eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: เด็กชายเคยโสด ที่ วันที่ 21 พฤษภาคม 2014, 11:40:27 น.
-
บทความ
ความสัมพันธ์ของดอกลำโพงกับเพาเวอร์ โดย อ.วิริยะ
ความสัมพันธ์ระหว่างลำโพงกับเพาเวอร์แอมป์มีหลายตัวแปร เช่น
กระแส (Current) หน่วยเป็น Ampre : A
แรงดัน (Voltage) หน่วยเป็น Volt : V
ความถี่ (Frequency) หน่วยเป็น Hertz : Hz
ความไว (Sensitivity) หน่วยเป็น dB-SPL : dB/W/M
อิมพีแดนซ์ (Impedance) หน่วยเป็น Ohms : ohm
กำลังขยาย (Power) หน่วยเป็น Watt :W
อัตราทนกำลัง (Power Rating) หน่วยเป็น Watt :W
ความต้านทานของสายลำโพง (Resistance) หน่วยเป็น Ohms : ohm
ฯลฯ
ตัวแปรที่มีนัยยะสำคัญระหว่างลำโพงกับเพาเวอร์แอมป์มากที่สุด
ที่ต้องนำมาพิจารณา มี 3 ประการคือ
1. ค่าอิมพีแดนซ์ของลำโพง(ไม่ใช่ค่าความต้านทาน)มีหน่วยเป็น Ohms
จะระบุไว้บนตัวลำโพง โดยทั่วไปจะมีค่า 8 Ohms
ทางด้านขาออกของเพาเวอร์แอมป์จะมีค่าอิมพีแดนซ์อยู่ระหว่าง 4-16 Ohms หรือ 2-16 Ohms แล้วแต่ผู้ออกแบบ
ดังนั้นค่าอิมพีแดนซ์ที่เหมาะสมของลำโพงที่เข้ากันได้กับเครื่องขยายก็ต้องอยู่ในช่วง 4-16 Ohms หรือ 2-16 Ohms ด้วย
นั่นคือเราต้องดูที่เพาเวอร์แอมป์เสียก่อนว่าจะใช้กับลำโพง(โหลด)
ได้ต่ำสุดที่กี่โอห์ม
เราก็ต่อใช้งานโดยให้ค่าอิมพีแดนซ์ของลำโพงไม่ต่ำกว่าอิมพีแดนซ์ต่ำสุดของเพาเวอร์แอมป์
เพาเวอร์แอมป์ก็จะไม่พัง จากสาเหตุจากลำโพงอิมพีแดนซ์ต่ำเกินไป
2. กำลัง(Power) มีหน่วยเป็น วัตต์ : W กำลังมีอยู่ สองส่วนคือ
2.1 กำลังของเพาเวอร์แอมป์ เป็นกำลังที่ได้จากการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นค่าทางไฟฟ้าที่ได้จาก
กำลังไฟฟ้า(P) = กระแส(I)xแรงดัน(E) หน่วยเป็น W
2.2 กำลังของลำโพง มีหน่วยเป็น วัตต์ : W (ค่านี้จะพิมพ์ติดอยู่บนตัวลำโพง) ค่านี้เป็นค่าอัตราทนกำลังของขดลวดที่ใช้พันลำโพง ซึ่งจะเป็นลวดทองแดงหรืออลูมิเนียมก็ตาม
ค่านี้จะเป็นตัวบอกว่าขดลวดที่ใช้พันลำโพงนี้ทนกำลังได้กี่วัตต์โดยไม่เสียหายด้วยการไหม้หรือขาด
"มิได้เป็นค่าที่จะบอกว่าลำโพงตัวนี้ดังกี่วัตต์" (โปรดอ่านข้อความนี้หลายๆครั้งและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้)
ลำโพงมีส่วนประกอบที่เป็นขดลวด ขดลวดของลำโพงจะถูกต่ออยู่กับเอาท์พุทของเพาเวอร์แอมป์ผ่านทางสายลำโพง
ดังนั้นกำลังทั้งหมดจากเพาเวอร์แอมป์จะปรากฎที่ขดลวดลำโพง
