ผู้เขียน หัวข้อ: ขอสอบถามการปรับdelay ตู้ลำโพงระหว่างเสียงต่ำ เสียงกลางและเสียงสูง  (อ่าน 84031 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ครับ เดี๋ยวผมทำความเข้าใจใหม่ครับ
ผมไม่มีพื้นด้านนี้นักนิด ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ครับ เดี๋ยวผมทำความเข้าใจใหม่ครับ
ผมไม่มีพื้นด้านนี้นักนิด ขอบคุณครับ

เดี๋ยวก็เก่งครับ
เรื่องของเสียง มันไม่มีทฤษฎีอะไรมารองรับหรอก
คิดให้ใกล้ธรรมชาติเข้าไว้

ยกตัวอย่าง ปากคนมีรูเดียว
อ้าปากเปล่งเสียงแต่ละครั้ง ไม่มีการเลื่อนของเฟส ไม่มีอะไรทั้งสิ้นที่รู้ๆ กันมา

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ขอทำความเข้าใจใหม่ครับ
เน็ตเวิร์คในตู้ ทำหน้าที่กรองความถี่ให้ดอกลำโพงแต่ละตัว นั่นคือ
 เสียงกลาง ก็คัดกรองเฉพาะความถี่ย่านกลางส่งให้ดอกลำโพงเสียงกลาง มิให้แหลมมาปน
 เสียงแหลม ก็คัดกรอง เฉพาะความถี่เสียงแหลมส่งให้ดอกลำโพงเสียงแหลม
และขณะเดียวกัน เน็ตเวิร์คก็ควบคุมความสมดุลของเสียงมิให้เสียงใดเสียงหนึ่งโด่งเกินไป นั่นอาจหมายถึงตู้ลำโพง Fullrange ด้วย
เช่นนี้ครับ
ขณะเดียวกัน ก็เข้าใจว่าดอกลำโพงบางรุ่น บางยี่ห้อ มีศักภาพมากพอ ที่จะทำได้ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีเน็ตเวิร์ค
การที่ผมคิดว่าไม่จำเป็นจึงเป็นการเข้าใจผิด และนำมาสับสน
และเช่นนี้ก็ไม่ทราบว่าผมเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่า
บอกตรง ๆ ว่างู ๆ ปลา ๆ กับเรื่องระบบเสียงอยู่มากครับ
ที่มีอยู่ก็ใจรัก บ้า กล้าลอง                                                                          

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
เดี๋ยวก็เก่งครับ
เรื่องของเสียง มันไม่มีทฤษฎีอะไรมารองรับหรอก
คิดให้ใกล้ธรรมชาติเข้าไว้

ยกตัวอย่าง ปากคนมีรูเดียว
อ้าปากเปล่งเสียงแต่ละครั้ง ไม่มีการเลื่อนของเฟส ไม่มีอะไรทั้งสิ้นที่รู้ๆ กันมา

ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ขอทำความเข้าใจใหม่ครับ
เน็ตเวิร์คในตู้ ทำหน้าที่กรองความถี่ให้ดอกลำโพงแต่ละตัว นั่นคือ
 เสียงกลาง ก็คัดกรองเฉพาะความถี่ย่านกลางส่งให้ดอกลำโพงเสียงกลาง มิให้แหลมมาปน
 เสียงแหลม ก็คัดกรอง เฉพาะความถี่เสียงแหลมส่งให้ดอกลำโพงเสียงแหลม
และขณะเดียวกัน เน็ตเวิร์คก็ควบคุมความสมดุลของเสียงมิให้เสียงใดเสียงหนึ่งโด่งเกินไป นั่นอาจหมายถึงตู้ลำโพง Fullrange ด้วย
เช่นนี้ครับ
ขณะเดียวกัน ก็เข้าใจว่าดอกลำโพงบางรุ่น บางยี่ห้อ มีศักภาพมากพอ ที่จะทำได้ จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีเน็ตเวิร์ค
การที่ผมคิดว่าไม่จำเป็นจึงเป็นการเข้าใจผิด และนำมาสับสน
และเช่นนี้ก็ไม่ทราบว่าผมเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่า
บอกตรง ๆ ว่างู ๆ ปลา ๆ กับเรื่องระบบเสียงอยู่มากครับ
ที่มีอยู่ก็ใจรัก บ้า กล้าลอง                                                                          


