eXtreme Community

เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: นกมิวสิค ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 10:23:45 น.

หัวข้อ: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นกมิวสิค ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 10:23:45 น.
เนื่องจากว่าผมจะเปลี่ยนยูนิตเสียงแหลมใหม่ อยากจะเปลี่ยนเป็นของ P-D450 หรือ 750 ดี ผมไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวยูนิตสองตัวนี้สักเท่าไหร่จึงขอคำชี้แนะจากเพื่อนสมาชิกด้วย ถ้าเป็นไปได้ขอทราบราคาทั้งสองรุ่นด้วย  ขอบคุณมาก :thank1: :cheer:
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เหยี่ยวเวหา ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 11:56:52 น.
ฝากเพื่อนสมาชิกแนะนำท่านด้วยครับ(มืดตึ๋บ)ฮิ ฮิ!
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: จูเนียร์ ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 12:51:19 น.
อยู่ที่งบประมาณครับ P-450 50W ราคา 1,xxx.-         P-750 100W ราคา 2,xxx.-

ผมใช้ P-750 อยู่ คุ้มค่าในระยะยาวครับ อัดได้เต็มที่ เสียงไม่แตก แต่ต้องมี Network ดีๆ ด้วยนะครับ  ;)
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: พ.พล ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 13:04:27 น.
ไหนๆ ก็จะเปลี่ยนแล้วเอาให้จบเลยครับ D750
ส่วน Network ผมก็ใช้เจ้า TW-108 ของ NPE อยู่.. ก็ใช้ได้ดีนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นพ สุพรรณ ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 13:15:01 น.
ไหนๆ ก็จะเปลี่ยนแล้วเอาให้จบเลยครับ D750
ส่วน Network ผมก็ใช้เจ้า TW-108 ของ NPE อยู่.. ก็ใช้ได้ดีนะครับ

ดูงานด้วยครับ 450 เปิดเบาๆ ใส  กรุ้งกริ้งเพราะกว่า 750 เยอะ

750 มันแรงชัดจัดไป  ใหญ่จัง เหมาะกับกลางแจ้งเปิดดังๆ 

ถ้างานเราเป็นงานกลางแจ้งโหดๆ  เอา 750 ไปเลย  แต่ถ้าอินดอร์เป็นส่วนใหญ่  เปิดไม่แรงมาก 450 ก็เอาอยู่
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: พ.พล ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 13:21:44 น.
ดูงานด้วยครับ 450 เปิดเบาๆ ใส  กรุ้งกริ้งเพราะกว่า 750 เยอะ

750 มันแรงชัดจัดไป  ใหญ่จัง เหมาะกับกลางแจ้งเปิดดังๆ  

ถ้างานเราเป็นงานกลางแจ้งโหดๆ  เอา 750 ไปเลย  แต่ถ้าอินดอร์เป็นส่วนใหญ่  เปิดไม่แรงมาก 450 ก็เอาอยู่

อิอิ.. ผมใช้สาย Y. Mid-Hi ลดแหลมลงให้เพราะๆ ได้ครับพี่หมอ.. ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นพ สุพรรณ ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 13:42:42 น.
อิอิ.. ผมใช้สาย Y. Mid-Hi ลดแหลมลงให้เพราะๆ ได้ครับพี่หมอ.. ;D ;D ;D


โกงนี่หว่า    :hap3: :hap3: :hap3:
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นกมิวสิค ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2013, 13:53:57 น.
ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับที่ให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ :thank1: :D
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: รถแห่มิกซ์ออดิโอ ที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 11:48:59 น.
ถ้านำไปเล่นแบบ  3  ทาง   D750 น่่าจะเป้่นคำตอบนะครับ  ราคา  1650 บาท/ดอก ไม่รวมปากฮอร์น