ขดลวดลำโพงจึงต้องทนกำลังจากเพาเวอร์แอมป์ได้โดยไม่เสียหาย
กำลังที่ลำโพงได้รับนี้จะเปลี่ยนสภาพไปเป็นความร้อนและสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
สรุปในกรณีนี้ กำลังของลำโพงจึงไม่ควรต่ำกว่ากำลังของเพาเวอร์แอมป์"ที่จ่ายให้" ลำโพงจึงจะไม่ขาด
3. ความไวของลำโพง มีหน่วยเป็น dB-SPL ค่านี้เป็นค่าที่จะบอกว่าลำโพงตัวนี้มีความดังเป็นเท่าไหร่
"ความดังของเสียง มีหน่วยเป็น เดซิเบล : dB"
ความดังของเสียงที่ได้จากลำโพงก็มีหน่วยเป็น dB (โปรดอ่านหลายๆครั้ง ถ้ายังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านข้อ 2.2)
ค่าความไว(Sensitivity) นี้จะบอกไว้ในสเปคของลำโพง
ลำโพงที่มีค่าความไวมากเสียงจะดังมากกว่าลำโพงที่มีความไวต่ำ
เมื่อป้อนกำลังเข้าไปเท่ากัน
ข้อสรุป : เงื่อนไขเมื่อใช้งานปกติระหว่างลำโพงกับแอมป์
1. ไม่ให้ดอกลำโพงขาดก็อย่าป้อนกำลังเข้าไปให้สูงเกินกว่าอัตราทนกำลังที่ขดลวดลำโพงจะรับได้
2. ไม่ให้แอมป์พังก็อย่าต่อกับลำโพงที่มีค่าอิมพีแดนซ์ต่ำกว่าค่าอิมพีแดนซ์ต่ำสุดของแอมป์เครื่องนั้น
-
ความรู้ทั้งหมด :thank1:
-
เพาเวอร์ผมมีแต่กำลังน้อยๆ เลยต้องใช้หลายตัวเวลามีงานที่ต้องใช้เสียงมากครับ
-
อืม...จะลองไปศึกษาดูครับ
-
ได้ความรู้เพิ่มอีก ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณ ครับผม ได้ความรู้ดีๆอีกแล้ว
ถามต่อ..ครับ ถ้าดอกลำโพงมีอัตราทนกำลังน้อยกว่า กำลังของเพาเวอร์ ซึ่งมีโอกาสทำให้ดอกลำโพงขาด เราพอจะมีวิธีคอนโทรล การใช้งานในระบบของเรามั้ย ครับว่า ควรใช้งานเสียงดังระดับไหนให้ปลอดภัยกับลำโพง ฟัง-สังเกตุ ระบบ
ของเราอย่าไร ซึ่งที่ผมใช้อยู่จะตรงกับคำถามนี้ ครับ
(ผิดถูก ขออภัย ครับ)
:thank1:
-
ขอบคุณ ครับผม ได้ความรู้ดีๆอีกแล้ว
ถามต่อ..ครับ ถ้าดอกลำโพงมีอัตราทนกำลังน้อยกว่า กำลังของเพาเวอร์ ซึ่งมีโอกาสทำให้ดอกลำโพงขาด เราพอจะมีวิธีคอนโทรล การใช้งานในระบบของเรามั้ย ครับว่า ควรใช้งานเสียงดังระดับไหนให้ปลอดภัยกับลำโพง ฟัง-สังเกตุ ระบบ
ของเราอย่าไร ซึ่งที่ผมใช้อยู่จะตรงกับคำถามนี้ ครับ
(ผิดถูก ขออภัย ครับ)
:thank1:
มีปัจจัยมาเกี่ยวข้องอีกหลายเรื่องครับ สัญญาณคลิป มีผลทำให้ลำโพงพังได้ง่ายเหมือนกันครับ
ไฟฟ้าไม่เสถียรก็มีโอกาสที่จะทำให้พังได้ทั้งแอมป์และลำโพงครับ
การคลิปมีโอกาสเกิดได้ทั้งคลิปจากสัญญาณและคลิปจากไฟครับ
