eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: sophonms ที่ วันที่ 22 มีนาคม 2010, 07:03:48 น.
-
ผมเพิ่งซื้อ คอมเพรชเซอร์/ลิมิตเตอร์/เกท มาจากบ้านหม้อ ยี่ห้อ Ce-anCe รุ่น CE-166XL ราคา 4300 ทางร้านบอกว่าเป็นของก๊อป มาจากยี่ห้อ DBX ผมต้องการมานานอยากได้มาใช้รักษาระดับความดังของไมค์เพราะว่าเวลานักร้องร้องแรงร้องค่อยไม่เท่ากัน(ไม่มีเงินซื้อของแท้เลยซื้อของก๊อปเลียนแบบมาแทน)ทีนี้พอซื้อมาจริง กลับไม่ค่อยเข้าใจในการปรับแต่งของปุ่มต่างๆหากสมาชิกท่านใดเข้าใจหรือพอรู้เกี่ยวกับวิธีใช้งานตัวคอมเพรชเซอร์นี้ช่วยแนะนำผมด้วยครับไม่รู้จะไปถามใครแล้วครับจากทางร้านแนะนำมาก็ไม่กะจ่างเท่าที่ควรครับ ที่หน้าเครื่องจะมีปุ่มหมุนแชลแนลละ 8 ปุ่มดังนี้
ปุ่มที่ 1 ปุ่ม THRESHOLD ค่าที่ปรับได้ OFF to +15db (ต้องตั้งไว้ที่เท่าไรจึงจะเหมาะสม)
ปุ่มที่ 2 ปุ่ม RELEASE ค่าปรับได้ FAST - SLOW(ปรับแค่ไหนจึงจะเหมาะสม)
ปุ่มที่ 3 ปุ่ม THRESHOLD ค่าที่ปรับได้ -40 ถึง +20db (ปรับเท่าไร)
ปุ่มที่ 4 ปุ่ม RATIO ค่าที่ปรับได้ 1:1 - 00:1 (ปรับเท่าไร)
ปุ่มที่ 5 ปุ่ม ATTACK ค่าที่ปรับได้ FAST - SLOW (ปรับเท่าไร)
ปุ่มที่ 6 ปุ่ม RELEASE ค่าที่ปรับได้ FAST - SLOW (ปรับเท่าไร)
ปุ่มที่ 7 ปุ่ม OUTPUT GAIN (ปุ่มนี้เข้าใจครับ)
ปุ่มที่ 8 ปุ่ม LIMITER ค่าที่ปรับได้ 0 - +20db (ปรับดูแล้วไม่เห็นความต่างครับ)
ยังมีปุ่มกดอีก 5 ปุ่ม ดังนี้
คือ 1.ชื่อ SC Enable ปุ่มนี้ถ้ากดไฟสีแดงจะติด (เวลาใช้งานต้องกดไหม)
ปุ่มกดที่ 2 ชื่อ Contour ถ้ากดไฟสีเขียวจะติด (เวลาใช้งานต้องกดด้วยไหม)
ปุ่มกดที่ 3 ชื่อ OverEasy ถ้ากดไฟสีเขียวจะติด (ต้องกดไหมเวลาใช้งาน)
ปุ่มที่ 4 ชื่อ Auto (ต้องกดไหมเวลาใช้งาน)
ปุ่มที่ 5 ชื่อ Bypass (ปุ่มนี้เข้าใจครับ)
และยังมีไฟ LED แสดงอีก 4 จุดเราจะสังเกตุอย่างไรถึงจะเหมาะสมถูกต้อง
จุดที่ 1 มี 2 สี สีแดง ชื่อ SELOW สีเขียว ชื่อ ABOVE
จุดที่ 2 มี 3 สี ชื่อ BELOW สีเขียว/ตรงกลางสีส้ม/สีแดงชื่อ ABOVE
จุดที่ 3 สีแดง มี 10 ดวง ชื่อ GAIN REDUCTION(db)
จุดที่ 4 มี 1 ดวง สีแดง ชื่อ ABOVE
ขอความกรุณาสมาชิกด้วยช่วยสอนวิธีปรับใช้งานที ขอบคุณครับ
-
COMPRESSOR/LIMITER
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมระดับความดังของเสียง ไม่ให้สัญญาณเสียงที่ออกไปมีความแรงมากเกินไป รวมทั้งทำหน้าที่อื่นๆด้วย ซึ่งหน้าที่การทำงานภายในเครื่องจะประกอบด้วยหน้าที่การทำงานหลัก 3 ส่วน ดังนี้
1. EXPANDER/GATE
