eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: ต้นไผ่ สุพรรณ ที่ วันที่ 2 ตุลาคม 2013, 22:37:52 น.
-
พอดีว่ามีคนรู้จักมายืมตู้กลางแหลมผม(15"ใช้ f1504 แหลม 750) ไปออกงาน แล้วมาบอกผมว่า ลำโพงของผมเสียงแตก ผมก็ถามว่าเขาต่ออย่างไง เขาก็บอกว่า เขาต่อ ตู้ aj ps15II จำนวน 2 ใบ ต่อข้าง แล้วก็พ่วงจาก ps15II ไปเข้าตู้ผม ซึ่งอยู่นอกห้อง รวมเป็นข้างละ 3 ใบ โดยใช้ Power BETA THREE A7 ซึ่งผมก็พอจะเดาออกได้ว่า power ขับไม่ไหวแน่นอน เขาก็ยังเถียง ว่า ตู้ ps15II ของเขายังดังดีอยู่เลย เสียไม่แตก แต่เสียงเบากว่าตู้ผม ซึ่งหลังจากเขาเอาตู้มาคืน ผมก็ทดลองขับด้วย K-tech PA500 ตู้ผมก็ดังปกติดีไม่มีปัญเสียงแตกแต่ประการใด
ผมก็เลยสงสัยว่า ในกรณี นี้ ลำโพง วัตต์น้อย กับวัตต์เยอะ เอามาพ่วงกัน ตัวไหนดังกว่า กว่ากัน
สเปค Power BETA THREE A7
Rated Power (Stereo 8Ω) 2 x 660W
Rated Power (Stereo 4Ω) 2 x 1000W
Rated Power (Bridge 16Ω) 1330W
Rated Power (Bridge 8Ω) 2000W
Rated Power (Parallel mono 8Ω) 700W
Rated Power (Parallel mono 4Ω) 1200W
Input Sensitivity 1V
S/N Ratio (A Weight) >108dB
Frequency Response (+0/-0.25dB) 20Hz-20kHz
Damping Factor >800 @ 8ohm/100Hz
THD (10% Rated Power)
-
แล้วตู้ของพี่กับของเขาอันไหนวัตต์มากกว่าครับ
-
หลงพ่อแุถวซุโข่ทัย ไปหาซื้อแอมป์ที่ร้านขาย ถามเด็กหน้าร้าน
ไอ้หนู่ๆมีเครื่องขย่ายที่เสี่ยงดังๆมั๊ย
เด็กหน้าร้าน มีครับ เอาอันนี้เลย 500 วัตต์ ดังแน่ครับ
หลงพ่อ โอ๊ย พ่อไม่เอาร๊อก เอาดังแค่ วัด2วัดก็พอแล้ว
เด็ก งั้นเอาอันนี้ก็ได้ครับ 30 วัตต์
หลงพ่อ เออๆงั้นก็ได้ เอาอันนี้แระ
กลับมาถึงวัด เณรๆ ต่อเสี่ยงเปิดเพลงฟังที๊ เห็นร้านมันบอกว่าดัง 30 วัดโน่น เด๋วพ่อจ๊ะไปฟังที่หน้าวัด
เณรจัดให้ เป็นไงหลงพ่อ
หลงพ่อ ไอ้เด็กชิ๊บห่าย มันโกห๊กแท้ๆเลย บอกว่าดัง 30 วัด กูมายืนฟังกงนี๊ยังไม่ได้ยินอะรัยเลย มันหลอกแม้กระทั่งพระกระทั่งเจ้า กรรมแท้ๆ
:strom: :strom: :strom:
-
แล้วตู้ของพี่กับของเขาอันไหนวัตต์มากกว่าครับ
ของเขา เป็น AJ PS15II เดิม ๆ ไร้การปรับแต่ง ครับ
ส่วนของผม ดอก 15" ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประมาณ 300watt
-
หลงพ่อแุถวซุโข่ทัย ไปหาซื้อแอมป์ที่ร้านขาย ถามเด็กหน้าร้าน
ไอ้หนู่ๆมีเครื่องขย่ายที่เสี่ยงดังๆมั๊ย
เด็กหน้าร้าน มีครับ เอาอันนี้เลย 500 วัตต์ ดังแน่ครับ
หลงพ่อ โอ๊ย พ่อไม่เอาร๊อก เอาดังแค่ วัด2วัดก็พอแล้ว