กรณีลำโพงทนกำลังได้น้อยกว่าเพาเวอร์ ก็อาศัยการฟังเสียงเอาครับ เปิดแค่ให้เสียงออกมาชัดสะอาด ลำโพงไม่กระพรือ ไม่มีเสียงคลัก ๆ ครับ
-
ขอความรู้เพิ่มครับ ลำโพงซับควรมีเน็ตเวิร์คหรือ C ต่อเหมือนเสียงกลางแหลม หรือขับตรงจากเพาเวอร์แอมป์ครับ และแบบไหนให้เสียงหนักแน่นกว่ากัน ขอโทษที่ถามยังน้อยมากสำหรับความรู้เรื่องนี้กำลังเก็บข้อมูลครับ
-
ขอความรู้เพิ่มครับ ลำโพงซับควรมีเน็ตเวิร์คหรือ C ต่อเหมือนเสียงกลางแหลม หรือขับตรงจากเพาเวอร์แอมป์ครับ และแบบไหนให้เสียงหนักแน่นกว่ากัน ขอโทษที่ถามยังน้อยมากสำหรับความรู้เรื่องนี้กำลังเก็บข้อมูลครับ
มีบางรุ่นครับที่มี พาสซีฟโลพาสฟิลเตอร์ติดมาด้วย ส่วนมากแล้วต่อตรงมาจากแอมป์ แล้วอาศัยครอสในการป้อนความถี่ต่ำให้เพาเวอร์ทำงานครับ
ถ้าใช้ซีต่อคร่อม จะเป็นการดักความถี่ย่านโลไว้ไม่ให้ออกมากกว่าครับ
-
มีปัจจัยมาเกี่ยวข้องอีกหลายเรื่องครับ สัญญาณคลิป มีผลทำให้ลำโพงพังได้ง่ายเหมือนกันครับ
ไฟฟ้าไม่เสถียรก็มีโอกาสที่จะทำให้พังได้ทั้งแอมป์และลำโพงครับ
การคลิปมีโอกาสเกิดได้ทั้งคลิปจากสัญญาณและคลิปจากไฟครับ
กรณีลำโพงทนกำลังได้น้อยกว่าเพาเวอร์ ก็อาศัยการฟังเสียงเอาครับ เปิดแค่ให้เสียงออกมาชัดสะอาด ลำโพงไม่กระพรือ ไม่มีเสียงคลัก ๆ ครับ
ขอบคุณ ครับผม
จะเก็บความรู้ดีๆ นี้นำไปปฏิบัติตาม
และจดจำเอาไว้แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ครับ
ขอบคุณ ครับผม
:thank1:
-
ผมใช้เพาเวอร์200watts sterio 8 ohms. กับลำโพง 300 watts. ข้างละใบ
ที่ระยะ 20. เมตร ผมวัดได้ความดัง 118 เดซิเบล ครับ เพราะค่า Spl. ลำโพง 96dB ครับ
โดยที่เพาเวอร์ เปิดบ่ายสองครับ ถ้าบ่ายสามจะมีสัญญาณคลิปนิดหน่อยไฟคลิปกระพริบครับ
วัดที่ถนน มีตึกรอบทิศทาง อยากให้พวกเราให้ความสำคัญกับค่าความไวลำโพงกันสักนิดครับ
หาลำโพงดีดีก่อนแล้วจึงหาแอมป์มาขับครับ ถ้าได้ลำโพงกับแอมป์แบรนด์เดียวกัน
จะช่วยตอบโจทย์ง่ายขึ้นครับ เพราะผู้ผลิตมักทดสอบอุปกรณ์ใส่กันมาก่อน
ส่วนราคามักแปรผันตามคุณภาพครับ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ตัวหนังสือไม่ตรงตามคุณสมบัติครับ
เก้ไขตัวเลขผิดครับ พิมพ์บนมือถือครับ ขออภัย 118 dB ครับ
-
ผมใช้เพาเวอร์200watts sterio 8 ohms. กับลำโพง 300 watts. ข้างละใบ
ที่ระยะ 20. เมตร ผมวัดได้ความดัง 128 เดซิเบล ครับ เพราะค่า Spl. ลำโพง 96dB ครับ