ถ้านำไปเล่นแบบ  2 ทางหรือใส่ในตุ้ฟูลเร้นแบบ 1ดอกต่อ1 ดอก  450  น่าจะได้เปรียบ เพราะเสียงใส  หากดอกกลางที่ความดัง  มาบาล้าน  กับความดังของแหลมได้ไม่ยาก ..โดยไม่จำเป้นต้องผ่าน R ด้วยซ้ำ ... เสียงก็จะได้น้ำไ้ดเนื้อกว่ากันครับ...
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นพ สุพรรณ ที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 12:33:58 น.
ถ้านำไปเล่นแบบ  3  ทาง   D750 น่่าจะเป้่นคำตอบนะครับ  ราคา  1650 บาท/ดอก ไม่รวมปากฮอร์น

ถ้านำไปเล่นแบบ  2 ทางหรือใส่ในตุ้ฟูลเร้นแบบ 1ดอกต่อ1 ดอก  450  น่าจะได้เปรียบ เพราะเสียงใส  หากดอกกลางที่ความดัง  มาบาล้าน  กับความดังของแหลมได้ไม่ยาก ..โดยไม่จำเป้นต้องผ่าน R ด้วยซ้ำ ... เสียงก็จะได้น้ำไ้ดเนื้อกว่ากันครับ...


แม่นโลด  เป๊ะ    :th2: :th2:
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 12:36:56 น.
ฝึกอ่านสเปคจนเข้าใจจะช่วยได้ครับ  
รวมทั้งวัตถุประสงค์ของผู้ผลิตว่าเขาผลิตรุ่นนี้ให้ไปใช้งานลักษณะไหน

D 450  ทำสองทางกับ  12 นิ้ว และ  8 นิ้ว  โอเค
กับ  15  นิ้ว  เหนื่อยขึ้นอีกเยอะเลย  (เนื่องจากออกแบบมาให้ทำ 3 ทางครับ เมื่อใช้กับดอก  15  นิ้ว)


(http://image.ohozaa.com/i/6fa/4ZKzAc.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTpPZHOogfjePqYn)


(http://image.ohozaa.com/i/825/V4B0w1.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTpOQO3Zy4usaTut)
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: maxx2009 ที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 15:42:32 น.
750  เลยครับ



ผมรากหญ้า com-50  ;D :o^:
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 16:02:08 น.

โดยทั่วไปดอกลำโพงเสียงย่านต่ำขนาด  15  นิ้ว  ความไวจะอยู่ที่  97 dB
ถ้าทำ 2 ทาง

D 450  ความไว   =   110 dB   ต่างกัน   13  dB  
จึงต้องมีวงจรเล็กๆ ที่เรียกว่า  L-PAD  มาลดทอนเสียงแหลมลงให้เท่ากับเสียงทุ้ม
ให้อินเทอร์เน็ทคำนวนได้ดังนี้ครับ

(http://image.ohozaa.com/i/205/z75Oo6.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTqSd33QXGsMR4O6)
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นกมิวสิค ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 10:07:58 น.
ขอบคุณทุกท่านที่ให้แนวทางในการตัดสินใจกำลังตัดสินใจอยู่ :thank1: :thank1: :cheer:
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ขลุ่ย ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 10:34:54 น.
ขอบคุณทุกท่านที่ให้แนวทางในการตัดสินใจกำลังตัดสินใจอยู่ :thank1: :thank1: :cheer:
เอาเหอะ D750 มันช่วยได้เยอะ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: รถแห่มิกซ์ออดิโอ ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 11:47:37 น.
โดยทั่วไปดอกลำโพงเสียงย่านต่ำขนาด  15  นิ้ว  ความไวจะอยู่ที่  97 dB
ถ้าทำ 2 ทาง

D 450  ความไว   =   110 dB   ต่างกัน   13  dB  
จึงต้องมีวงจรเล็กๆ ที่เรียกว่า  L-PAD  มาลดทอนเสียงแหลมลงให้เท่ากับเสียงทุ้ม
ให้อินเทอร์เน็ทคำนวนได้ดังนี้ครับ

(http://image.ohozaa.com/i/205/z75Oo6.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTqSd33QXGsMR4O6)