เด็ก งั้นเอาอันนี้ก็ได้ครับ 30 วัตต์
หลงพ่อ เออๆงั้นก็ได้ เอาอันนี้แระ
กลับมาถึงวัด เณรๆ ต่อเสี่ยงเปิดเพลงฟังที๊ เห็นร้านมันบอกว่าดัง 30 วัดโน่น เด๋วพ่อจ๊ะไปฟังที่หน้าวัด
เณรจัดให้ เป็นไงหลงพ่อ
หลงพ่อ ไอ้เด็กชิ๊บห่าย มันโกห๊กแท้ๆเลย บอกว่าดัง 30 วัด กูมายืนฟังกงนี๊ยังไม่ได้ยินอะรัยเลย มันหลอกแม้กระทั่งพระกระทั่งเจ้า กรรมแท้ๆ
:sadism: :sadism: :sadism: :sadism:
-
ปู่ก็เล่นซ่ะไปไม่เป็นเลย
ตอบพี่ต้นไผ่แบบงูๆปลา ที่ผมเข้าใจ
Watts เป็นค่าที่บอกว่าตู้นั้นรองรับกำลังขับจากพาวเวอร์แอมป์ได้เท่าไหร่
ไม่ได้หมายถึงว่า Watts เยอะจะต้องดังมากกว่า Watts น้อยเสมอไปนะครับ
dB เป็นค่าความดังของตู้หรือดอกลำโพง
เช่น SPL 96dB 1W / 1m
Max.SPL 101dB
:flower: :flower: :flower: :flower: :flower: :flower: :flower:
-
ดูค่า spl และ กำลังของดอกลำโพงว่ารองรับกำลังได้กี่วัตต์ครับ
ถ้า spl เท่ากันตัวที่วัตต์เยเะกส่าจะดังกส่า ทุกค่าความดังเพิ่มขึ้นทุก 3db ต้องวช้กำลังเพาเสอร์ดพิ่มอีกเท่าตัว ลองไล่คำนวณดูครับ
ดอกลำโพงที่มีค่าความไวมากกส่าจะได้เปรียบคือกำลังเพาเวอร์เท่ากันจะดังกส่าเร็วกส่าครับ
-
อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงนะครับ
ลำโพงแต่ละรุ่น เน็ทเวริค์แต่ละตัว จุดตัดความถี่ไม่เหมือนกัน ที่มิกซ์ก็อาจจะปรับไม่เหมือนกัน เสียงจึงไม่เหมือนกัน
;D ;D มั่วเข้าไปอีก เอิ๊กกกกๆๆๆๆ....
-
ปู่ก็เล่นซ่ะไปไม่เป็นเลย
ตอบพี่ต้นไผ่แบบงูๆปลา ที่ผมเข้าใจ
Watts เป็นค่าที่บอกว่าตู้นั้นรองรับกำลังขับจากพาวเวอร์แอมป์ได้เท่าไหร่
ไม่ได้หมายถึงว่า Watts เยอะจะต้องดังมากกว่า Watts น้อยเสมอไปนะครับ
dB เป็นค่าความดังของตู้หรือดอกลำโพง
เช่น SPL 96dB 1W / 1m
Max.SPL 101dB
:flower: :flower: :flower: :flower: :flower: :flower: :flower:
thk.มากไอ้น้อง
ดูค่า spl และ กำลังของดอกลำโพงว่ารองรับกำลังได้กี่วัตต์ครับ
ถ้า spl เท่ากันตัวที่วัตต์เยเะกส่าจะดังกส่า ทุกค่าความดังเพิ่มขึ้นทุก 3db ต้องวช้กำลังเพาเสอร์ดพิ่มอีกเท่าตัว ลองไล่คำนวณดูครับ
ดอกลำโพงที่มีค่าความไวมากกส่าจะได้เปรียบคือกำลังเพาเวอร์เท่ากันจะดังกส่าเร็วกส่าครับ
อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงนะครับ
ลำโพงแต่ละรุ่น เน็ทเวริค์แต่ละตัว จุดตัดความถี่ไม่เหมือนกัน ที่มิกซ์ก็อาจจะปรับไม่เหมือนกัน เสียงจึงไม่เหมือนกัน
;D ;D มั่วเข้าไปอีก เอิ๊กกกกๆๆๆๆ....