โดยที่เพาเวอร์ เปิดบ่ายสองครับ ถ้าบ่ายสามจะมีสัญญาณคลิปนิดหน่อยไฟคลิปกระพริบครับ
วัดที่ถนน มีตึกรอบทิศทาง อยากให้พวกเราให้ความสำคัญกับค่าความไวลำโพงกันสักนิดครับ
หาลำโพงดีดีก่อนแล้วจึงหาแอมป์มาขับครับ ถ้าได้ลำโพงกับแอมป์แบรนด์เดียวกัน
จะช่วยตอบโจทย์ง่ายขึ้นครับ เพราะผู้ผลิตมักทดสอบอุปกรณ์ใส่กันมาก่อน
ส่วนราคามักแปรผันตามคุณภาพครับ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ตัวหนังสือไม่ตรงตามคุณสมบัติครับ
แหมข้อนี้ + 100 เลย ถูกใจผมมาก
ใช้พาวเวอร์ 200 วัตต์ แต่มีหลายๆ ตัว ดีกว่าเยอะ
ส่วนที่ขับซับ เพิ่มอีกเท่าคือข้างละ 400-500 วัตต์ พอละครับ
-
ขอความรู้เพิ่มครับ
ลำโพงซับ ควรมีเน็ตเวิร์คหรือ C ต่อเหมือนเสียงกลางแหลม หรือขับตรงจากเพาเวอร์แอมป์ครับ
และแบบไหนให้เสียงหนักแน่นกว่ากัน
ขอโทษที่ถามยังน้อยมากสำหรับความรู้เรื่องนี้กำลังเก็บข้อมูลครับ
ลำโพงซับ ทำงานที่ย่านความถี่ต่ำมาก โดยทั่วไปจะป้อนย่านความถี่ประมาณ 100 Hz ลงไป
การป้อนความถี่จำเป็นต้องใช้ ครอสโอเวอร์เนตเวิร์ค ซึ่งมี 2 แบบคือ
1. แบบพาสสีพ มี C และ L (ขดลวด) เป็นตัวกรองความถี่ (Filter)
อธิบายได้ดังนี้:-
C มีคุณสมบัติกรองหรือกั้นไม่ให้ความถี่ย่านเสียงต่ำผ่าน
แต่ปล่อยให้เสียงสูงผ่านไปทั้งหมด กั้นมากหรือน้อยขนาดใหน ขึ้นอยู่กับค่าของ C ที่มีการคำนวณไว้ครับ
ส่วน L มีหน้าที่กั้นความถี่สูงไม่ให้ผ่าน ปล่อย ย่านความถี่ต่ำเท่านั้น
ทำงานตรงข้ามกับ C
2. แบบ Active Crossover Network ทำงานโดยวงจรทางไฟฟ้าต้องมีไฟฟ้าเลี้ยง
ที่เราเรียกทั่วไปแบบไทยๆ ว่า ครอส นั่นแหละ
ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ในการแบ่งความถี่ป้อนให้กับลำโพง
เสียงที่ได้จาก Active Crossover Network จะให้ความสด และพุ่ง มากกว่า แบบพาสสีพ
มีฟังชั่นให้เลือกการใช้งานได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วย
จึงเหมาะที่จะใช้งานกลางแจ้ง มากกว่าแบบพาสสีพ
ตอบโจทย์ได้เลยว่า C ตัวเดียว เอามาใช้กับลำโพงซับไม่ได้ครับ
-
แหมข้อนี้ + 100 เลย ถูกใจผมมาก
ใช้พาวเวอร์ 200 วัตต์ แต่มีหลายๆ ตัว ดีกว่าเยอะ
ส่วนที่ขับซับ เพิ่มอีกเท่าคือข้างละ 400-500 วัตต์ พอละครับ
ผมเล่าความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ครับ ขอบคุณอาจารย์ป๋าที่กดไลค์ให้ครับ