การคำนวณการลดทอน dB หลังจากคำนวณเสร็จ  ต้องประกอบเข้าตู้จริง แล้ววัดด้วย mic rta อีกรอบ ... เพราะ ปริมาตรและรูปทรงของตู้  จะมีผลเกี่ยวเนื่องกับ dB ของดอกกลางครับ..
ส่วน ปากฮอร์นจะมีผมต่อ dB ของเสียงแหลม....
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 12:51:13 น.
การคำนวณการลดทอน dB หลังจากคำนวณเสร็จ  ต้องประกอบเข้าตู้จริง แล้ววัดด้วย mic rta อีกรอบ ... เพราะ ปริมาตรและรูปทรงของตู้  จะมีผลเกี่ยวเนื่องกับ dB ของดอกกลางครับ..
ส่วน ปากฮอร์นจะมีผมต่อ dB ของเสียงแหลม....


ถูกต้องครับ

การออกแบบลำโพงเค้าจึงร่ายยาวแต่ต้นเลย  ว่าจะออกแบบไปใช้งานในลักษณะไหน
เมื่อได้คอนเซ็พท์ถึงมาเลือกดอกลำโพง  เลือกตู้  เลือกจุดตัด 
ประกอบเสร็จก็ต้องมาเสียเวลากับการจูนอีกเพื่อให้เข้ากับความต้องการที่จะใช้งานครับ 
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AJ-AUDIO ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 14:34:22 น.
การคำนวณการลดทอน dB หลังจากคำนวณเสร็จ  ต้องประกอบเข้าตู้จริง แล้ววัดด้วย mic rta อีกรอบ ... เพราะ ปริมาตรและรูปทรงของตู้  จะมีผลเกี่ยวเนื่องกับ dB ของดอกกลางครับ..
ส่วน ปากฮอร์นจะมีผมต่อ dB ของเสียงแหลม....


ถูกต้องครับ

การออกแบบลำโพงเค้าจึงร่ายยาวแต่ต้นเลย  ว่าจะออกแบบไปใช้งานในลักษณะไหน
เมื่อได้คอนเซ็พท์ถึงมาเลือกดอกลำโพง  เลือกตู้  เลือกจุดตัด 
ประกอบเสร็จก็ต้องมาเสียเวลากับการจูนอีกเพื่อให้เข้ากับความต้องการที่จะใช้งานครับ 

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เนทเวิร์คที่ทำมาขายแบบสำเร็จรูป ไม่สามารถตอบสนองต่อตู้ที่ทำกันขึ้นมาเองได้อย่างเต็มความสามารถ  เพราะแต่ละท่านใช้ดอกไม่เหมือนกัน ทรงตู้ และ ปากฮอร์น ก็แตกต่างกันตามกำลังปัจจัยของแต่ละท่าน

 :love2: :love2: :love2:
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 20:14:56 น.
แถมให้นะครับสำหรับผู้ที่อยากทำพาสสีพใช้เอง
เฉพาะ  BM D450  เท่านั้น

โดยทั่วไปเมื่อมีคลื่นความถี่ส่งผ่านจากพาสสีพไปยังดอกลำโพง
มันจะมีผลทำให้อิมพีแด๊นซ์ของลำโพงเปลี่ยนไปตามความถี่  ซึ่งผมเองจำไม่ได้ว่า
แต่ละย่านความถี่นั้นๆ  มันทำให้เปลี่ยนไปแบบสูงขึ้นหรื่อต่ำลง (สูงขึ้นแล้วค่อยต่ำ หรือต่ำลงแล้วค่อยสูง)
เมื่อค่าอิมพีแด๊นซ์เปลี่ยน แน่นอนมันทำให้จุดตัดความถี่พาสสีพก็จะเปลี่ยนตาม

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวงจรเล็กๆ (Small Circuit)  มาต่อคร่อมขนานก่อนเข้าลำโพง
ถ้าเป็นเสียงสูงเราเรียก  Notch Filter

