHat) CH5(TomLow, TomMid, อื่นๆ) CH6(TomMid, TomHigh, อื่นๆ) CH7(Bass) CH8(Overdrive) โดย CH7 อยู่กรุ๊ป 1/2, CH8 อยู่กรุ๊ป 3/4 เพื่อให้สะดวกในการเพิ่ม-ลดเสียง

บางท่านอาจไม่เห็นด้วยในแนวทางแบบนี้ อย่างไรเสียก็ถือซะว่าเป็นเพียงพัฒนาการก้าวเล็กของกระผมที่เริ่มหัดมิกซ์ก็แล้วกันครับผ้ม :party:

เพิ่มเติม

- ถ้าอยู่หลังเวที อาจต้องสลับ Line In บางช่องด้วยจะได้ไม่งงครับ
- บางซาว์ดการ์ดช่องไลน์เอ้าท์ที่เป็น sub (รูเสียบสีดำ) เราควรใช้ต่อกับ Kick เพื่อให้เสียงความถี่ต่ำออกมาได้สมบูรณ์ที่สุด
- มิกซ์ผมจะไม่ให้ ไฟ Peak ขึ้นสีแดง (อนุญาตให้ขึ้นได้บางเพลงและขึ้นได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น โดยไม่ให้ไฟติดถี่ๆหรือนานๆเด็ดขาด)
- มิกซ์ผมจะไม่ให้ ไฟ Volume Level LED สวิงชึ้นเกิน 0
- บางท่านมักไม่ค่อยใส่ใจในความแรงสัญญาณที่ออกมาจากซาว์ดการ์ด ผมจะดูก่อนเล่นเสมอโดย คลิ๊กเม้าท์ขวาที่ไอค่อนลำโพงเลือก
  Open Volume Mixer แล้วเลื่อน Speaker = 80% ก่อน แล้วเลื่อน eXtreme Karaoke Player = 80% ตาม ท่านก็จะได้รายละเอียด
  เสียงชิ้นดนตรีออกมาครบ เพื่อเข้ามิกซ์ต่อไป ทำไมถึงไม่ 100% ไปเลย ทั้งนี้เพราะ บางซาว์ดการ์ดเสียงจะมีนอยส์หรือเว่อร์หรือกวนกัน
  (การ์ดซาว์ดดีๆอาจเลื่อน eXtreme Karaoke Player = 90-100% ได้)
- การบันทึกเสียง (มิกซ์ผมไม่มี USB) จะ record จากช่อง REC OUT ของมิกซ์ ส่วนจะปรับแก้เสียงก็ใช้ซอฟแวร์ช่วยเอา

[หลวงเก่ง]

ดนตรีคือ จินตนาการครับ. การที่เขาสร้างดนตรีมาแต่แต่ละชิ้น มาให้เล่นมาให้ฟัง เขาก้สร้างมาจากจินตนาการของมนุษย์
ความคิดผม คือ เราก้ทำ หรือ ปรับแต่งโดยจินตนาการของเราครับ แต่ผมก้จะอ้างอิงจากต้นฉบับที่เขาทำมา  ฟังเพลงบ่อยๆ ขยันฝึกซ้อม ความเพราะความไพเราะ มันจะมาเอง ครับ..การฟังเพลง ฟังต้นฉบับ สำคัญมากครับสำหรับผม...  (ความคิดส่วนตัวนะครับ..อิอิอิ)

[ขวัญ]

ดนตรีคือ จินตนาการครับ. การที่เขาสร้างดนตรีมาแต่แต่ละชิ้น มาให้เล่นมาให้ฟัง เขาก้สร้างมาจากจินตนาการของมนุษย์
ความคิดผม คือ เราก้ทำ หรือ ปรับแต่งโดยจินตนาการของเราครับ แต่ผมก้จะอ้างอิงจากต้นฉบับที่เขาทำมา  ฟังเพลงบ่อยๆ ขยันฝึกซ้อม ความเพราะความไพเราะ มันจะมาเอง ครับ..การฟังเพลง ฟังต้นฉบับ สำคัญมากครับสำหรับผม...  (ความคิดส่วนตัวนะครับ..อิอิอิ)

อย่าโม้.....ฉ้านเห็นวันๆแกดูแต่คลิ๊บโป๊   

[หลวงเก่ง]