-
เล่นเครื่องเสียง ไม่ว่า บ้าน หรือ PA
ผมเลือกต้นทางสำหรับ PA คือไมโครโฟน จับคู่กับ ไมค์ปรี หรือ มิกซ์
หมายความว่ามันต้องไปด้วยกันด้วยดี
ปลายทางคือลำโพงกับพาวเวอร์แอมป์ มันต้องไปด้วยกัน
ดีที่สุดคือ ความง่าย(Simple), การเชื่อมต่อสั้นที่สุด และระบบที่จิ๋วแต่แจ๋ว
แอมป์หนึ่งตัว ขับลำโพงหนึ่งคู่
เสียงจะเหนือกว่าด้วยประการทั้งปวงกับแอมป์ตัวเดียวขับลำโพงหลายคู่
ที่สำคัญ ปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด งานไม่ล่มแน่นอน
นั่นเป็นประสบการณ์ที่เล่นมาชั่วชีวิตครับ
-
เล่นเครื่องเสียง ไม่ว่า บ้าน หรือ PA
ผมเลือกต้นทางสำหรับ PA คือไมโครโฟน จับคู่กับ ไมค์ปรี หรือ มิกซ์
หมายความว่ามันต้องไปด้วยกันด้วยดี
ปลายทางคือลำโพงกับพาวเวอร์แอมป์ มันต้องไปด้วยกัน
ดีที่สุดคือ ความง่าย(Simple), การเชื่อมต่อสั้นที่สุด และระบบที่จิ๋วแต่แจ๋ว
แอมป์หนึ่งตัว ขับลำโพงหนึ่งคู่
เสียงจะเหนือกว่าด้วยประการทั้งปวงกับแอมป์ตัวเดียวขับลำโพงหลายคู่
ที่สำคัญ ปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด งานไม่ล่มแน่นอน
นั่นเป็นประสบการณ์ที่เล่นมาชั่วชีวิตครับ
:th2: :th2: :th2: :th2: :th2:
:thank1: :thank1: :thank1: :thank1: :thank1:
-
ผมใช้เพาเวอร์200watts sterio 8 ohms. กับลำโพง 300 watts. ข้างละใบ
ที่ระยะ 20. เมตร ผมวัดได้ความดัง 128 เดซิเบล ครับ เพราะค่า Spl. ลำโพง 96dB ครับ
โดยที่เพาเวอร์ เปิดบ่ายสองครับ ถ้าบ่ายสามจะมีสัญญาณคลิปนิดหน่อยไฟคลิปกระพริบครับ
วัดที่ถนน มีตึกรอบทิศทาง อยากให้พวกเราให้ความสำคัญกับค่าความไวลำโพงกันสักนิดครับ
หาลำโพงดีดีก่อนแล้วจึงหาแอมป์มาขับครับ ถ้าได้ลำโพงกับแอมป์แบรนด์เดียวกัน
จะช่วยตอบโจทย์ง่ายขึ้นครับ เพราะผู้ผลิตมักทดสอบอุปกรณ์ใส่กันมาก่อน
ส่วนราคามักแปรผันตามคุณภาพครับ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ตัวหนังสือไม่ตรงตามคุณสมบัติครับ
จากบทความนี้ ขอรบกวนถามพี่ ครับ (ถ้ามีท่านใดโพสต์แล้วต้อง ขออภัยด้วย) เกี่ยวกับ การคำนวณ หาค่า ความดังที่ว่านี้ ใช้สูตรหรือหลักการอย่างไร ครับ
ซึ่งชุดลำโพงของผม ก็ข้างละ 300 w เหมือนกัน 15" กลาง-แหลม สเป็ค 300-600 วัตต์ max spl ที่125 db
ผมคุ้นๆว่า มีบทความ การคำนวณค่าต่างๆของลำโพงก่อนหน้า
รบกวนอีกครั้ง ครับ สำหรับผมซึ่งยังไม่เข้าใจเอาเสียเลย ??? ??? ???