ทำหน้าที่ขยายและเปิดประตู[GATE] ให้สัญญาณเข้ามาในเครื่องตามความต้องการของผู้ใช้ ว่าจะให้สัญญาณที่มีระดับความแรงมากน้อยเท่าไรที่จะให้เครื่องเริ่มทำงาน โดยมีปุ่มปรับต่างๆในส่วนนี้คือ
1.1 ปุ่ม THRESHOLD เป็นปุ่มปรับเพื่อให้เครื่องเริ่มทำงานและหยุดทำงาน หน่วยที่ปรับมีค่าเป็น dB เช่นเราปรับตั้งค่าไว้ที่ -45 dB หมายความว่า สัญญาณเสียงที่มีระดับสัญญาณต่ำกว่า -45dB เครื่องจะไม่ทำงาน ซึ่งจะทำให้ไม่มีสัญญาณใดๆผ่านเครื่องออกไปได้ และเครื่องจะเริ่มทำงานเมื่อระดับสัญญาณมีค่าสูงกว่า -45 dB ค่าที่เราตั้งเพื่อให้เครื่องเริ่มทำงานนี้เรียกว่า "ค่าเทรชโฮลด์"
อย่างไรก็ตามถ้าเราปรับไว้ที่ตำแหน่งต่ำสุดหรือ OFF หมายความว่า สัญญาณที่มีระดับสุดแค่ไหนก็ตามก็สามารถผ่านเข้าไปในเครื่องได้ นั่นคือสัญญาณจะผ่านเข้าไปได้ทั้งหมดตลอดเวลานั่นเอง
การจะตั้งค่าเทรชโฮลด์เป็นเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เครื่องนี้ควบคุมเสียงอะไร เช่น ถ้าต้องการควบคุมเสียงสำหรับไมค์นักร้อง หรือควบคุมเสียงทั้งระบบ ให้ตั้งค่านี้ที่จุดต่ำกว่า -45 dB เพราะต้องให้ระดับเสียงเบาๆออกไปได้ แต่ถ้าควบคุมเสียงของไมค์กลองกระเดื่อง กลองสแนร์ หรือไฮแฮต ก็ให้ตั้งค่าที่สูงกว่า -45 dB ซึ่งมีค่าไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความดังของกลองหรือเครื่องดนตรีชิ้นนั้นๆ
1.2 ปุ่ม RELEASE เป็นปุ่มสำหรับหน่วงเวลา คือหลังจากที่ประตู[GATE] เปิดให้สัญญาณเข้ามาในเครื่องแล้ว ถ้าไม่มีสัญญาณใดๆเข้ามาอีกหรือสัญญาณมีค่าต่ำกว่าค่าเทรชโฮลด์ที่ตั้งไว้ เกทก็จะปิด ส่วนอื่นๆของเครื่องก็ไม่ทำงาน ระยะเวลาที่ใช้ในการปิดเกทอีกครั้งหลังจากไม่มีสัญญาณเข้ามาแล้วนั้นเราเรียกระยะเวลานี้ว่า "Release Time" ปุ่มที่ทำหน้าที่ปรับระยะเวลานี้คือปุ่ม RELEASE ค่าที่บอกไว้ที่เครื่องคือ Fast หมายความว่าเกทจะปิดอย่างรวดเร็วหลังจากหมดสัญญาณ และ Slow หมายความว่า เกทจะหน่วงเวลาไว้ระยะหนึ่งจึงค่อยปิด ระยะเวลาเร็วหรือช้าแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะปรับตั้งค่าไว้
ค่า Release Time ของเกทนี้จะตั้งเป็นเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับเสียงที่เราใช้งาน เช่นไมค์สำหรับเสียงพูดหรือเสียงนักร้อง ให้ปรับไว้ที่ประมาณบ่ายสองโมง [Slow] เพราะเสียงคนเราจะมีปลายหางเสียงเช่น เสียงตัว สิ. ,สี่.. ,ซิ... ,ซี...เอส....เฮช....ทู...ฯลฯ.. เป็นต้น ปลายหางเสียงเหล่านี้จะได้ไม่ขาดหายไป