พี่ชอบส่งมาเยอะจริง :mad245:

[มร สุวรรณภูมิ]

 

[Sumatethep]

ได้ประโยชน์ในเรื่องนี้อีกแล้วครับ
     

[nikonman]

 :th2:เป็นประโยชน์มากๆครับ เพื่อเป็นแนวทางให้กับท่านอื่นๆ สุดยอดครับ

[มร สุวรรณภูมิ]

โลกแห่งดิจิตัลคงหนีไม่พ้นจริงๆ เหมือนคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่เราแทบทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟนอาจใช้ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
ส่วนตัวผมขอฝึกฝนมิกซ์อะนาล็อคไปก่อน ค่อยขยับไปเล่นดิจิตอลภายหลัง มีบางยี่ห้อเขายังคงทำเป็นอะนาล็อคอยู่เลย แต่ไส้ในไฮเทคนะ

Cloud Computing คือการที่เราใช้ซอฟต์แวร์, ระบบ, และทรัพยากรของเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยสามารถเลือกกำลังการประมวลผล เลือกจำนวนทรัพยากร ได้ตามความต้องการในการใช้งาน และให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลบน Cloud จากที่ไหนก็ได้
http://www.it24hrs.com/2015/cloud-computing-and-cloud-definition/

ขออนุญาตวางลิงค์เมืองนอก

เทียบกับดิจิตอล & อะนาล็อก ไหนดี? (อากู๋ช่วยแปลจาก http://djtechtools.com/2009/12/07/digital-vs-analog-mixing-which-is-better/)
https://translate.google.co.th/translate?sl=en&tl=th&js=y&prev=_t&hl=th&ie=UTF-8&u=http%3A%2F%2Fdjtechtools.com%2F2009%2F12%2F07%2Fdigital-vs-analog-mixing-which-is-better%2F&edit-text=&act=url

อะนาล็อกกับดิจิตอล (อากู๋ช่วยแปลจาก http://www.alectrosystems.com/audio/mixers/digital_analogue.htm)
https://translate.google.co.th/translate?sl=en&tl=th&js=y&prev=_t&hl=th&ie=UTF-8&u=http%3A%2F%2Fwww.alectrosystems.com%2Faudio%2Fmixers%2Fdigital_analogue.htm&edit-text=&act=url

ดิจิตอลกับอนาล็อก (อากู๋ช่วยแปลจาก http://www.mix-engineer.com/audio-philosophy/digital-vs-analog-mixing/)
https://translate.google.co.th/translate?sl=en&tl=th&js=y&prev=_t&hl=th&ie=UTF-8&u=http%3A%2F%2Fwww.mix-engineer.com%2Faudio-philosophy%2Fdigital-vs-analog-mixing%2F&edit-text=&act=url

อะนาล็อกหรือดิจิตอล? (อากู๋ช่วยแปลจาก http://www.soundhire.co.uk/help-and-support/sound-technology-guides/169-mixers-analogue-or-digital)
https://translate.google.co.th/translate?sl=en&tl=th&js=y&prev=_t&hl=th&ie=UTF-8&u=http%3A%2F%2Fwww.soundhire.co.uk%2Fhelp-and-support%2Fsound-technology-guides%2F169-mixers-analogue-or-digital&edit-text=&act=url

อะไรคือความแตกต่างระหว่างการใช้ในทางปฏิบัติอนาล็อก VS ผสมดิจิตอลสำหรับการเสริมแรงเสียงสด? (อากู๋ช่วยแปลจาก https://www.quora.com/What-are-the-practical-differences-between-using-analog-vs-digital-mixers-for-live-sound-reinforcement)
https://translate.google.co.th/translate?sl=en&tl=th&js=y&prev=_t&hl=th&ie=UTF-8&u=https%3A%2F%2Fwww.quora.com%2FWhat-are-the-practical-differences-between-using-analog-vs-digital-mixers-for-live-sound-reinforcement&edit-text=&act=url