ขอบคุณมาก ครับผม
:thank1:
-
สูตรคำนวณค่าความดังสูงสุดของลำโพงที่ระยะ 1 เมตร (SPL)
ให้ sensitivity 95dB 1W/1M)
ให้ Maximum input power = 500 watts)
สูตรการคำนวณหา ค่าความดังสูงสุดที่ระยะ 1 เมตร (Max SPL) คือ
SPL = (10*(log Maximum input power)) + sensitivity 1W/1m
แทนค่าในสูตร จะได้เป็น
SPL=(10*(log500)) + 95
= 122dB SPL
สูตรคำนวณค่าความดังตามระยะทาง
ให้ Max.SPL/1M = 122dB
ให้ Distance from speaker = 50 Metre
สูตรคำนวณ ดังนี้
SPL at xMetre = (Max.SPL/1M) - (20Log (Distance from speaker))
แทนค่าในสูตร จะได้เป็น
SPL at 50Metre = (122 - (20Log (50)))
ค่าความดังเฉลี่ยที่50เมตรคือ 88dB
สูตรคำนวนหาค่า SPL ที่ 1เมตร
ให้ SPL(listener) =100
ให้ distance from speaker to listener = 50
SPL(ที่ 1 m) = SPL(listener) + (20log (distance from speaker to listener))
= 100 + 20log50
dB SPL ที่ 1 m ต้องได้ = 134 dB SPL โดยประมาณ
สูตรคำนวนหากำลังวัตต์ของเพาเวอร์แอมป์
ตัวอย่าง เราออกแบบระบบเสียงโดยให้จุดนั่งฟังที่ไกลที่สุดคือ 100 เมตร และให้ความดังเท่ากับ
85 dB SPL โดยเลือกใช้ลำโพงที่มีความดัง 95 dB SPL ที่ 1วัตต์/1เมตร โดยเผื่อกำลังสำรองไว้ที่ 3dB
จากการคำนวนต้องป้อนกำลังขับ 1,995 watts ให้กับลำโพง
จากสูตร
dBW = Lreq - Lsens + 20 * Log (D2/Dref) + HR
W = 10 ยกกำลัง (dBW / 10)
แทนค่าสูตร
dBW = 85 - 95 + 20 * Log (100/1) + 3
= 33
W = 10 ยกกำลัง (33 / 10)
=1995 W
จากค่าที่ได้ต้องใช้เพาเวอร์แอมป์ที่มีกำลัง 1995 วัตต์
หากลำโพงที่เลือกใช้รับกำลังขับได้ใบละ 500 วัตต์ จะต้องใช้ตู้ทั้งหมด 1995/500 =4ใบ
จาก
Lreq = ความดังที่ต้องการ ณ จุดนั่งฟังที่ไกลที่สุด(dB)
Lsens = ความไวของลำโพง 1W/1M
D2 = ระยะห่างจากลำโพงถึงจุดนั่งฟังที่ไกลที่สุด (M)
Dref = ระยะห่างที่ใช้อ้างอิง ปกติใช้ (1M)
HR = กำลังขับสำรองของเพาเวอร์แอมป์ (dB)
dBW = อัตราส่วนของกำลังโดยอ้างอิงที่ 1 watt
W = กำลังขับของเพาเวอร์แอมป์ที่ต้องการ
-
ผมใช้เพาเวอร์200watts sterio 8 ohms. กับลำโพง 300 watts. ข้างละใบ
ที่ระยะ 20. เมตร ผมวัดได้ความดัง 128 เดซิเบล ครับ เพราะค่า Spl. ลำโพง 96dB ครับ
โดยที่เพาเวอร์ เปิดบ่ายสองครับ ถ้าบ่ายสามจะมีสัญญาณคลิปนิดหน่อยไฟคลิปกระพริบครับ
วัดที่ถนน มีตึกรอบทิศทาง อยากให้พวกเราให้ความสำคัญกับค่าความไวลำโพงกันสักนิดครับ
หาลำโพงดีดีก่อนแล้วจึงหาแอมป์มาขับครับ ถ้าได้ลำโพงกับแอมป์แบรนด์เดียวกัน
จะช่วยตอบโจทย์ง่ายขึ้นครับ เพราะผู้ผลิตมักทดสอบอุปกรณ์ใส่กันมาก่อน
ส่วนราคามักแปรผันตามคุณภาพครับ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ตัวหนังสือไม่ตรงตามคุณสมบัติครับ