ส่วนการปรับเสียงจากเครื่องดนตรีเช่นเสียงกลองกระเดื่อง ถ้าเราไม่ต้องการเสียงกระพือหลังจากที่เราที่เหยียบลงไปที่หน้ากลองลูกแรก ก็ให้เวลาในการปิดเกทเร็วขึ้น[Fast] หรือเสียงไฮแฮตถ้าเราไม่ต้องการให้มีปลายหางเสียงมากเกินไป ให้เสียงซิบๆๆ..ซี่ๆๆ..ซิบๆๆ...ดีขึ้นก็ให้ปิดเกทให้เร็วขึ้นเพื่อปลายหางเสียงที่เบาๆจะได้ถูกตัดออกไป
**อย่างไรก็ตามปุ่มRELEASE ในส่วนของภาคEXPANDER/GATE นี้ ในเครื่องบางรุ่นอาจจะไม่มี และบางรุ่นทำเป็นสวิทช์กดให้เลือก**
1.3 ปุ่ม RATIO เป็นปุ่มทำหน้าที่ปรับลดระดับเสียงลงเป็นอัตราส่วนของ dB เมื่อเทียบค่ากับ 1 เช่น 1:1หมายความว่าสัญญาณจะไม่ถูกลดระดับเลย , 2:1หมายความว่าสัญญาณที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าไหร่ก็ตามจะถูกทำให้ลดลงสองเท่า
**อย่างไรก็ตามปุ่ม RATIO นี้ในส่วนของภาคEXPANDER/GATE ในเครื่องบางรุ่นอาจจะไม่มี**
2. COMPRESSOR
ทำหน้าที่กดระดับสัญญาณให้ลดลงในอัตราส่วนตามค่าที่เราได้ปรับตั้งไว้ หน้าที่การทำงานของปุ่มปรับต่างๆในส่วนของภาคคอมเพรสเซอร์นี้มีดังนี้
2.1 ปุ่ม THRESHOLD เป็นปุ่มสำหรับตั้งค่าจุดเริ่มการกดสัญญาณ(จุดเทรชโฮลด์) เช่นเราตั้งค่าไว้ที่ 0 dB สัญญาณจะเริ่มลดลงที่ 0 dB และถ้าปรับตั้งไว้ที่ -10 dB ก็หมายความว่าสัญญาณเสียงจะเริ่มลดลงที่จุด -10 dB (ค่าติดลบมากเสียงจะลดลงมาก)
การลดลงของสัญญาณเสียงที่จุดเทรชโฮลด์นี้ ถ้าเป็นการลดลงอย่างรวดเร็วทันทีทันใด เราเรียกว่า ฮาร์ดนี[Hard-Knee] และถ้าให้เสียงที่ถูกกด[Compress] ค่อยๆลดลงเพื่อให้เสียงฟังดูนุ่มขึ้นเราเรียกว่า ซอฟต์นี[Soft-Knee] ซึ่งมีปุ่มให้กดเลือกใช้งานได้ แต่ปุ่มนี้จะมีชื่อเรียกทางการค้าที่แตกต่างกันไป เช่น
ยี่ห้อ dbx เรียกปุ่มนี้ว่า Over Easy
ยี่ห้อ Behringer เรียกปุ่มนี้ว่า Interactive Knee
การตั้งค่า THRESHOLD
เสียงดนตรี เสียงพูด และเสียงร้องเพลงทั่วๆไป จะตั้งค่าไว้ที่ 0 dB
เสียงร้องเพลงประเภท เฮฟวี่ ร็อค ฮิปพอฟ หรือเพลงวัยรุ่นประเภท แหกปากตะโกนร้อง ก็ตั้งไว้ที่ -10 dB ถึง -20 dB ให้ปรับหมุนฟังดูค่าที่เหมาะสมไม่ดังหรือค่อยจนเกินไป
2.2 RATIO เป็นปุ่มสำหรับทำหน้าที่ปรับลดระดับเสียงลงมีค่าเป็นอัตราส่วนจำนวนเท่าต่อ 1 ซึ่งจะทำงานสัมพันธ์กับค่าเทรชโฮลด์ที่ตั้งไว้คือ
[1] เมื่อตั้งค่าอัตราส่วนไว้ที่ 1:1 สัญญาณด้านออกจะไม่ถูกกดลงเลย
[2] เมื่อตั้งค่าอัตราส่วนไว้ที่ 2:1 สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลง 2เท่า เมื่อสัญญาณเข้าเพิ่มขึ้น 1dB เช่นสัญญาณเข้า +20dB สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลงเหลือ +10dB