เป็นอะนาล็อกดีกว่าดิจิตอล? (อากู๋ช่วยแปลจาก http://www.soundonsound.com/sos/jun04/articles/qa0604-5.htm)
https://translate.google.co.th/translate?sl=en&tl=th&js=y&prev=_t&hl=th&ie=UTF-8&u=http%3A%2F%2Fwww.soundonsound.com%2Fsos%2Fjun04%2Farticles%2Fqa0604-5.htm&edit-text=&act=url
แปลเป็นไทยโดยอากู๋อาจจะงงพอสมควร นี่เป็นเพราะคนไทยเก่งๆมักไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการปรับปรุงการแปลไทยนัก
สรุปง่ายๆจากบนความนี้คือ เป็นการง่ายแล้วที่จะให้ดิจิตัลมีน้ำเสียงแบบอะนาล็อก แต่ยากที่อะนาล็อกจะให้คุณภาพเสียงออกมาได้ดีเท่าระบบดิจิตัล

Analog or Digital
https://youtu.be/FKBzBlhSLnA

HOW TO's | Connecting your Analog Mixer to your Computer (แบบบ้านๆ)
https://youtu.be/Vy11fxKpFrY

World's Most Luxurious Recording Studio (ภาพจำลอง)
https://youtu.be/k3GSCjzEZIg

Top 10 Most Famous Recording Studios
https://youtu.be/9cN0k-Gqu3A

How To Build Recording Studio in 10 mins (time lapse) ห้องละล้านเอง!!
https://youtu.be/TLMSzqfDUi8

6 things you need to know about home recording
https://youtu.be/zeBaPgvuP1I

The Best FREE Music Recording Software
https://youtu.be/V4232FQWGZI

How to build a home studio on any budget HD
https://youtu.be/HjraYxUtCd4

The audio animals examples
https://soundcloud.com/theaudioanimals

[มร สุวรรณภูมิ]

ลักษณะการปรับมิกซ์แบบซาว์ดฟ้อนท์แยกเข้ามิกซ์ 8 ไลน์ของผม (การปรับจะไม่เหมือนกันหากปัจจัยไม่เหมือนกัน เช่น เครื่องเสียง ซาว์นฟ้อนท์ สภาพแวดล้อม ฯลฯ)

 



CH1(Kick) CH2(Snare) CH3(Cymbal) CH4(HiHat) CH5(TomLow, TomMid, อื่นๆ) CH6(TomMid, TomHigh, อื่นๆ) CH7(Bass) CH8(Overdrive)

ส่วนตัว 8 ช่อง คิดว่าคงยังไม่พอ แต่ถ้าแบบพอเพียงนั้นถือว่าโอเคเลย

เพิ่มเติม

How to use a One-Knob Compressor
https://youtu.be/N-0NdE7STuE

Mixing Live Sound
https://youtu.be/eY_6B1EDj0I

How to use my Free EQ Chart & Cheat Sheet
http://proaudiodvds.com/articles-how-to-use-my-free-eq-chart-cheat-sheet/

Church Sound Engineer Training
https://youtu.be/YUHuogA0wBQ

How to use the mixer's EQ section
https://youtu.be/m6McBjaU9PM

How To EQ A Bass Drum - Drum Lessons
https://youtu.be/FRi01OZ7LIM

How To EQ A Snare Drum - Drum Lessons
https://youtu.be/a2jgOOOp6UI

How To EQ Toms - Drum Lessons
https://youtu.be/L3r87s002nM

How To EQ Overheads & Cymbals - Drum Lessons
https://youtu.be/MzvyikiDWwQ

How to EQ Acoustic Guitar and Vocals
https://youtu.be/TeOSGGBSvKU

Things about church PA I wish I'd learned years ago (เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับไมค์สำหรับ PA แค่ทฤษฎีก็พูดเป็นชั่วโมงแล้ว)
https://youtu.be/2Lmf44UTaXs

Why Are Church Sound Systems So Challenging? (เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับลำโพงสำหรับ PA ตั้งใจฟังจะได้เนื้อหาสาระพอสมควร)
https://youtu.be/9D-w21P56v0
ตั้งแต่นาทีที่ 36 ก็น่าสนใจ

[BINDEAW]