:thank1:
-
ตัวที่ SPL สูงกว่า จะดังกว่าครับ (กรณีที่ต่อขนานกันแบบนี้)
ถ้าดูกำลังวัตต์อย่างเดียว จะบอกไม่ได้
-
พอดีว่ามีคนรู้จักมายืมตู้กลางแหลมผม(15"ใช้ f1504 แหลม 750) ไปออกงาน แล้วมาบอกผมว่า ลำโพงของผมเสียงแตก ผมก็ถามว่าเขาต่ออย่างไง เขาก็บอกว่า เขาต่อ ตู้ aj ps15II จำนวน 2 ใบ ต่อข้าง แล้วก็พ่วงจาก ps15II ไปเข้าตู้ผม ซึ่งอยู่นอกห้อง รวมเป็นข้างละ 3 ใบ โดยใช้ Power BETA THREE A7 ซึ่งผมก็พอจะเดาออกได้ว่า power ขับไม่ไหวแน่นอน เขาก็ยังเถียง ว่า ตู้ ps15II ของเขายังดังดีอยู่เลย เสียไม่แตก แต่เสียงเบากว่าตู้ผม ซึ่งหลังจากเขาเอาตู้มาคืน ผมก็ทดลองขับด้วย K-tech PA500 ตู้ผมก็ดังปกติดีไม่มีปัญเสียงแตกแต่ประการใด
ผมก็เลยสงสัยว่า ในกรณี นี้ ลำโพง วัตต์น้อย กับวัตต์เยอะ เอามาพ่วงกัน ตัวไหนดังกว่า กว่ากัน
สเปค Power BETA THREE A7
Rated Power (Stereo 8Ω) 2 x 660W
Rated Power (Stereo 4Ω) 2 x 1000W
Rated Power (Bridge 16Ω) 1330W
Rated Power (Bridge 8Ω) 2000W
Rated Power (Parallel mono 8Ω) 700W
Rated Power (Parallel mono 4Ω) 1200W
Input Sensitivity 1V
S/N Ratio (A Weight) >108dB
Frequency Response (+0/-0.25dB) 20Hz-20kHz
Damping Factor >800 @ 8ohm/100Hz
THD (10% Rated Power)
ไม่น่าถามเลย ตู้ที่แกกับตู้ที่พี่ใช้ใช้ เสียงมันห่วยพอสมควร เอาไปเทียบกับตู้บริษัทได้ไง
งานนี้ดังดีไม่เกี่ยว เน้นที่เหนียวและทนเว้ย
-
ไม่น่าถามเลย ตู้ที่แกกับตู้ที่พี่ใช้ใช้ เสียงมันห่วยพอสมควร เอาไปเทียบกับตู้บริษัทได้ไง
งานนี้ดังดีไม่เกี่ยว เน้นที่เหนียวและทนเว้ย
5555+ เหนี่ยวไม่เหนี่ยว ก็รอดมาทุกงาน :flower: :flower: ขนาดเขาบอกว่าเปิดจนตู้ผมเสียงแตก แต่กลับบ้านมาตู้ผมไม่เป็นอะไรเลย ใช้งานได้ปกติ
-
วัตต์น้อยดังกว่านะครับ แต่เสียงจะแตกดังว่า ผมก็ไม่มีหลักการอะไร เมื่อก่อนเคยพ่วงต่อกันหลายๆใบอย่างว่า
ตัวที่วัตต์น้อยกว่าจะดังกว่าครับ แต่ดังแบบแตกๆ เพราะมัน พีคก่อน ตัวที่วัตต์สูงกว่าครับ
-
อัดหนัก ตัววัตต์น้อย จะกลับบ้านเก่าก่อน
-
ลอกเขามาฝากอ่านเพื่อพิจารณา เป็นแนวทางกว้างๆ แต่ก็น่าสนใจครับ
ความรู้ทั่วไป
สำหรับการพิจารณาเลือกซื้อลำโพง ต่างๆ นั้น นอกเหนือจากรูปร่าง หน้าตา หรือราคาแล้ว
เราคงต้องใส่ใจกับสเปคของลำโพงกันบ้างพอสมควร เพื่อให้เราได้ลำโพงที่ตรงกับความต้องการของเรา
ดังนั้นเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับสเปคต่างๆ ของลำโพงว่า มันมีความสำคัญอย่างไร แต่ละค่าหมายถึงอะไร
เราไปดูกันครับ
1. Sensitivity (ความไว)
เป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพของลำโพง โดยเป็นค่าความดัง เทียบกับวัตต์ และระยะห่างจากลำโพง