ผมเสียเวลาค้นหาสเปคอยู่ทั้งวัน  เพราะมันต้องใช้ค่าพารามิเตอร์ตัว  Fs  ซึ่งพีออดิโอไทยแลนด์ไม่มีให้
ไปได้จากเว็บฝรั่งแห่งหนึ่งครับตอนค่ำนี้เอง

วงจรนี้จะทำให้ค่าความต้านทานหรืออิมพีแด๊นซ์ของลำโพงคงที่หรือเสถียรครับ


(http://image.ohozaa.com/i/976/BfcKKC.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTAcYTcAFqDA4Hqc)


จะสังเกตุ  Re   =    Rc   (ค่าความต้านทานของขดลวดว๊อยซ์คอยล์ วัดเป็น DC)
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AJ-AUDIO ที่ วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 23:18:58 น.
แถมให้นะครับสำหรับผู้ที่อยากทำพาสสีพใช้เอง
เฉพาะ  BM D450  เท่านั้น

โดยทั่วไปเมื่อมีคลื่นความถี่ส่งผ่านจากพาสสีพไปยังดอกลำโพง
มันจะมีผลทำให้อิมพีแด๊นซ์ของลำโพงเปลี่ยนไปตามความถี่  ซึ่งผมเองจำไม่ได้ว่า
แต่ละย่านความถี่นั้นๆ  มันทำให้เปลี่ยนไปแบบสูงขึ้นหรื่อต่ำลง (สูงขึ้นแล้วค่อยต่ำ หรือต่ำลงแล้วค่อยสูง)
เมื่อค่าอิมพีแด๊นซ์เปลี่ยน แน่นอนมันทำให้จุดตัดความถี่พาสสีพก็จะเปลี่ยนตาม

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวงจรเล็กๆ (Small Circuit)  มาต่อคร่อมขนานก่อนเข้าลำโพง
ถ้าเป็นเสียงสูงเราเรียก  Notch Filter

ผมเสียเวลาค้นหาสเปคอยู่ทั้งวัน  เพราะมันต้องใช้ค่าพารามิเตอร์ตัว  Fs  ซึ่งพีออดิโอไทยแลนด์ไม่มีให้
ไปได้จากเว็บฝรั่งแห่งหนึ่งครับตอนค่ำนี้เอง

วงจรนี้จะทำให้ค่าความต้านทานหรืออิมพีแด๊นซ์ของลำโพงคงที่หรือเสถียรครับ


(http://image.ohozaa.com/i/976/BfcKKC.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTAcYTcAFqDA4Hqc)


จะสังเกตุ  Re   =    Rc   (ค่าความต้านทานของขดลวดว๊อยซ์คอยล์ วัดเป็น DC)



(http://upic.me/i/zz/notchfilter.jpg) (http://upic.me/show/45403202)

Notch Filter หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า (Band Reject Filter: BRF) เป็นวงจรกรองความถี่ที่ทำหน้าที่ลดทอนสัญญาณความถี่ในช่วงแคบ ๆ ไม่ให้ผ่าน ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ให้นึกถึง GEQ  ซึ่งแต่ละก้านของ GEQ ที่กดลง ก็คือ Notch Filter ของความถี่ก้านนั้น ๆ นั่นเอง

จากข้อความของท่านมะละกอ ผมเห็นต่างนิดนึงครับ ทั้งนี้เพราะความถี่ที่ท่านมะละกอใช้ในการทำ Notch Filter คือ ค่า Fs ของยูนิตเสียงแหลม (ความถี่ 683.3Hz)  ซึ่งเป็นค่าความถี่ ที่ค่าอิมพิแดนซ์ของยูนิตเสียงแหลม ยกตัวสูงขึ้นมากกว่า ค่าอิมพิแดนซ์ 8 โอห์มก็จริง  แต่ต้องอย่าลืมว่าความถี่ 683.3Hz นั้น ไม่สามารถผ่านเนทเวิร์คเสียงแหลม (HPF)  ซึ่งส่วนใหญ่จะออกแบบไว้ไม่ต่ำกว่า 1.5kHz อยู่แล้วครับ  