เข้าใจ ไม่ ผิด หรอกครับ

แต่สักวันหนึ่ง จะเข้าใจมากขึ้น จนแยกแยะออกได้เอง

ดอกลำโพงฟูลเร้นจ์เพียงดอกเดียว เมื่อลงตู้ แล้วนำมาฟังในห้อง
ก็ยังต้องออกแบบครอส มาจูนเพื่อให้เสียงได้ถูกต้อง ครับ
แสดงว่าทั้งตู้ และอคูสติกของห้อง มีปัจจัยให้เสียงเปลี่ยนไปครับ

นึกถึงคนเราร้องเพลงในห้องน้ำ ครับ


ออฟไลน์ armyrock

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 114
  • 9EE0BAD6 ซื้อต่อมาจาก พี่บูญยืน
เมื่อก่อนเคยงงมากครับกับการทำดีเลย์เสียง ตอนนี้เริ่มเข้าใจมากเเล้วครับ
ได้ทดลองกับงานจริงเสียงที่ได้ยินเท่ากันเป็นอะไรที่เพราะมากครับ เเน่นเเละได้มิติเสียงทุกอย่าง

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]

เข้าใจ ไม่ ผิด หรอกครับ

แต่สักวันหนึ่ง จะเข้าใจมากขึ้น จนแยกแยะออกได้เอง

ดอกลำโพงฟูลเร้นจ์เพียงดอกเดียว เมื่อลงตู้ แล้วนำมาฟังในห้อง
ก็ยังต้องออกแบบครอส มาจูนเพื่อให้เสียงได้ถูกต้อง ครับ
แสดงว่าทั้งตู้ และอคูสติกของห้อง มีปัจจัยให้เสียงเปลี่ยนไปครับ

นึกถึงคนเราร้องเพลงในห้องน้ำ ครับ


เข้าใจตรงนี้อีกหน่อยละครับ

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
ขออนุญาตต่อยอดจากป๋ามะละกอเรื่อง Crossover และ Time Alignment นะครับ
ก่อนจะไปเรียนรู้เรื่อง Time alignment ต้องรู้จักกับ Crossover ก่อน

จากข้อจำกัดของ Full range Loudspeaker  ไม่มีลำโพงใดๆในโลกนี้ที่สามารถตอบสนองความถี่ทุกความถี่ที่หูมนุษย์ได้ยินได้สมบูรณ์แบบ

Crossover ทำหน้าที่ตัดแบ่งย่านความถี่ไปให้ลำโพงแต่ละชนิดเพื่อให้สามารถตอบสนองความถี่ได้เหมาะสม

มีคำกล่าวว่า "A perfect crossover, in essence, is no crossover at all."
กล่าวคือ "Crossover ที่สมบูรณ์แบบ ในอุดมคติคือ ไม่มี Crossover"

ซึ่งในความเป็นจริงนั้นทำได้ยาก  เนื่องจากในวงจรของ Crossover มี Capacitor และ Inductor เมื่อใส่ลงไปแล้วทำให้เกิด
- Phase Shift
- Group delay

จึงเกิด การหักล้างและเสริมกันของ Lobe ในแต่ละแนว

Butterworth radiation pattern


Linkwitz & Riley radiation pattern

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 เมษายน 2015, 23:48:49 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
ประเภทของ Crossover แบ่งออกเป็น Passive กับ Active Crossover อันนี้จะไม่กล่าวถึงในรายละเอียดนะครับ พอๆทราบกันอยู่

Passive crossover


Active crossover


Passive crossover
ข้อดีคือ ราคาถูก ช่วยลดจำนวน power amplifier สะดวกสำหรับตู้ Full range
ข้อเสียคือ
-ไม่สามารถ เพิ่มลดเสียงของแต่ละ unit driver ได้
-เกิดการสูญเสียพลังงานและทำให้เกิดความร้อน พลังงานเสียงลดลง ต้องเพิ่มขนาด power amp ในการขับ
Active Crossover
ข้อดี
-สามารถปรับความถี่จุดตัด slope(ความชันของจุดตัด)ได้
-สะดวก
ไม่มีปัญหาการสูญเสียพลังงานของ amplifier
เพิ่มลดความดังของ driver unit ได้อิสระกว่า passive crossover
ข้อเสียงราคาแพง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 เมษายน 2015, 21:06:09 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ Nineyod

  • คณะบริหาร
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • ****
  • กระทู้: 14347
  • 4864146E/786AD800 [วิทยา]8008FCC9

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ขออนุญาตต่อยอดจากป๋ามะละกอเรื่อง Crossover และ Time Alignment นะครับ
ก่อนจะไปเรียนรู้เรื่อง Time alignment ต้องรู้จักกับ Crossover ก่อน