มีหน่วยเป็นเดซิเบลต่อมิลลิวัตต์ต่อเมตร (dB/mw/m)
หรือมักเขียนในรูปแบบ dB/mw(บางแหล่งระบุเป็น dB/2.83v/m @8ohms)
ตัวอย่างเช่น
- ลำโพงตัวแรกมีค่าความไวที่ 87dB/1w
- ลำโพงตัวที่สองมีค่าความไวที่ 90 dB/1w
เมื่อจ่ายพลังงานให้กับลำโพง 1 วัตต์เท่ากัน เสียงของลำโพง 90 dB/1w
ลำโพงตัวที่สอง จะดังกว่าตัวแรกถึง 2 เท่า (ดังกว่า เท่ากับ 3 dB) ณ ระยะห่างจากลำโพง 1 เมตรเท่ากัน
แต่อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการพิจารณาค่าความไวของแต่ละลำโพงแล้ว ควรพิจารณากำลังขับสูงสุดที่ลำโพงสามารถรับได้ด้วย เพราะลำโพงบางรุ่นความไวสูง แต่รองรับกำลังขับสูงสุดต่ำ จะเหมาะกับเครื่องเล่นที่มีกำลังขับต่ำ ไม่สามารถรองรับภาคขยายกำลังสูงได้ แต่ในขณะเดียวกัน ลำโพงที่มีค่าความไวต่ำ แต่รองรับกำลังขับสูงสุดสูง ก็จะสามารถรองรับเครื่องเล่นที่มีภาคขยายกำลังสูงได้ แต่จะไม่เหมาะกับเครื่องเล่นที่มีกำลังขับต่ำ มันจะไม่ดังได้ดั่งใจ
2. Input Impedance (ความต้านทาน)
ลำโพงจะมีความต้านทานแปรตามความถึ่ แต่ตามสเปคจะเรียกตาม "nominal impedance"
ซึ่งมีความต้านทานโดยทั่วไปที่ 4, 6, 8, 16 โอห์ม ยิ่งความต้านทานน้อย ยิ่งต้องใช้กระแสมากเพื่อให้ได้วัตต์สูงหรือเสียงที่ดังชัด ดังนั้นการใช้ลำโพงแบบ 4 โอห์ม จึงต้องใช้พาวเวอร์แอมป์ช่วย เพื่อเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น มากกว่าลำโพงแบบ 8 โอห์ม แต่ทั้งนี้ค่าความต้านทานไม่ได้สัมพันธ์กับเรื่องคุณภาพของเสียงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีการใช้ลำโพงแบบ 4 โอห์ม ควรระมัดระวังในการต่อเข้ากับชุดขยาย เนื่องจากหากต่อลำโพงแบบ 4โอห์มในรูปแบบขนานกันเข้ากับชุดขยายจะได้โหลดขนาด 2 โอห์ม ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับ "Short Circuit"
อาจส่งผลให้ชุดขยายของคุณพังได้
3. Power rating (กำลังขับ)
หน่วยของการวัดกำลังขับลำโพง แบ่งออกเป็นสองหน่วยคือ
หน่วยแรกคือ PMPO (Peak Mornentary Performance Output)
จะเป็นหน่วยที่วัดค่าสูงสุดที่ลำโพงสามารถรับได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งโดยทั่วไปค่าดังกล่าวนี้จะค่อนข้างสูง
ส่วนอีกหน่วยคือ RMS(Route Mean Square)
เป็นค่ากำลังขับของลำโพงโดยเฉลี่ย ซึ่งจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าและมีค่าค่อนข้างต่ำกว่า
สำหรับลำโพงที่มีกำลังขับสูง สามารถรองรับกำลังขับจากภาคขยายได้สูง จะมีราคาแพง และต้องการกำลังขับในระดับทั่วไปที่ค่อนข้างสูง จึงจะได้เสียงที่ดีตามประสิทธิภาพของลำโพง แต่สำหรับลำโพงกำลังขับต่ำ รองรับกำลังขยายได้ต่ำ เมื่อนำมาใช้งานกับภาคขยายที่สูงกว่ามาก อาจทำให้ลำโพงพังได้