ดังนั้นการเพิ่มวงจร Notch Filter ตรงความถี่ที่ว่ามา ผมจึงเห็นว่าไม่น่าจะเกิดประโยชน์แต่อย่างใด เพราะยังไงยูนิตเสียงแหลมก็ไม่ได้ทำงานที่ความถี่นั้น (เพราะไม่สามารถผ่านเนทเวิร์คเสียงแหลมมาได้)  ซึ่งเป็นความถี่ที่จะมีผลให้ค่าอิมพีแดนซ์ของยูนิตเสียงแหลมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปครับ

หากว่าผมเข้าใจผิดพลาดประการต้องขออภัยด้วยครับ

 :love2:


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 15 มิถุนายน 2013, 12:33:54 น.


(http://upic.me/i/zz/notchfilter.jpg) (http://upic.me/show/45403202)

Notch Filter หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า (Band Reject Filter: BRF) เป็นวงจรกรองความถี่ที่ทำหน้าที่ลดทอนสัญญาณความถี่ในช่วงแคบ ๆ ไม่ให้ผ่าน ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ให้นึกถึง GEQ  ซึ่งแต่ละก้านของ GEQ ที่กดลง ก็คือ Notch Filter ของความถี่ก้านนั้น ๆ นั่นเอง

จากข้อความของท่านมะละกอ ผมเห็นต่างนิดนึงครับ ทั้งนี้เพราะความถี่ที่ท่านมะละกอใช้ในการทำ Notch Filter คือ ค่า Fs ของยูนิตเสียงแหลม (ความถี่ 683.3Hz)  ซึ่งเป็นค่าความถี่ ที่ค่าอิมพิแดนซ์ของยูนิตเสียงแหลม ยกตัวสูงขึ้นมากกว่า ค่าอิมพิแดนซ์ 8 โอห์มก็จริง  แต่ต้องอย่าลืมว่าความถี่ 683.3Hz นั้น ไม่สามารถผ่านเนทเวิร์คเสียงแหลม (HPF)  ซึ่งส่วนใหญ่จะออกแบบไว้ไม่ต่ำกว่า 1.5kHz อยู่แล้วครับ  

ดังนั้นการเพิ่มวงจร Notch Filter ตรงความถี่ที่ว่ามา ผมจึงเห็นว่าไม่น่าจะเกิดประโยชน์แต่อย่างใด เพราะยังไงยูนิตเสียงแหลมก็ไม่ได้ทำงานที่ความถี่นั้น (เพราะไม่สามารถผ่านเนทเวิร์คเสียงแหลมมาได้)  ซึ่งเป็นความถี่ที่จะมีผลให้ค่าอิมพีแดนซ์ของยูนิตเสียงแหลมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปครับ

หากว่าผมเข้าใจผิดพลาดประการต้องขออภัยด้วยครับ

 :love2:





ขอบพระคุณครับ  ผมประเภทอ่านแล้วจำมานะครับ  สงสัยแปลผิด  ภาษาผมอ่อนแออย่างยิ่ง

ลองดูนะครับ  ผมเองอ่่านหลายแห่งเยอะมากเกี่ยวกับการออกแบบพาสสีพครอส
เท่าที่เข้าใจคือ  วงจรเล็กๆ นี้    
เอามาใช้งานเพื่อทำหน้าที่ทำให้อิมพีแดนซ์ของลำโพงคงที่ไม่ขึ้นลงตามความถี่เสียงที่ปล่อยเข้ามา
ส่วนกระบวนการทำงานมันจะกรองหรือกั้นหรือปล่อยความถี่เป็นช่วงอย่างไร
อันนี้ผมไม่ลงลึก