[3] เมื่อตั้งค่าอัตราส่วนไว้ที่ 4:1 สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลง 4เท่า เมื่อสัญญาณเข้าเพิ่มขึ้น 1dB เช่นสัญญาณเข้า +20dB สัญญาณออกจะถูกกดให้ลดลงเหลือ +5dB
[4] Infinite (หมุนตามเข็มนาฬิกาสุด) สัญญาณด้านออกจะถูกกดให้ลดลงเท่ากับค่าเทรชโฮลด์ที่ตั้งไว้
การตั้งค่า RATIO
เสียงพูด เสียงร้องเพลงทุกแบบ เสียงเครื่องดนตรีทั่วไป ปรับตั้งไว้ที่ 2:1 ถ้าตั้งให้ลดมากไปจะทำให้เหมือนเสียงเกิดอาการวูบวาบกระโดดไม่คงที่
2.3 ATTACT เป็นปุ่มสำหรับปรับตั้งค่าหน่วงเวลาของการเริ่มต้นกดสัญญาณ[compress] จะช่วยทำให้เสียงมีความหนักแน่นดีขึ้น มีหน่วยเวลาเป็น มิลลิวินาที[mSEC] เสียงพูด เสียงเพลงดนตรีทั่วไป ให้ตั้งค่าไว้ที่ประมาณ 40-50 mSEC เพลงคลาสสิค หรือเพลงที่มีความฉับไวของดนตรี ให้ตั้งไว้ที่ประมาณ 25-30 mSEC
2.4 RELEASE เป็นปุ่มสำหรับปรับตั้งค่าหน่วงเวลาช่วงหยุดการกดสัญญาณ จะทำให้น้ำเสียงนุ่มน่าฟังขึ้น มีหน่วยเวลาเป็นวินาที [SEC] เสียงพูด เสียงดนตรีทั่วไปให้ตั้งไว้ที่ 1.5-2 SEC
2.5 OUTPUT GAIN เป็นปุ่มปรับลดหรือเพิ่มระดับความแรงของสัญญาณด้านขาออกของเครื่องให้มีค่าลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้ โดยมีค่าปรับได้ตั้งแต่ -20dB ถึง +20dB ในการใช้งานปกติให้ปรับค่าไว้ที่ 0 dB
3. LIMITER
ลิมิตเตอร์ทำหน้าที่รักษาระดับสัญญาณด้านขาออกของเครื่องให้มีความแรงสูงสุดได้ไม่เกินค่าที่ตั้งไว้ เช่นตั้งไว้ที่ 0dB สัญญาณขาออกก็จะออกได้สูงสุดไม่เกิน 0dB หรือตั้งไว้ที่ +5dB สัญญาณขาออกก็จะออกได้สูงสุดไม่เกิน +5dB เป็นต้น
การตั้งค่าLIMITER
เสียงพูด เสียงร้องเพลงทุกประเภท ให้ตั้งค่าไว้ที่ 0dB
เสียงดนตรี กลองกระเดื่อง กีต้าร์เบส ให้ตั้งค่าไว้ที่ +5dB ถึง +10dB
เสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ ตั้งค่าไว้ที่ 0dB
การต่อใช้งานเครื่อง COMPRESSOR
การต่อใช้งานเครื่องคอมเพรสเซอร์สามารถต่อใช้งาน ตามลักษณะประเภทของงานและตามความต้องการของผู้ใช้ได้ 4 แบบ ดังนี้
1. การต่อแบบ Channel Insert
การต่อแบบนี้เป็นการต่อใช้งานที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้เราสามารถปรับแต่งเสียงของคอมเพรสเซอร์ แต่ละแชลแนลได้อย่างอิสระ ทั้งเสียงจากไมโครโฟนสำหรับนักร้อง และเสียงจากเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่แยกจากกัน
2. การต่อแบบ Group Insert
การต่อแบบนี้จะใช้คอมเพรสเซอร์ จำนวน 2 เครื่อง [4Ch] ในกรณีที่มิกเซอร์มี 4 กรุ๊ป คือ Group 1-2-3-4 ก็ให้เราจัดกรุ๊ป 1-2 เป็น ไมค์เสียงร้องทั้งหมด และกรุ๊ป 3-4 เป็นเสียงดนตรีทั้งหมด