จากข้อจำกัดของ Full range Loudspeaker  ไม่มีลำโพงใดๆในโลกนี้ที่สามารถตอบสนองความถี่ทุกความถี่ที่หูมนุษย์ได้ยินได้สมบูรณ์แบบ

Crossover ทำหน้าที่ตัดแบ่งย่านความถี่ไปให้ลำโพงแต่ละชนิดเพื่อให้สามารถตอบสนองความถี่ได้เหมาะสม

มีคำกล่าวว่า "A perfect crossover, in essence, is no crossover at all."
กล่าวคือ "Crossover ที่สมบูรณ์แบบ ในอุดมคติคือ ไม่มี Crossover"

ซึ่งในความเป็นจริงนั้นทำได้ยาก  เนื่องจากในวงจรของ Crossover มี Capacitor และ Inductor เมื่อใส่ลงไปแล้วทำให้เกิด
- Phase Shift
- Group delay

จึงเกิด การหักล้างและเสริมกันของ Lobe ในแต่ละแนว
(....)(....)
(....)(....)



ขอบคุณ คุณหมอมากครับ  
ตรงจุดนี้แหละที่ผมพยายามทำความเข้าใจมาเป็นสิบๆ ปี
คงเนื่องจากภาษาอ่อนแรงของผมเอง

เมื่อ ครอสฯ ที่ดีที่สุดในอุดมคติ คือการไม่มีครอส

ผมเลยแก้ปัญหาให้ตัวเองในการฟังเพลง
ด้วยการเสาะหาดอกลำโพงฟูลเร้นจ์เพียงดอกเดียวมาใช้
และฟังแบบ ลำโพง OB  ซึ่งตอนนี้ถือว่าพอใจมากๆ ครับ
และเลิกคิดเรื่อง พาสสีพครอสโอเวอร์ไปเลยครับ







รบกวนคุณหมออธิบายต่อเลยครับ
ต่อจนถึงยุคดิจิตอล ซึ่งน่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ดี กว่าอนาล็อก
ที่อยากรู้มากคือเรื่องของ ดิจิตอลอีคิวครับ


ตามไปอ่านเรื่องลำโพง ผมเขียนลงที่นี่ เป็นการตอบความมีน้ำใจของคนที่นั่น ครับ


http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=18724.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 เมษายน 2015, 21:21:49 น. โดย มะละกอ »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897

ขอบคุณ คุณหมอมากครับ  
ตรงจุดนี้แหละที่ผมพยายามทำความเข้าใจมาเป็นสิบๆ ปี
คงเนื่องจากภาษาอ่อนแรงของผมเอง

เมื่อ ครอสฯ ที่ดีที่สุดในอุดมคติ คือการไม่มีครอส

ผมเลยแก้ปัญหาให้ตัวเองในการฟังเพลง
ด้วยการเสาะหาดอกลำโพงฟูลเร้นจ์เพียงดอกเดียวมาใช้
และฟังแบบ ลำโพง OB  ซึ่งตอนนี้ถือว่าพอใจมากๆ ครับ
และเลิกคิดเรื่อง พาสสีพครอสโอเวอร์ไปเลยครับ







รบกวนคุณหมออธิบายต่อเลยครับ
ต่อจนถึงยุคดิจิตอล ซึ่งน่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ดี กว่าอนาล็อก
ที่อยากรู้มากคือเรื่องของ ดิจิตอลอีคิวครับ


ตามไปอ่านเรื่องลำโพง ผมเขียนลงที่นี่ เป็นการตอบความมีน้ำใจของคนที่นั่น ครับ


http://www.diyaudiovillage.net/index.php?topic=18724.0
ขอบคุณครับป๋ามะละกอผมก็เดาๆงูๆปลาๆไปเรื่อยครับ
เดียวขึ้น Outline ไว้ยั่วนํ้าลายก่อนนะครับ
-Analog Crossover
Phase response in crossover frequency
Group Delay
Filter type and comparison
-Digital Crossover
IIR filter
FIR filter

Measurement tools
-Spectrum Analyzer (RTA)
-FFT
-Impulse Response
-Transfer function
-Crossover setup & Time Alignment Method
  -Time Alignment : -Using Pink noise with RTA or FFT
                             - Using Sine wave with SPL meter
                             - Using Impulse Response
                             - Using Transfer function


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 มิถุนายน 2015, 11:26:44 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ เหน่ง หนองมน