ขออภัย ไม่ได้ต้องการขัดแย้งอะไร แต่จากตัวเลขต่าง ๆ ที่ท่านแจ้งเกี่ยวกับ W output ของเพาวเวอร์ กับความไวของตู้ลำโพงที่ท่านใช้ มันเป็นไปไม่ได้ครับ วัดหน้าตู้ที่ 1 m ก็ยังไม่ได้ 128dB เลยครับ
-
สงสัยเครื่องหลอกมั้งครับ เยู่ในพื้นที่อับครับ
ขออภัยครับ งช้มือถือเล่น ตัวเลขผิดครับ 118 dB ครับ
ขอบคุณเฮียมากครับ
-
สงสัยเครื่องหลอกมั้งครับ เยู่ในพื้นที่อับครับ
ขออภัยครับ งช้มือถือเล่น ตัวเลขผิดครับ 118 dB ครับ
ขอบคุณเฮียมากครับ
อ่อ ครับ ท่านลองคำนวณดูตามสูตรที่ท่านโพสไว้ จะได้ตัวเลขที่แท้จริงครับ ทั้ง ที่ระยะ 1 m และ 20 m ครับ
-
SPL 118dB คือที่ 1 m ท่านยังลืมลบ ค่า SPL ที่จะลดลงไปจากระยะทางอีกประมาณ -26dB ครับ เต็มที่ผมให้แค่ 94dB +- เท่านั้นครับเผื่อ Swing (แต่ก็เป็นไปแทบไม่ได้เพราะพาวเวอร์ท่านกำลังน้อยกว่าตู้ลำโพง)
SPL at xMetre = (Max.SPL/1M) - (20Log (Distance from speaker))
SPL at 20m = 118 - (20 x (Log20)) = 118-26 = 92dB
-
SPL 118dB คือที่ 1 m ท่านยังลืมลบ ค่า SPL ที่จะลดลงไปจากระยะทางอีกประมาณ -26dB ครับ เต็มที่ผมให้แค่ 94dB +- เท่านั้นครับเผื่อ Swing (แต่ก็เป็นไปแทบไม่ได้เพราะพาวเวอร์ท่านกำลังน้อยกว่าตู้ลำโพง)
SPL at xMetre = (Max.SPL/1M) - (20Log (Distance from speaker))
SPL at 20m = 118 - (20 x (Log20)) = 118-26 = 92dB
งานบวชหลานนายยอด AJ 3000vz ขับกลาง PS15 ข้างละสี่ใบจนคลิปไฟแดงวาบๆ ระยะ 40 เมตรวัดได้แค่ 98-99 dB นิดๆ เครื่องวัดของนายยอดคงไม่โกงมั้งเฮีย
-
งานบวชหลานนายยอด AJ 3000vz ขับกลาง PS15 ข้างละสี่ใบจนคลิปไฟแดงวาบๆ ระยะ 40 เมตรวัดได้แค่ 98-99 dB นิดๆ เครื่องวัดของนายยอดคงไม่โกงมั้งเฮีย
ตามนั้นครับ หมอนพ :love2:
-
ตามนั้นครับ หมอนพ :love2:
ดอกลำโพงกลับบ้านเก่าไปสองดอก :cry: :cry:
-
ดอกลำโพงกลับบ้านเก่าไปสองดอก :cry: :cry:
กร๊ากกก...... ก็เล่นอัดซะแดง วาบ ๆ
-
ดอกลำโพงกลับบ้านเก่าไปสองดอก :cry: :cry:
สบายตัวไปเลย ;D ;D
-
ผมใช้เพาเวอร์200watts sterio 8 ohms. กับลำโพง 300 watts. ข้างละใบ
ที่ระยะ 20. เมตร ผมวัดได้ความดัง 118 เดซิเบล ครับ เพราะค่า Spl. ลำโพง 96dB ครับ
โดยที่เพาเวอร์ เปิดบ่ายสองครับ ถ้าบ่ายสามจะมีสัญญาณคลิปนิดหน่อยไฟคลิปกระพริบครับ
วัดที่ถนน มีตึกรอบทิศทาง อยากให้พวกเราให้ความสำคัญกับค่าความไวลำโพงกันสักนิดครับ
หาลำโพงดีดีก่อนแล้วจึงหาแอมป์มาขับครับ ถ้าได้ลำโพงกับแอมป์แบรนด์เดียวกัน
จะช่วยตอบโจทย์ง่ายขึ้นครับ เพราะผู้ผลิตมักทดสอบอุปกรณ์ใส่กันมาก่อน
ส่วนราคามักแปรผันตามคุณภาพครับ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ตัวหนังสือไม่ตรงตามคุณสมบัติครับ