...ผมใช้การแยกไลน์(ผ่าน sub mix) สำหรับการเล่นสดเท่านั้น..ส่วนการเล่นคาราโอเกะใช้แบบสเตอริโอ 2 ช่อง แต่ถ้าจะเอาแบบเก๋าๆ(สำหรับคาราโอเกะ) ก็แยกแค่ กระเดื่อง เบส สะแนร์ เพราะชิ้นดนตรี 3 ชิ้นที่ว่า เหมาะที่จะออกตู้ลำโพงแบบโมโนเพื่อความสมดุลและหนักแน่น อีกทั้งยังเป็นหัวใจหลักของเพลงอีกด้วย   (กลองส่ง ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง และเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ไม่ต้องแยก เพราะมีสมดุล ซ้าย-ขวา อยู่แล้ว) เพราะเสียงดนตรีชิ้นอื่นๆ ใน midi เขาก็จัดสมดุลไว้แล้ว เราไปแยกมาที่มิกซ์เราก็ต้องเสียเวลามาจัดสมดุลใหม่ เสียงที่ได้อาจจะตอบโจทย์จริตของเราว่า (กุก็แยกไลน์ได้แล้ว) แต่ก็ต้องมานั่งปวดหัว เดียวไอ้นั่นไม่ออก ไอ้นี่ดังไป ไอ้โน่นหายไปเลย แล้วก็ต้องนั่งปรับ ไปปรับมา จนดนตรีเลิก แต่ถ้าเรามีมิกซ์ดิจิตอลก็ว่าไปอย่างจะทำงานง่ายขึ้น..........จบซะดื้อๆ.........ขอขอบคุณ

[มร สุวรรณภูมิ]

...ผมใช้การแยกไลน์(ผ่าน sub mix) สำหรับการเล่นสดเท่านั้น..ส่วนการเล่นคาราโอเกะใช้แบบสเตอริโอ 2 ช่อง แต่ถ้าจะเอาแบบเก๋าๆ(สำหรับคาราโอเกะ) ก็แยกแค่ กระเดื่อง เบส สะแนร์ เพราะชิ้นดนตรี 3 ชิ้นที่ว่า เหมาะที่จะออกตู้ลำโพงแบบโมโนเพื่อความสมดุลและหนักแน่น อีกทั้งยังเป็นหัวใจหลักของเพลงอีกด้วย   (กลองส่ง ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง และเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ไม่ต้องแยก เพราะมีสมดุล ซ้าย-ขวา อยู่แล้ว) เพราะเสียงดนตรีชิ้นอื่นๆ ใน midi เขาก็จัดสมดุลไว้แล้ว เราไปแยกมาที่มิกซ์เราก็ต้องเสียเวลามาจัดสมดุลใหม่ เสียงที่ได้อาจจะตอบโจทย์จริตของเราว่า (กุก็แยกไลน์ได้แล้ว) แต่ก็ต้องมานั่งปวดหัว เดียวไอ้นั่นไม่ออก ไอ้นี่ดังไป ไอ้โน่นหายไปเลย แล้วก็ต้องนั่งปรับ ไปปรับมา จนดนตรีเลิก แต่ถ้าเรามีมิกซ์ดิจิตอลก็ว่าไปอย่างจะทำงานง่ายขึ้น..........จบซะดื้อๆ.........ขอขอบคุณ

 

[มร สุวรรณภูมิ]

แสดงว่าแบ่งแค่ 7 ไลน์ไม่รวมไมค์ก็พอแล้วใช่มั๊ย อย่างนี้ซาว์ดการ์ด 7.1 ก็พอน่ะสิ น่าสนใจครับ (ถ้าซาว์ดฟ้อนท์ทำมาแม็ทดีแล้ว)

[jgn 8bit]

เล่นเบื่อแล้ว

[โด่งครับ]

ไม่รู้กี่ราย (ไลน์) เลิกไปแล้วครับ ปัจจุบันเหลือแค่...

1. กระเดื่อง (บางทีก็เอาไปรวมกับเบส)
2. สแนร์
3. เบส
4-5. ที่เหลือเอาไปออกเป็นสเตอริโอ 2 ช่อง (มิดี้เขาออกแบบมาดีแล้วครับเรื่องมิติของเสียงไม่จำเป็นต้องไปแยกให้เมื่อยตุ้ม)

หมายเหตุ : โนตบุค Acer 4736zg  ออนบอร์ดไดร์เวอร์การ์ด realtek 5.1