แต่ทั้งนี้บางทีคุณอาจคิดว่าเครื่องขยายขนาด 200 วัตต์ต่อช่อง มีอันตรายกว่าเครื่องเล่นขนาด 50 วัตต์ต่อช่อง เมื่อต่อใช้งานกับลำโพงที่มีกำลังขับ 100 วัตต์ แต่ในความเป็นจริง เมื่อเปิดที่ระดับเสียงดังเท่าๆ กัน เครื่องเล่นขนาด 50 วัตต์อาจมีกำลังขับไม่เพียงพอต่อลำโพง ทำให้ไม่สามารถขับลำโพง 100 วัตต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจส่งผลเสียต่อลำโพงของคุณ หากใช้กำลังขับสูงสุด เพื่อพยามขับลำโพงให้เสียงดัง
4. Frequency Response(การตอบสนองความถี่)
ความถี่ของเสียงที่มนุษย์ทั่วไปสามารถได้ยินอยู่ในช่วง 20 - 20kHz โดยความถี่สูงหรือเสียงสูงจะมีลักษณะเสียงแหลม
ในขณะที่ความถี่ต่ำหรือเสียงต่ำจะมีลักษณะเสียงทุ้ม ลำโพงแบบ Full range ที่ใช้ลำโพงตัวเดียวขับเสียงทุกความถี่
ควรจะสามารถขับเสียงได้ตั้งแต่ 20 - 20 kHz เพื่อให้สามารถแสดงเสียงทุกความถี่ที่คุณสามารถได้ยิน
แต่โดยทั่วไปจะมีการแยกลำโพงสำหรับขับเสียงความถี่ต่างๆ
ได้แก่ ลำโพงเบส ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานสูง และดอกลำโพงที่ใหญ่ สำหรับขับเสียงความถี่ย่าน 20 - 200 Hz
และลำโพงเสียงกลาง/สูง (mid high) ที่ใช้ลำโพงดอกเล็กขับเสียงความถี่ย่าน 1,000 Hz นอกจากนี้ยังมีการใช้ tweeter ที่มีขนาดเล็กมาใช้สำหรับขับเสียงแหลมที่มีความถี่มากกว่า 5kHz
5. ขนาดและน้ำหนักของลำโพง
เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณไม่ได้ต้องการลำโพงแบบพกพาที่น้ำหนักเบา รูปร่างเล็กเป็นหลักแล้ว
โดยทั่วไป ลำโพงที่มีขนาดใหญ่และหนักจะดีกว่า โดยเฉพาะเกี่ยวกับลำโพงที่เน้นเบส หรือจำพวกซับนั้น
ลำโพงที่ใหญ่จะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า
สำหรับการเลือกซื้อลำโพง นอกเหนือจากการได้ลองฟังเสียงของลำโพงแล้ว
จึงควรทราบสเปคคร่าวๆ เกี่ยวกับลำโพงที่คุณต้อง
การเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินให้กับลำโพงบางรุ่นที่มีสเปคเกินความต้องการของคุณครับ
ที่มา http://www.pantown.com/group.php?display=content&id=68574&name=content1&area= (http://www.pantown.com/group.php?display=content&id=68574&name=content1&area=)
-
ของเขา เป็น AJ PS15II เดิม ๆ ไร้การปรับแต่ง ครับ
ส่วนของผม ดอก 15" ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประมาณ 300watt
1504 ผมก็ใช้อยู่ น่าจะเป็น 500w นะครับ
(http://www.srsound.co.th/2012/files/big_1364974069.jpg)
...
aj 15II จะอยู่ที่ 300w
ตู้ลำโพง Full Range 2 ทาง
ตัวตู้ทำจากไม้อย่างดี
ลำโพงเสียงต่ำ โครงหล่อ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว
ยูนิตเสียงแหลมแบบ Compression Driver ขนาดว๊อยซ์คอล์ย 34 มม.