เก้ไขตัวเลขผิดครับ พิมพ์บนมือถือครับ ขออภัย 118 dB ครับ
ยังสงสัยตรงนี้ครับเราเปิดเต็มเลยได้ไหม ปกติผมเปิดเต็มแล้วมาลดที่ครอสเอา
-
กร๊ากกก...... ก็เล่นอัดซะแดง วาบ ๆ
ไอ้ยอดตัวดีนั้นแหละ มันไปยืนท้ายงานแล้วบอกดังได้อีกไม๊พี่ ไอ้ตูดหมึกตู้ผมแค่ PS15 ข้างละสี่ใบกลางทุ่งนาโหลงโจ้ง ท้ายงานเป็นร้อยเมตรมันจะให้ดัง 100 dB :mad245: :bla:
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/p526x296/10358127_801510463193543_7883764515821526451_n.jpg)
-
สบายตัวไปเลย ;D ;D
อย่าลืมซิ..พี่อยู่กับช่าง....สุพรรณมีร้านที่พันว๊อยส์ลำโพงส่งบ้านหม้ออยู่ร้านหนึ่งมีคนงานสองสามคนพันว๊อยส์กันทั้งวัน พันได้เกือบทุกรุ่นเครื่องมือดีมาก พันได้เกือบเหมือนของแท้
เพียงแต่ยังพันนอกในไม่เป็น ไม่มีลวดแบนใช้แต่ดีตรงที่ซ่อมแล้วเสียงเกือบจะเหมือนหรือเหมือนเดิม (ค่าซ่อมดอกละ200)
-
ไอ้ยอดตัวดีนั้นแหละ มันไปยืนท้ายงานแล้วบอกดังได้อีกไม๊พี่ ไอ้ตูดหมึกตู้ผมแค่ PS15 ข้างละสี่ใบกลางทุ่งนาโหลงโจ้ง ท้ายงานเป็นร้อยเมตรมันจะให้ดัง 100 dB :mad245: :bla:
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/p526x296/10358127_801510463193543_7883764515821526451_n.jpg)
งั้นให้น้ายอด จ่ายค่าซ่อม :hap3:
-
ไอ้ยอดตัวดีนั้นแหละ มันไปยืนท้ายงานแล้วบอกดังได้อีกไม๊พี่
ไอ้ตูดหมึกตู้ผมแค่ PS15 ข้างละสี่ใบกลางทุ่งนาโหลงโจ้ง ท้ายงานเป็นร้อยเมตรมันจะให้ดัง 100 dB :mad245: :bla:
(https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/p526x296/10358127_801510463193543_7883764515821526451_n.jpg)
ผมต้องการสร้างวีรบุรุษครับพี่..
เผอิญฝนฟ้าไม่เล่นด้วย..เลยอดแจ้งเกิดเลย..ฮ่าๆๆ
-
(http://upic.me/i/on/ppgv5.jpg) (http://upic.me/show/51252032)
เอาค่าประมาณการที่คำนวณไว้มาให้ดูครับ ให้ดูที่ค่าความไวของลำโพงท่านแล้วมาเปลี่ยนค่าเอาครับ
-
(http://upic.me/i/on/ppgv5.jpg) (http://upic.me/show/51252032)
ถ้าต้องการความดัง 130dB @ 1m โดยตู้ลำโพงมี Sensitivity 97dB 1w/1m นั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้กำลังขับสูงถึง 2,048 watt / ตู้ เราสามารถเพิ่มจำนวนตู้แทนได้ครับ
ตามตัวอย่างของท่าน ตู้มีค่า Sensitivity 97dB 1w / 1m หากขับด้วยแอมป์กำลังขับ 512w จะได้ความดังหน้าตู้ 124dB @ 1m
ทุกจำนวนเท่าตัวของตู้ลำโพง เราจะได้ความดัง SPL +3dB
นั่นคือ
ตู้ลำโพงตามสเปคข้างต้น 1 ตู้ ขับด้วยแอมป์ 512w/ตู้ ได้ความดัง SPL 124dB @ 1m
ตู้ลำโพงตามสเปคข้างต้น 2 ตู้ ขับด้วยแอมป์ 512w/ตู้ จะได้ความดัง SPL 124 +3 = 127dB @ 1m
ตู้ลำโพงตามสเปคข้างต้น 4 ตู้ ขับด้วยแอมป์ 512w/ตู้ จะได้ความดัง SPL 127 +3 = 130dB @ 1m