3. การต่อแบบ Mix Insert
การต่อแบบนี้ใช้คอมเพรสเซอร์ 1เครื่อง [2Ch] ต่อที่ตำแหน่ง Mix Insert ของเครื่องมิกเซอร์ เป็นการต่อใช้งานเพื่อควบคุมเสียงทั้งหมดที่ถูกต่อเข้าที่มิกซ์ การปรับแต่งเสียงก็จะปรับโดยรวมๆกลางๆ
4. การต่อแบบ MIXER to COMPRESSOR
การต่อแบบนี้เป็นการต่อแบบที่ง่าย สะดวก และประหยัดที่สุด เพราะเป็นการต่อที่นำเอาสัญญาณเอาท์พุทจากมิกเซอร์มาเข้าอินพุทของเครื่องคอมเพรสเซอร์ และออกจากคอมเพรสเซอร์ไปเข้าเครื่องอีควอไลเซอร์
การปรับแต่งเสียงก็เป็นการปรับแบบรวมๆกลางๆ เพราะทุกเสียงผ่านคอมเพรสเซอร์ทั้งหมด
นายวิริยะ คงพระบาท
ครู คศ.2 แผนกอิเล็กทรอนิกส์
วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา
อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000
โทร 0-4424-2002 ต่อ 166
หรือตามลิ้งค์ครับ
http://www.mynke.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=mynkecom&thispage=1&No=1207167
-
แล้วกันเสียงหอนได้มั๊ยครับ
-
แล้วกันเสียงหอนได้มั๊ยครับ
กันฟีดแบ็คได้แน่นอนครับ
-
แล้วกันเสียงหอนได้มั๊ยครับ
กันฟีดแบ็คได้แน่นอนครับ
โห...ยิ่งไกล้วันที่ 11 เมษา พี่หมอแกยิ่งแม่น ;D
(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/j.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/o.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/e.gif)(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/m.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/u.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/s.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/i.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/c.gif) (http://glitter-graphics.com/myspace/text_generator.php)
-
โห...ยิ่งไกล้วันที่ 11 เมษา พี่หมอแกยิ่งแม่น ;D
(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/j.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/o.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/e.gif)(http://dl3.glitter-graphics.net/empty.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/m.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/u.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/s.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/i.gif)(http://text.glitter-graphics.net/amflag/c.gif) (http://glitter-graphics.com/myspace/text_generator.php)