ปากฮอร์นมีมุมกระจายเสียง 50x100 องศา
ตอบสนองความถี่ที่ 65 เฮิร์ตซ์ ถึง 20000 เฮิร์ตซ์
อัตราทนกำลัง 300 วัตต์ต่อเนื่อง / 600 วัตต์โปรแกรม
ค่าระดับแรงอัดของเสียง 108 ดีบี
ค่าความต้านทานมาตรฐาน 8 โอห์ม
Specifications :
Type : Powerful 2 Way Speaker
Rated Power : 300W RMS
Program Power : 600W RMS
Connections : 2 x NL4 Speakon
Sensitivity : 95 dB ( 1W/m )
Rated Max.SPL : 108 dB @ 1m
Dispersion ( HxV ) : 50 / 100
Frequency Response : 65 Hz - 20 KHz
Impedance : 8 Ohm
Gross Weight : 28.2 Kg
Net Weight : 25.6 Kg
Dimension ( WxDxH ) : 450 x 421 x 682 mm
แต่มี Network ในตู้อีก แต่ลำโพง 1504 มี Network ก่อนเข้าลำโพงหรือเปล่าครับ ;D
-
1504 ผมก็ใช้อยู่ น่าจะเป็น 500w นะครับ
(http://www.srsound.co.th/2012/files/big_1364974069.jpg)
...
aj 15II จะอยู่ที่ 300w
ตู้ลำโพง Full Range 2 ทาง
ตัวตู้ทำจากไม้อย่างดี
ลำโพงเสียงต่ำ โครงหล่อ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว
ยูนิตเสียงแหลมแบบ Compression Driver ขนาดว๊อยซ์คอล์ย 34 มม.
ปากฮอร์นมีมุมกระจายเสียง 50x100 องศา
ตอบสนองความถี่ที่ 65 เฮิร์ตซ์ ถึง 20000 เฮิร์ตซ์
อัตราทนกำลัง 300 วัตต์ต่อเนื่อง / 600 วัตต์โปรแกรม
ค่าระดับแรงอัดของเสียง 108 ดีบี
ค่าความต้านทานมาตรฐาน 8 โอห์ม
Specifications :
Type : Powerful 2 Way Speaker
Rated Power : 300W RMS
Program Power : 600W RMS
Connections : 2 x NL4 Speakon
Sensitivity : 95 dB ( 1W/m )
Rated Max.SPL : 108 dB @ 1m
Dispersion ( HxV ) : 50 / 100
Frequency Response : 65 Hz - 20 KHz
Impedance : 8 Ohm
Gross Weight : 28.2 Kg
Net Weight : 25.6 Kg
Dimension ( WxDxH ) : 450 x 421 x 682 mm
แต่มี Network ในตู้อีก แต่ลำโพง 1504 มี Network ก่อนเข้าลำโพงหรือเปล่าครับ ;D
ใช่เลย 1504 ตัวนี้ ไม่ผ่านเนทเวิคครับ ในตู้มีแค่เนทเวิคเเหลม อย่างเดียว
-
อย่าเชื่อผม เรื่องทฤษฎีผมไม่รู้ ผมรู้แต่เสียงดังแล้วตังค์มา เสียงไม่ดังตังค์ไม่จ่าย อิอิๆๆๆ :devil:
ถ้าเป็นผมจะแยก Power Amp คนละข้าง หรือคนละตัวกัน ปรับแยกได้อิสระ เอาแบบน้าไทฯ ลำโพงเหมือนกันถึงจะเอามาขนานหรืออนุกรมกันได้ ถ้าไม่เหมือนกันปรับไปเฮอะกว่าจะได้ ;D
-
สเปกแอมป์ มันโหลด 2.66 โอมห์ ไม่ได้นิครับ ...
เสียงแตก เพราะกำลังงานส่งออกไปมากโข ดีนะ ดอกไม่กลับบ้านเก่า...