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4456
  • HL- 555A571E
ปูสาดถ่าครับพี่หมอ :thank1:

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ผมไม่อาจเข้าใจและอธิบายในสิ่งที่รับรู้ได้ชัดเจนพอครับ
บางทีผมตั้งคำถาม หรือสื่ออาจไม่ชัดเจนพอ
"ครอสที่ดีที่สุดคือไม่มีครอส"
ทำให้ผมต้องตั้งคำถามว่า หากตู้ออกแบบดี ลำโพงดี ไม่ต้องมีครอสได้ไหมครับ
ซึ่งผมเข้าใจว่าตัดที่มิกซ์ หรือส่วนอื่นช่วยบ้าง
งู ๆ ปลา ๆ จริง ๆ

ขอขอบคุณท่านมะละกอ และหมอแม็ค ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 พฤษภาคม 2015, 08:22:54 น. โดย LungWATCR »

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
ผมไม่อาจเข้าใจและอธิบายในสิ่งที่รับรู้ได้ชัดเจนพอครับ
บางทีผมตั้งคำถาม หรือสื่ออาจไม่ชัดเจนพอ
ส"ครอสที่ดีที่สุดคือไม่มีครอส"
ทำให้ผมต้องตั้งคำถามว่า หากตู้ออกแบบดี ลำโพงดี ไม่ต้องมีครอสได้ไหมครับ
ซึ่งผมเข้าใจว่าตัดที่มิกซ์ หรือส่วนอื่นช่วยบ้าง
งู ๆ ปลา ๆ จริง ๆ

ขอขอบคุณท่านมะละกอ และหมอแม็ค ครับ

ในทางปฏิบัตินั้นทำได้หมดครับ จะใส่หรือไม่ใส่ crossover หรือจะตัดจาก filter ของ mixer แล้วมาเข้า amp ก็ได้ทั้งนั้นครับ
แต่ fedility(ความถูกต้อง ความสมจริง)จะไม่ได้ครับ อย่างที่บอกแล้วว่า ลำโพงแต่ละแบบ woofer หรือ Horn driver unit มีความสามารถในการตอบสนองความถี่ได้ไม่เท่ากัน ถ้าไม่ใส่ crossover กรองความถี่เอาไว้เช่นย่าน HF สัญญาณความถี่fullrange ที่เข้ามา จะทำให้เป็นอันตรายกับ Driver unit ได้
ในแง่ของการตอบสนองความถี่ ถ้าลำโพง woofer กับ horn unit ถ้าไม่มี crossover ลำโพงทั้ง 2ก็จะปล่อยความถี่ที่ซ้อนทับกัน ทำให้ความถี่ย่านที่ซ้อนทับกัน เสริมกันแล้วเสียงดังขึ้น หรือเกิดเฟสหักล้างกัน ทำให้ย่านความถี่ที่ซ้อนทับกันนั้นเบาลง
กรณีที่ใช้ mixer ตัดความถี่ ไม่ว่าจะเป็น HPF หรือ LPF ตัด ความมาตรฐานคงไม่เหมือนกับ crossover filter LR /Butterworth เป็นแน่ครับ Phase shift ไม่น่าจะ เป็น Linear เหมือน crossover filter

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]
ในทางปฏิบัตินั้นทำได้หมดครับ จะใส่หรือไม่ใส่ crossover หรือจะตัดจาก filter ของ mixer แล้วมาเข้า amp ก็ได้ทั้งนั้นครับ
แต่ fedility(ความถูกต้อง ความสมจริง)จะไม่ได้ครับ อย่างที่บอกแล้วว่า ลำโพงแต่ละแบบ woofer หรือ Horn driver unit มีความสามารถในการตอบสนองความถี่ได้ไม่เท่ากัน ถ้าไม่ใส่ crossover กรองความถี่เอาไว้เช่นย่าน HF สัญญาณความถี่fullrange ที่เข้ามา จะทำให้เป็นอันตรายกับ Driver unit ได้
ในแง่ของการตอบสนองความถี่ ถ้าลำโพง woofer กับ horn unit ถ้าไม่มี crossover ลำโพงทั้ง 2ก็จะปล่อยความถี่ที่ซ้อนทับกัน ทำให้ความถี่ย่านที่ซ้อนทับกัน เสริมกันแล้วเสียงดังขึ้น หรือเกิดเฟสหักล้างกัน ทำให้ย่านความถี่ที่ซ้อนทับกันนั้นเบาลง
กรณีที่ใช้ mixer ตัดความถี่ ไม่ว่าจะเป็น HPF หรือ LPF ตัด ความมาตรฐานคงไม่เหมือนกับ crossover filter LR /Butterworth เป็นแน่ครับ Phase shift ไม่น่าจะ เป็น Linear เหมือน crossover filter
ขอบคุณจริง ๆ ครับ และรอรับความรู้ต่อไป