โผล่มาแซวแล้วก็แจวไปเลยนะครับ เอาให้อยู่เด้อวันนั้น อิอิ
(http://www.mhlabs.com/metric_halo/img/Plakette-2009_MetricHalo.gif)(http://www.mhsecure.com/v5mm/uimg/FrontActive.jpg)
ผมชอบตัวนี้มากกว่าครับ ทำได้ทุกอย่าง อิอิ
http://www.mhsecure.com/v5mm/ULN-8.html
-
โผล่มาแซวแล้วก็แจวไปเลยนะครับ เอาให้อยู่เด้อวันนั้น อิอิ
(http://www.mhlabs.com/metric_halo/img/Plakette-2009_MetricHalo.gif)(http://www.mhsecure.com/v5mm/uimg/FrontActive.jpg)
ผมชอบตัวนี้มากกว่าครับ ทำได้ทุกอย่าง อิอิ
http://www.mhsecure.com/v5mm/ULN-8.html
เอาเลยพี่หมอ ;D หนับหนุน อิอิ แต่เดี๋ยวก่อน :hap5: วันก่อนมีวงดนตรีวงหนึ่งมันตามมาถึงบ้าน.บอกว่างานวันก่อนเห็นเครื่องเสียงเจ้านี้แหล่ะเสียงถูกใจเลย.ขอดูมิกหน่อยซิใช้เอฟเฟกอะไรทำไมเสียงมันคมจัง.จะติดต่อไปเล่นหน่อย. ผมตอบไปว่า เอ้อออ...ผมไม่ได้ใช้มิกหรอกครับ...ผมใช้ตัวนี้แล้วชี้ให้ดู...เขาทำหน้างงๆ....แล้วบอกผมว่า ฮ่วย...ไม่มีมิกบ่จ้างดอกแล้วก็ขับรถไปเลย...ระวังถ้าพี่หมอเอาตัวนี้เดี๋ยวก็เป็นเหมือนผมแน่ๆ อิอิ ;D
-
บังเอิญว่าใช้ของแท้พอดี คิดว่าปรับค่าตามสเกลมันคงไม่หนีกันเท่าไรครับ
มาดูกันก่อน ตัวนี้จะเป็นทั้งเกตและคอมเพรสเซอร์ในตัวเดียวกันครับ
ปุ่มที่ 1 ปุ่ม THRESHOLD ค่าที่ปรับได้ OFF to +15db>>>ประมาณ -10 ถึง 0
ปุ่มที่ 2 ปุ่ม RELEASE ค่าปรับได้ FAST - SLOW>>>ปรับแค่ไหนก็ได้ให้สัมพันธ์กับหางเสียงที่ไม่ทำให้ห้วนจนเกินไป
ปุ่มที่ 3 ปุ่ม THRESHOLD ค่าที่ปรับได้ -40 ถึง +20db>>>ประมาณ-5 ถึง -20 ขึ้นอยู่กับนักร้อง
ปุ่มที่ 4 ปุ่ม RATIO ค่าที่ปรับได้ 1:1 - 00:1>>>ประมาณ 4:1 หรืออาจจะถึง 10:1 ขึ้นอยู่กับนักร้องอีกเช่นกัน
ปุ่มที่ 5 ปุ่ม ATTACK ค่าที่ปรับได้ FAST - SLOW >>>ปรับเป็น AUTO ครับ จะมีปุ่มให้กดอยู่
ปุ่มที่ 6 ปุ่ม RELEASE ค่าที่ปรับได้ FAST - SLOW >>>เหมือนข้างบน
ปุ่มที่ 7 ปุ่ม OUTPUT GAIN>>> อยู่ที่ 0 dB
ปุ่มที่ 8 ปุ่ม LIMITER ค่าที่ปรับได้ 0 - +20db >>> อยู่ที่ 0 dB อีกเช่นกันครับ อยากรู้ว่ามันทำงานยังไงก็ลองอัดสัณญาณแรงๆดูครับผม
ปุ่มกดที่ 1 SC Enable ปุ่มนี้ถ้ากดไฟสีแดงจะติด>>>จะใช้ก็ต่อเมื่อต้องการลิงค์สัณญาณไปยังเครื่องมือชนิดอื่น เช่นเกต เป็นต้นครับ
ปุ่มกดที่ 2 ชื่อ Contour ถ้ากดไฟสีเขียวจะติด>>>จากคู่มือมันบอกว่าเป็นการลดเสียงหึ่งๆที่อยู่ในช่วงความถี่ต่ำครับผม ใช้ดูแล้วไม่ค่อยเห็นผลที่ชัดเจนเท่าไรเลยไม่ได้ใช้
