eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: chchairin ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2011, 11:55:16 น.
-
...ท่านที่ไม่เคยทำร้าน ไม่เคยเจอประสบการณ์การโดนจับลิขสิทธิ์แบบจะจะตรงๆก็ว่าก็คิดกันไป ตามที่เขียนบอกกล่าว แนะนำวิธีการต่อสู้ แก้ไขเมื่อมีการมาจับลิขสิทธิ์กันมาในเวปต่างๆมันก้ OK' ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมด
....ถ้าเราไปดูแล้วจะรู้ว่าพวกนี้มันหากินกันทางตัวบทกฎหมาย...มันทำเป็นกระบวนการ ถ้าค่ายใหญ่ๆอย่างแกรมมี่ อาร์เอส.จะมีตัวแทนที่ไปซื้อสิทธิ์ในการตามจับลิขสิทธิในท้องที่จังหวัดต่างๆ โดยตกลงกันเหมาเป็นรายเดือน รายปี ซึ่งพวกนี้มักจะเป็นทนายความ เมื่อเสียเงินซื้อสิทธิการตามจับมาแล้วสมมุติเดือนละ 1ล้าน มันก็จะตั้งหน้า ตั้งตาตามจับให้คุ้มกับเงินที่ซื้อสิทธิ์ตามจับไป ไม่ว่าจะเอาแผ่นเพลงที่ซื้อหรือก็อปมา หรือใช้คอมฯ เปิดเพลงฟังในร้านที่ทำเป็นธุรกิจบริการทุกประเภท หรือร้านคาราโอเกะต่างๆ..มันรู้กฎหมายทุกอย่าง ร้านไหนใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องมันก็เจรจา กล่อม ปลอบ ขู่ให้ตกลงจ่ายกันตรงนั้น ร้านไหนแข็งข้อ หัวหมอมันจะกลับไป และมันจะกลับมาอีกทีพร้อมกับกระบวนการที่ถูกฎหมายทุกอย่าง มีการไปแจ้งความลงบันทึก อาจจะมีการล่อซื้อและมาจับเรา ไปโรงพัก พบร้อยเวร เจรจาตกลงกันอีกรอบ ไม่ตกลงก็ถึงศาล...ถ้าเราไม่ยินยอมตกลงกับมัน มันก็จะส่งเรื่องถึงศาล.ฟ้องเรียกค่าเสียหานสูงสุดรู้สึกจะเป็น 2แสนบาท ถ้าโชคดีศาลตัดสินให้เราชนะก็ OK' ...ถ้าเราแพ้ล่ะ...แล้วหลังจากนั้นที่จะตามามันคือการทำมาค้าขายไม่ปรกติ พวกนี้จะจ้องเล่นงานตลอดด้วยความแค้น มันจะต้องแก้ไขไม่ยอมให้ร้านอื่นเอาเราเป็นต้นแบบทำตาม ร้านเราจะอยู่ไม่สุข ลูกค้าจะตื่นกลัวหนีไปที่อื่นหมด..ถามว่าจะค้าขายอย่างไร รอเจ๊งลูกเดียว
..ตอนผมทำร้านที่นิคมอุตสาหกรรมลำพุน ผมต้องยอมซื้อ 2 ค่ายนี้ เพราะเขาใหญ่จริง โดนจับกันหมดเกลี้ยงทั้งร้านขายเหล้าตอง ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะตู้ หรือคอมฯ..ส่วนค่ายเล็กๆอื่นจะมีนายหน้ามาขอเก็บส่วยรายเดือนตอนแรกเรียก 500 บาท/เดือนผมเจรจาเหลือ 300 บาท/เดือน .ผมให้ไป 2-3 เดือนแล้วผมเบี้ยว..มันทำไงรู้ไหมมันแจ้งตัวแทนบริษัทจากกรุงเทพมาจับผมที่ลำพูน..มันวางแผนทำตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง แจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน ที่โรงพักไว้ก่อน แล้วมาจับผมแต่ไม่กล้ายึดของผม เพราะไม่มีหมายศาล ร้อยเวรเรียกผมไปโรงพักเลย..ผมต้องปิดร้าน ไปเจรจากับมันต่อหน้าร้อยเวร มันบอกว่าถ้าขึ้นศาลจะเรียกค่าเสียหายสูงสุด 2 แสนบาทแต่ถ้าตกลงเจรจาจะเอาราคาขั้นต่ำที่บริษักำหนดไว้ว่า 3 หมื่นแล้วถอนแจ้งความ ผมไม่ยอม พอดีผมมีเพื่อนเป็น สส. ก็ให้มันโทรมาเคลียร์..ที่สุดมันก็ยอมรับเงิน 5000 บาทเข้ากระเป๋ามัน ไม่ต้องส่งบริษัทตามที่ผมเสนอ แต่ติดที่ร้อยเวรเขียนลงบันทึกประจำวัน และราคาในสำนวนแจ้งความไปแล้ว 30000 บาทเรื่องต้องถึงศาล และถึงบริษัทแน่นอน เพื่อนผมก็ช่วยเจรจาจนร้อยเวรยอมทำสำนวนให้ใหม่หมดว่ามันมาตรวจแล้วไปพบการทำผิด เพราะร้านปิดไปแล้ว.แล้วมันก็เอาเงิน 5000 บาทเข้ากระเป๋ามันไป..หลังจากนั้นผมกับมันก็กลายเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกัน ไม่มาจับผมอีกเลย
....บอกเลยครับที่มันมาซุ่มจับและขอเจรจาหน้าร้านตกลงจ่ายกัน โดยจ้างตำรวจตัวเล็กๆมาด้วย มันเป็นตัวแทนบริษัทจริง แต่มันโกงบริษัทลิขสิทธิ์ เรียกเก็บเข้ากระเป๋า ไม่ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ส่งบริษัท หรือดำเนินคดี..แบบนี้เราจะไม่ยอม ขัดขืนมันได้ หรือไปแจ้งความจับมันได้..แต่มันจะมาตามราวี แก้แค้น เอาคืนภายหลังแบบที่ผมบอกมาข้างบน และเราจะแก้ลำได้โดยจดชื่อ นามสกุล เบอร์โทรฯของมันแล้วแจ้งบริษัทให้มาจัดการกับมันได้
...ท่านที่ยังไม่เคยโดนจับก็อย่าพึ่งไปคิดว่าที่เขาเขียนมามันใช้ได้ดีทุกอย่างเราจะชนะเสมอ... จงพึงสังวร.อย่าลืมว่าจริงๆแล้วเราทำผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธ์เขา..และปัจจุบันกฎหมายลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเรามันเป็นการหากินกันเป็นกระบวนการ เหมา ซื้อขายสิทธิ์ตามจับกันไปแล้ว มันจึงเอาจริง ตามจับเอาเป็นเอาตาย..นี่แหละเป็นผลพวงจากที่ประเทศไทยโดนสหรัฐบีบบังคับมา
-
ถูกใจขนาด :th2:
-
ครับ ;D
-
ทางทฤษฎีกับทางปฏิบัติมันสวนทางกันเน๊อะครับ
ถ้าเราหัวหมอก็ต้องแลกกับการเสียเวลาทำมาหากินต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
ถ้าเราจ่ายก็ต้องเสียเบี้ยบ้ายรายทางเยอะให้พวกจ้องจะเอา เฮ้อ! น่าเห็นใจจริงๆ ครับ
-
:happy: :D ประสพการณ์ตรง..