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
อีกอย่างที่เข้าใจกันคลาดเคลื่อน เรื่องของ การต่อ C กับ unit เสียงแหลม เพื่อป้องกันแหลมขาด อันนี้ถูกครึ่งเดียวครับ
การใส่ C เข้าไประหว่าง unit แหลม กับ amplifier ก็คือการใส่ filter กรองความถี่หรือ ใส่ Passive crossover ให้กับ unit แหลมนั่นเองครับ


ในทางอ้อมคือ ไม่ให้สัญญานความถี่ต่ำเข้ามาทำอันตรายกับลำโพงเสียงแหลม
แต่ก็มีบางคน ที่ใช้ Active crossover crossover เล่น 3ทางอยู่แล้ว แต่ก็ยังใส่ C คร่อม ลำโพงเสียงแหลมอยู่ อันนี้ผิดแน่นอนครับ
สมมติว่า C ที่คร่อม ทำหน้าที่เป็ HPF กรองความถี่ที่ต่ำกว่า 4 kHzไม่ให้ผ่าน
แล้วเราตัดความถี่ Mid-Hi ที่ Active crossover ที่ 2kHz ดังนั้นความถี่ระหว่าง 2-4kHz ก็จะถูกกรองออกไปครับ


ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
ผมไม่อาจเข้าใจและอธิบายในสิ่งที่รับรู้ได้ชัดเจนพอครับ
บางทีผมตั้งคำถาม หรือสื่ออาจไม่ชัดเจนพอ

"ครอสที่ดีที่สุดคือไม่มีครอส"

ทำให้ผมต้องตั้งคำถามว่า หากตู้ออกแบบดี ลำโพงดี ไม่ต้องมีครอสได้ไหมครับ
ซึ่งผมเข้าใจว่าตัดที่มิกซ์ หรือส่วนอื่นช่วยบ้าง
งู ๆ ปลา ๆ จริง ๆ

ขอขอบคุณท่านมะละกอ และหมอแม็ค ครับ


เพิ่มเติม


อันที่จริง ความมุ่งหมายตรงจุดนี้

ผู้บอกให้หมายถึงการใช้ดอกลำโพงฟูลเร้นจ์เพียงดอกเดียวนะครับ

ซึ่งในระบบลำโพงงาน พีเอ ย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ

ออฟไลน์ LungWATCR

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 5
  • *
  • กระทู้: 1296
  • 5DE459CB [ Pog MusicPro]

เพิ่มเติม


อันที่จริง ความมุ่งหมายตรงจุดนี้

ผู้บอกให้หมายถึงการใช้ดอกลำโพงฟูลเร้นจ์เพียงดอกเดียวนะครับ

ซึ่งในระบบลำโพงงาน พีเอ ย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ
ขอบคุณครับท่านมะละกอ หมอแม็ค จริง ๆ ที่ออกมาให้ความรู้
อยากขออนุญาตผู้ดูแลบอร์ด ปักหมุดกระทู้จังครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 1 พฤษภาคม 2015, 08:06:12 น. โดย LungWATCR »

ออฟไลน์ ข้าวหอมมะลิ

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 3
  • *
  • กระทู้: 174
  • 8F65F4EF (BATMAN)
ขอบคุณ สำหรับความรู้
ที่นำมามอบให้ :thank1:

ออฟไลน์ ชัยยุทธ

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 457
  • 76E5489F,42F4995E,484869D6,663916C8,4884D185 noi
 :thank1: :thank1: :thank1: ทุกท่่านความรู้ทั้งนั้นครับ..ติดตามตลอด

ออฟไลน์ เหยี่ยวเวหา

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 459
  • HL-5764A469
ความรู้ทั้งนั้น :thank1: :happy:

ออฟไลน์ หมอแม็ค

  • ลงทะเบียน HL
  • ระดับ 4
  • *
  • กระทู้: 418
  • 86654897
Crossover filter แบบต่างๆ