ปุ่มกดที่ 3 ชื่อ OverEasy ถ้ากดไฟสีเขียวจะติด>>>เป็นการปรับให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์เมื่อตอนที่มันเริ่มบีบเสียงให้มันนุ่มนวลมากขึ้นครับไม่วูบวาบ
ปุ่มที่ 4 ชื่อ Auto>>>อธิบายไปแล้วในหัวข้อปุ่มที่5-6
ปุ่มที่ 5 ชื่อ Bypass
และยังมีไฟ LED แสดงอีก 4 จุดเราจะสังเกตุอย่างไรถึงจะเหมาะสมถูกต้อง
จุดที่ 1 มี 2 สี สีแดง ชื่อ SELOW สีเขียว ชื่อ ABOVE>>>แสดงสถานะการทำงานของเกต ปิดสีแดง เปิดสีเขียว
จุดที่ 2 มี 3 สี ชื่อ BELOW สีเขียว/ตรงกลางสีส้ม/สีแดงชื่อ ABOVE>>>แสดงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์ เขียวยังไม่บีบเสียง ส้มเริ่มจะบีบ(จะทำงานในกรณีที่กดปุ่ม overeasy เท่านั้น) แดงบีบแล้ว
จุดที่ 3 สีแดง มี 10 ดวง ชื่อ GAIN REDUCTION(db)>>>แสดงสถานะทำงานว่าเสียงที่ถูกบีบลงไปนั้นถูกบีบลงไปกี่ dB ถ้าไม่มีสัณญาณเข้าไฟจะติดหมด มีสัณญาณเข้าไฟดับ สัณญาณถูกบีบไฟวิ่งกลับทาง
จุดที่ 4 มี 1 ดวง สีแดง ชื่อ ABOVE>>>Limiterเริ่มทำงาน จะทำงานก็ต่อเมื่อสัณญาณมันแรงเกินจนทะลุในส่วนคอมเพรสเซอร์ออกมา ก็จะถูก Limiter กันไว้อีกทีนึง
ลองเล่นและศึกษาดูครับ
-
บังเอิญว่าใช้ของแท้พอดี คิดว่าปรับค่าตามสเกลมันคงไม่หนีกันเท่าไรครับ
มาดูกันก่อน ตัวนี้จะเป็นทั้งเกตและคอมเพรสเซอร์ในตัวเดียวกันครับ
ปุ่มที่ 1 ปุ่ม THRESHOLD ค่าที่ปรับได้ OFF to +15db>>>ประมาณ -10 ถึง 0
ปุ่มที่ 2 ปุ่ม RELEASE ค่าปรับได้ FAST - SLOW>>>ปรับแค่ไหนก็ได้ให้สัมพันธ์กับหางเสียงที่ไม่ทำให้ห้วนจนเกินไป
ปุ่มที่ 3 ปุ่ม THRESHOLD ค่าที่ปรับได้ -40 ถึง +20db>>>ประมาณ-5 ถึง -20 ขึ้นอยู่กับนักร้อง
ปุ่มที่ 4 ปุ่ม RATIO ค่าที่ปรับได้ 1:1 - 00:1>>>ประมาณ 4:1 หรืออาจจะถึง 10:1 ขึ้นอยู่กับนักร้องอีกเช่นกัน
ปุ่มที่ 5 ปุ่ม ATTACK ค่าที่ปรับได้ FAST - SLOW >>>ปรับเป็น AUTO ครับ จะมีปุ่มให้กดอยู่
ปุ่มที่ 6 ปุ่ม RELEASE ค่าที่ปรับได้ FAST - SLOW >>>เหมือนข้างบน
ปุ่มที่ 7 ปุ่ม OUTPUT GAIN>>> อยู่ที่ 0 dB
ปุ่มที่ 8 ปุ่ม LIMITER ค่าที่ปรับได้ 0 - +20db >>> อยู่ที่ 0 dB อีกเช่นกันครับ อยากรู้ว่ามันทำงานยังไงก็ลองอัดสัณญาณแรงๆดูครับผม
ปุ่มกดที่ 1 SC Enable ปุ่มนี้ถ้ากดไฟสีแดงจะติด>>>จะใช้ก็ต่อเมื่อต้องการลิงค์สัณญาณไปยังเครื่องมือชนิดอื่น เช่นเกต เป็นต้นครับ
ปุ่มกดที่ 2 ชื่อ Contour ถ้ากดไฟสีเขียวจะติด>>>จากคู่มือมันบอกว่าเป็นการลดเสียงหึ่งๆที่อยู่ในช่วงความถี่ต่ำครับผม ใช้ดูแล้วไม่ค่อยเห็นผลที่ชัดเจนเท่าไรเลยไม่ได้ใช้