-
เท่าที่เพื่อนๆเคยโดนมา ถ้าครั้งแรก ให้ฟ้องไปเลยปรับอย่างมากก็5000 พวกนี้จะเจรจาเอาเงินค่าเคลียร์อย่างเดียวมันไม่ยอมเสียเวลา พวกนี้่วิ่งไปรอบทำเงิน
ทำให้พวกนี้เสียเวลาให้มากที่สุดมัันก็จะไม่ยุ่งกับเราเอง พวกนี้มักอ้างขึ้นศาลาแล้วปรับเป็นแสนจริงๆศาลก็รู้พวกนี้มันทำอะไร เค้าก็ไม่ปรับเยอะอะไรหรอกครับ
-
ต่ออีกนิดครับ ถ้าเรายอมมันง่าย มัีนก็จะคิดถึงเรา โดยการมาหาเราบ่อย อย่ายอมง่ายๆครับ
ลองดูหมายศาลาหมายค้นให้ดี บางที่พวกนี้มันไม่มีจริงหรือหมดอายุ รู้กันกับตำรวจท้องที่บางคน
ลองดูเว็ปนี้ครับ http://ict.in.th/ พวกนี้เค้าโดนจนชิน รู้ทางกันหมดแล้ว
-
ต่ออีกนิดครับ ถ้าเรายอมมันง่าย มัีนก็จะคิดถึงเรา โดยการมาหาเราบ่อย อย่ายอมง่ายๆครับ
ลองดูหมายศาลาหมายค้นให้ดี บางที่พวกนี้มันไม่มีจริงหรือหมดอายุ รู้กันกับตำรวจท้องที่บางคน
ลองดูเว็ปนี้ครับ http://ict.in.th/ พวกนี้เค้าโดนจนชิน รู้ทางกันหมดแล้ว
...สู้ถึงที่สุด โดยยอมขึ้นศาลตามที่ว่ามามันก็ได้ ถ้าเป็นครั้งแรกศาลอาจจะเห็นใจศาลอาจจะตัดสินให้เสียค่าเสียหายแก่ตัวแทนลิขสิทธิ์ตามสมควร ตามเหมาะสม..แต่นั่นหมายถึงท่านจะมีประวัติเป็นผู้มีความผิดคดีละเมิดลิขสิทธิ์จริง โดนศาลลงโทษปรับมาแล้ว..หลังจากนั้นถ้าท่านยังทำร้านอยู่แล้วยอมซื้อลิขสิทธิ์ถูกกฎหมายก็จบ....แต่ถ้าท่านยังไม่ยอมซื้อยังละเมิดลิขสิทธิ์อีก มันก็จะมาราวีท่านไม่เลิก กลับมาจับท่านอีก ทีนี้กระบวนการที่มันจะทำในทางกฎหมาย ทางคดีมันจะรัดกุม หนักหนาขึ้น ...และเมื่อถ้ามีการเจรจาตกลงกันก่อนดำเนินคดี มันจะเรียกมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเป็นคดีถึงศาลอีกท่านจะถูกศาลลงโทษอย่างหนัก เพราะโดนครั้งที่ 2 ถือว่าไม่หลาบจำ ไม่เกรงกลัว เคารพศาล ไม่เคารพกฎหมายลิขสิทธิ์
..ดังนั้นผมจึงยอมมัน และจ่ายให้มันเอาเข้ากระเป๋าไปโดยเจรจาตกลงว่าไม่ให้มันมายุ่งกับผมอีกแม้ผมจะไม่ซื้อลิขสิทธิ์ของมันก็ตาม มันเป็นวิธีการเอาตัวรอดที่สมประโยชน์ ไม่ก่อความขัดแย้งเกลี่ยดชังกัน กลายเป็นคนรู้จักคุ้นเคยกันไปครับ
.. คนทำร้านทำมาค้าขาย ต้องพึงสังวรว่าการไม่ควรกระทำการใดให้ผิดกฎหมาย หรือประพฤติ กระทำการใดๆให้เกิดศัตรู ความเกลียดชัง ความไม่ชอบ โดยเฉพาะพวกลิขสิทธิ์ ตำรวจ นักการเมือง ฝ่ายปกครอง แม้แต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อพปร. อาสาสมัคร ฯลฯ ที่อยู่ในพื้นที่ มันจะประเสริฐสุดแล้วครับ..อย่างผมบางครั้งก็ต้องให้เด็กเอาเครื่องดื่ม มิกเซอร์ อาหารเล็กๆ น้อยๆนานๆครั้ง ไปให้ จนท. หลายฝ่ายที่มาตั้งด่าน ตรวจที่ถนนใหญ่ใกล้ร้านเป็นการแสดงน้ำใจ ผูกไมตรี ซึ่งมันก็ได้ผลดี เกืดความคุ้นเคยกัน เป็นมิตรกัน เมื่อเวลามีการเข้มงวดช่วงได มีผู้ใหญ่ ฝ่ายไหนมาตรวจอะไร ( ซึ่งแถวนิคมอุตสาหกรรมลำพูนจะทำกันเป็นประจำ เพราะเป็นย่านบันเทิงใหญ่) เขาก็จะมาบอกผมล่วงหน้าก่อนทุกครั้ง
-
ขอบคุณมากครับที่ให้คำแนะนำ