Butterworth Filter
Order เลขคู่ 2,4,8 (12,24,48dB/oct) เนื่องจาก phase response ของ HFและLF อยู่ในตำแหน่งเดียวกันดังที่ได้อธิบาย ไว้ในเรื่อง เวกเตอร์ ทำให้ Polar pattern อยู่ในแกนเดียวกัน และผลรวมของ amplitude ที่จุดตัดจะได้+3dB ซึ่งสามารถทำให้ flat ได้ด้วย Equalizer
ส่วน Order เลขคี่ 1,3 (6,18 dB/oct) ผลรวม amplitude ที่จุดตัดจะ flat แต่ Polar pattern จะเอียงหน่อย (Lobe tilt) เนื่องจาก เฟสของ HF กับ LF ต่างกันอยู่ 90 องศาตามเแผนภาพเวกเตอร์



Linkwitz-Riley Filter
Order 2,4,8(12,24,48dB/oct)ถือว่าเป็น filter มาตฐานของ Active crossover ที่ใช้มานาน ผลรวม amplitude ที่จุดตัดราบเรียบ polar patern ไม่เอียง แต่ 2nd-order ต้องกลับเฟสความถี่ย่านใดย่านหนึ่งเพื่อให้ Phase ตรงกัน



Bessel Filter
Order2,4 (12,24dB/oct) ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่ในแง่ของ ความเป็น Linear Phase ในย่าน LPF จะมีมากที่สุด ใน2nd-order จำเป็นต้องกลับเฟสย่านใดย่านหนึ่งเช่นเดียวกับ filterแบบอื่น


crossover filter type comparison



การเปรียบเทียบ magnitude ระหว่าง Butterworth(But), Linkwitz-Riley(L-R) และ Bessel filter(Bes)
จะเห็นว่า L-R และ Bes ความชัน จะใกล้เคียงกัน
But ช่วงแรกของ roll-off จะคมที่สุดและผลรวม amplitude ที่จุดตัดจะได้ +3dB
L-R จะมีความชันกลางๆ และผลรวม amplitude บริเวณจุดตัดจะราบเรียบ(Flat)
Bes บริเวณของ crossover จะกว้างที่สุดและผลรวมที่จุดตัดจะลดลงเล็กน้อย



เปรียบเทียบ Group delay
But จะมี peak ของ group delay สูงกว่า filter แบบอื่น
Bes จะน้อยที่สุด

ตารางเปรียบเทียบ characteristic ของ filterแบบต่างๆ



หมายเหตุ
-filter ที่มี* คือfilterที่ต้องกลับเฟสของความถี่ย่านใดย่านหนึ่ง
-วงกลมเยอะๆคือ ดีหรือมีมาก วงกลมน้อยๆคือไม่ดีหรือน้อย

Amplitude response : หรือ Frequency response การวัดความราบเรียบของการตอบสนองความถี่เมื่อใช้ filterตัวนั้นๆ ควรเลือก filter ที่ flat เพราะจะทำให้ การ equalizeระบบง่ายขึ้น
Group delay flatness : คือการวัดความหน่วงของความถี่แต่ละความถี่ว่าผ่าน filter ไปได้ราบเรียบมากน้อยเพียงใด ซึ่งแต่ละความถี่ มีความหน่วงไม่เท่ากันเมื่อผ่าน filter(Group delay)โดยเป็นผลที่เกิดจาก phase shift ของfilterนั้นๆ
Polar response : คือ Lobing effect ที่เกิดจาก driver ที่ขับความถี่ทั้ง2ย่าน
Roll-off rate : คือความชันของ filter ถ้าชันมาก(Roll-off rateสูง)ความถี่ระหว่าง 2ย่านจะซ้อนทับกันน้อย ถ้าชันน้อยย่านความถี่ก็จะซ้อนทับกันมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 13 มิถุนายน 2015, 20:45:01 น. โดย หมอแม็ค »

ออฟไลน์ มะละกอ

  • ลงทะเบียน HL
  • ขี้โม้ระดับสุดยอด
  • *
  • กระทู้: 4197
  • 7C06BEF5 จาก X-Men
Save  เก็บไว้ละครับ  

แปลได้งดงาม เข้าใจง่ายทันที

 จบเรื่องครอสโอเวอร์ฯ 
ผมจะลองออกแบบ พาสสีพมาใช้สักชุด
เกิดมันใช้ได้ ก็จะนำเสนอผลงาน
สมาชิกท่านใดอยากเอาไปใช้ได้ฟรี

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 13 มิถุนายน 2015, 07:37:28 น. โดย มะละกอ »

athiwat

  • บุคคลทั่วไป
 :thank1:
สำหรับความรู้ครับ