P1504N 250RMS 500 Program
พระเอก 300RMS 600Program
1504N เสียงน่าจะแตกก่อน... ช่วง พีค
-
จากที่อ่านมาตั้งแต่ต้น เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากตู้ของท่าน จขกท ไม่ได้ใส่เนทเวิร์คแบบ 2 ทางไว้ ทำให้เสียงแหลมไปออกที่ดอกเสียงกลางด้วย ถ้าอัดแรง ๆ เสียงแหลมที่ไปออกที่ดอกเสียงกลาง น่าจะไม่สัมพันธ์ กับเสียงแหลมที่ออกจากยูนิตแหลมในตู้ ทำให้ฟังเหมือนว่าเสียงมันแตกครับ
ทางที่ดีน่าจะใช้เนทเวิร์คแบบสองทางใส่ในตู้ ปัญหาดังกล่าวน่าจะแก้ไขได้ครับ
:love2:
-
อ่านแล้ว แจ่ม :thank1:
-
จากที่อ่านมาตั้งแต่ต้น เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากตู้ของท่าน จขกท ไม่ได้ใส่เนทเวิร์คแบบ 2 ทางไว้ ทำให้เสียงแหลมไปออกที่ดอกเสียงกลางด้วย ถ้าอัดแรง ๆ เสียงแหลมที่ไปออกที่ดอกเสียงกลาง น่าจะไม่สัมพันธ์ กับเสียงแหลมที่ออกจากยูนิตแหลมในตู้ ทำให้ฟังเหมือนว่าเสียงมันแตกครับ
ทางที่ดีน่าจะใช้เนทเวิร์คแบบสองทางใส่ในตู้ ปัญหาดังกล่าวน่าจะแก้ไขได้ครับ
:love2:
:th2: :th2: :th2: :th2: :th2: :th2:
-
หลงพ่อแุถวซุโข่ทัย ไปหาซื้อแอมป์ที่ร้านขาย ถามเด็กหน้าร้าน
ไอ้หนู่ๆมีเครื่องขย่ายที่เสี่ยงดังๆมั๊ย
เด็กหน้าร้าน มีครับ เอาอันนี้เลย 500 วัตต์ ดังแน่ครับ
หลงพ่อ โอ๊ย พ่อไม่เอาร๊อก เอาดังแค่ วัด2วัดก็พอแล้ว
เด็ก งั้นเอาอันนี้ก็ได้ครับ 30 วัตต์
หลงพ่อ เออๆงั้นก็ได้ เอาอันนี้แระ
กลับมาถึงวัด เณรๆ ต่อเสี่ยงเปิดเพลงฟังที๊ เห็นร้านมันบอกว่าดัง 30 วัดโน่น เด๋วพ่อจ๊ะไปฟังที่หน้าวัด
เณรจัดให้ เป็นไงหลงพ่อ
หลงพ่อ ไอ้เด็กชิ๊บห่าย มันโกห๊กแท้ๆเลย บอกว่าดัง 30 วัด กูมายืนฟังกงนี๊ยังไม่ได้ยินอะรัยเลย มันหลอกแม้กระทั่งพระกระทั่งเจ้า กรรมแท้ๆ
:strom: :strom: :strom:
ชอบครับ :mad244:ก้อคนสุโขทัยเขาพูดเน่อๆ คีรีมาศ ทุ่งหลวง สามพวง บ้านสวน บ้าหลุม คลองตาล ฯ ผมบ้านกง(กงไกรลาศ) บ้านกงไก้ บ้านไกรเก้ย
-
:thank1: :th1: :kiss2: :love2:
-
ผมเจอกะตัวเอง ตู้ที่หนึ่ง ใส่ เน็ตเวิค กลางแหลม อีกตัวใส่ ที่แหลม อย่างเดียวรีบไม่ทันคิด เน่า ทั้งงาน แล้วไม่เข็ด กะว่าจะเอาเฉพาะพีเอส ไปไม่ต้องใช้ ซับปรับครื่งวัน หา LOW ไม่รู้ใครเอาไปไหน เพราะถูกบังคับ กลางแหลม แล้ว Low มันจะมามั๊ย เซ็งเลย เอา ๆ ๆ ๆๆ มาช่วยมั่ว