สำหรับการออกแบบพาสสีพ  วงจรเล็กๆ ที่ว่านี้  เมื่อใช้กับดอกเสียงทุ้มเราเรียกว่า  Zobel
ส่วนเสียงกลางและแหลมเรียก  Notch Filter


http://sound.westhost.com/lr-passive.htm


คือผมก๊อปฝรั่งลูกเดียว  ลึกๆ กว่านั้นทำความเข้าใจไม่ไหว แฮะ แฮะ
ซึ่งอาจจะผิดก็ได้ครับ  เนื่องจากการออกแบบลำโพงมันมีแฟคเตอร์เยอะจริงๆ
แต่ละยุคสมัยก็นิยมออกแบบไม่เหมือนกันเสียด้วย
ดังเช่นปัจจุบันหลายผู้ผลิตหันมาทำพาสสีพออร์เดอร์ที่ 3 ให้เสียงทุ้ม
ส่วนกลางแหลมเอาแค่ออร์เดอร์ที่ 1  กลับกันอย่างสิ้นเชิงกับความเชื่อเดิมชนิดหน้ามือหลังมือเลยครับ

ผมเองลองดู  ก็รู้สึกเข้าท่าดีไม่น้อย  เดี๋ยวนี้เลยรื้อพาสสีพเก่าทิ้งหมด
ทำง่ายๆ  ฟังสบายหูพิลึก

ความรู้หลายๆ ความรู้  เมื่อนำมาแอ๊พพลายใช้งานถึงจะเกิดเป็น  "องค์ความรู้"  นะครับ
ผมชอบหาความรู้จากการอ่าน  การฟัง  และการลงมือทำด้วย
ซึ่งต้องการทำงานเป็นทีมหลายคน  ถึงจะไปได้รวดเร็ว  คนเดียวสู้ชาติอื่นเขาไม่ได้หรอกครับ
ไทยเราจึงต้องช่วยกัน  จะได้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมต่อคนทั้งปวงครับ


หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 15 มิถุนายน 2013, 13:04:38 น.
ขออนุญาตต่ออีกหน่อย

ยกตัวอย่างหน้านี้นะครับ  ผมอ่านมาเกือบร้อยเที่ยว ในเวลา 4-5 ปีที่ผ่าน
ทุกวันนี้ยังเป็นงงเท่าเดิม  เลยเลิกอ่านเพื่อทำความเข้าใจ
ก๊อปฝรั่งง่ายดี


(http://image.ohozaa.com/i/ca9/OTfIJg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTFS53P3a4wb2Tw4)


ที่มา

http://ampslab.com/vifa62_9.htm


โปรเจ็กตัวนี้ความรู้ดีทีเดียวครับ  ผู้ที่สนใจควรอ่านอย่างยิ่ง


http://ampslab.com/vifa62.htm
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AJ-AUDIO ที่ วันที่ 15 มิถุนายน 2013, 14:07:14 น.
ขออนุญาตต่ออีกหน่อย

ยกตัวอย่างหน้านี้นะครับ  ผมอ่านมาเกือบร้อยเที่ยว ในเวลา 4-5 ปีที่ผ่าน
ทุกวันนี้ยังเป็นงงเท่าเดิม  เลยเลิกอ่านเพื่อทำความเข้าใจ
ก๊อปฝรั่งง่ายดี


(http://image.ohozaa.com/i/ca9/OTfIJg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wTFS53P3a4wb2Tw4)


ที่มา

http://ampslab.com/vifa62_9.htm


โปรเจ็กตัวนี้ความรู้ดีทีเดียวครับ  ผู้ที่สนใจควรอ่านอย่างยิ่ง


http://ampslab.com/vifa62.htm

ขอบคุณครับท่านมะละกอที่นำบทความดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องฟิลเตอร์มาให้อ่านหาความรู้กัน

จากบทความตัวหลังสุด การทำ Notch Filter ในวงจรทำที่ความถี่ 4kHz เพื่อลดทอนความแรงสัญญาณที่ความถี่ดังกล่าว (ดูจากกราฟความถี่ตัวบนที่เป็นเส้นสีอ่อน  ที่เค้าลงเปรียบเทียบให้ดู)  ซึ่งที่ความถี่ 4kHz มีปัญหาอยู่ให้ลดลงมา    และมีการถอดเอาวงจรปรับค่าอิมพีแดนซ์ (conjugate filter for impedance compensation) ที่เคยใส่ไว้ก่อนหน้านี้ออกซึ่งตรงนี้ในรูปไม่ได้แสดงไว้   โดยแทนที่ด้วยวงจร shelving filter ตั้งแต่ความถี่ 10kHz ขึ้นไป  เพื่อทำการบาลานซ์ระดับสัญญาณให้อยู่ในระนาบเดียวกัน



ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อย  วงจรพาสซีพฟิสเตอร์ต่าง ๆ ถูกคิดค้นและออกแบบกันมาเนิ่นนาน มีความพยายามที่จะออกแบบวงจร Filter แบบอื่น ๆ เพิ่มเติมใส่เข้าไปในตู้ลำโพง  นอกเหนือจากวงจร  LPF และ HPF  ที่ทำหน้าที่เพียงแค่การแบ่งความถี่ของสัญญาณเสียงออกเป็นย่านต่าง ๆ ให้กับดอกลำโพงแต่งละตัว   ทั้งนี้เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ในการตอบสนองความถี่ของดอกลำโพงไปด้วยในเวลาเดียวกัน   ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในวงการเครื่องเสียงบ้าน  ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเครื่องเสียงบ้านมักจะไม่ใช้อุปกรณ์ในการปรับแต่งสัญญาณแยกต่างหาก และที่สำคัญคือ กำลังขับที่ใช้ในการขับดอกลำโพงนั้นค่อนข้างต่ำ  จึงไม่ค่อยมีปัญหาในการทำวงจรพาสซีฟฟิลเตอร์ต่าง ๆ  เพื่อใช้ปรับค่าการตอบสนองความถี่ให้กับตู้ลำโพงไปด้วยอย่างที่เห็น

แต่หากถ้าเราเอาวิธีการนั้นมาใช้กับเครื่องเสียงกลางแจ้ง  ซึ่งใช้กำลังขับสูงกว่าเครื่องเสียงบ้านหลายเท่า  ฟิลเตอร์แบบพาสซีฟจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมอีกต่อไป  เพราะการทำฟิลเตอร์ที่ปลายทางของสัญญาณที่ได้รับการขยายจากภาคขยายมาแล้วนั้น ต้องใช้อุปกรณ์ที่ต้องมีความสามารถในการทนกระแส และแรงดันสูง  ตัวฟิลเตอร์จะรับบทหนัก เกิดความร้อนสูง และเกิดความเพี้ยนสูงตามไปด้วย  สู้การทำฟิลเตอร์จากต้นทางของสัญญาณก่อนเข้าภาคขยายไม่ได้  นั่นจึงเป็นที่มาของอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ต่าง ๆ ที่เครื่องเสียงบ้านไม่เคยใช้  ไม่ว่าจะอนาล็อก หรือ ดิจิตอล อย่างที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้

 :love2:

หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ยูนิตเสีบงแหลมด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะละกอ ที่ วันที่ 15 มิถุนายน 2013, 18:26:54 น.

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ล้าน %  ครับ   สำหรับเรื่องการจัดระบบลำโพงในงานกลางแจ้ง
ที่ต้องการความแม่นยำและการที่ต้องพึ่งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วย
และอนาคตคงก้าวข้ามในเรื่องของดิจิตอลไม่ได้แน่  ผู้ที่เล่นก่อนจะได้เปรียบและไปเร็วกว่า
แหม เข้าล็อกตามคอนเซ็พท์  4 S  ผมเลยนะเนี๊ยะ
Small but Beautiful   ,  Style  ,  Strong  ,  Speed

ผมมักเป็นภูมิแพ้เรื่องลำโพงครับ  เจอคุยกันเรื่องลำโพงทีไร  อดแจมด้วยมิได้
ซึ่งก็บ่อยครั้งที่มักจะข้ามเส้นโฮมยูสเนื่องมาจากความที่ชินกับเรื่องของการใช้ภายในบ้านครับ
ระบบของงานพีเอมันลงลึกและต้องการประสบการณ์สูงซึ่งผมขาด