ปุ่มกดที่ 3 ชื่อ OverEasy ถ้ากดไฟสีเขียวจะติด>>>เป็นการปรับให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์เมื่อตอนที่มันเริ่มบีบเสียงให้มันนุ่มนวลมากขึ้นครับไม่วูบวาบ
ปุ่มที่ 4 ชื่อ Auto>>>อธิบายไปแล้วในหัวข้อปุ่มที่5-6
ปุ่มที่ 5 ชื่อ Bypass
และยังมีไฟ LED แสดงอีก 4 จุดเราจะสังเกตุอย่างไรถึงจะเหมาะสมถูกต้อง
จุดที่ 1 มี 2 สี สีแดง ชื่อ SELOW สีเขียว ชื่อ ABOVE>>>แสดงสถานะการทำงานของเกต ปิดสีแดง เปิดสีเขียว
จุดที่ 2 มี 3 สี ชื่อ BELOW สีเขียว/ตรงกลางสีส้ม/สีแดงชื่อ ABOVE>>>แสดงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์ เขียวยังไม่บีบเสียง ส้มเริ่มจะบีบ(จะทำงานในกรณีที่กดปุ่ม overeasy เท่านั้น) แดงบีบแล้ว
จุดที่ 3 สีแดง มี 10 ดวง ชื่อ GAIN REDUCTION(db)>>>แสดงสถานะทำงานว่าเสียงที่ถูกบีบลงไปนั้นถูกบีบลงไปกี่ dB ถ้าไม่มีสัณญาณเข้าไฟจะติดหมด มีสัณญาณเข้าไฟดับ สัณญาณถูกบีบไฟวิ่งกลับทาง
จุดที่ 4 มี 1 ดวง สีแดง ชื่อ ABOVE>>>Limiterเริ่มทำงาน จะทำงานก็ต่อเมื่อสัณญาณมันแรงเกินจนทะลุในส่วนคอมเพรสเซอร์ออกมา ก็จะถูก Limiter กันไว้อีกทีนึง
ลองเล่นและศึกษาดูครับ
เยี่ยม :th2: สุดยอดเลย ผมขอขอบคุณ เด็กชายโสด และ fa-Zone จริงๆ :thank1: :thank1: :D
-
เอาเลยพี่หมอ ;D หนับหนุน อิอิ แต่เดี๋ยวก่อน :hap5: วันก่อนมีวงดนตรีวงหนึ่งมันตามมาถึงบ้าน.บอกว่างานวันก่อนเห็นเครื่องเสียงเจ้านี้แหล่ะเสียงถูกใจเลย.ขอดูมิกหน่อยซิใช้เอฟเฟกอะไรทำไมเสียงมันคมจัง.จะติดต่อไปเล่นหน่อย. ผมตอบไปว่า เอ้อออ...ผมไม่ได้ใช้มิกหรอกครับ...ผมใช้ตัวนี้แล้วชี้ให้ดู...เขาทำหน้างงๆ....แล้วบอกผมว่า ฮ่วย...ไม่มีมิกบ่จ้างดอกแล้วก็ขับรถไปเลย...ระวังถ้าพี่หมอเอาตัวนี้เดี๋ยวก็เป็นเหมือนผมแน่ๆ อิอิ ;D
ยากหยัง เอาโตนี่ไปวางไว้ซะก็จบ อิอิ
(http://www.soundmarkthai.com/shop/s/soundmarkthai/img-lib/spd_2008072193741_b.jpg)
-
วันที่ 11 ผมจะไปดูให้เห็นกับตา...และจะขอคลำๆ ไม่ไห้บุบสลสยครับ อยากเห็นโดนแล้วครับ...
จะได้สัมผัส ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ตัวจริงเสียงจริง ตัวเป็นๆครับผม....
(http://www.mhsecure.com/v5mm/uimg/FrontActive.jpg)
ย่านแต่บ่มานั่นล่ะ หาคนมาหย่องกลองให้ด้วยแหน่เด้อ นิมนต์พระที่วัดให้มาช่วยตีกลอง ท่านบอกว่า เณรน้อยติดสอบว่างั้น อิอิ
-
ติ่นมาได้รับความรู้ ขอบคุณท่านผู้รู้ทุกๆท่านครับผม
-
ยากหยัง เอาโตนี่ไปวางไว้ซะก็จบ อิอิ
(http://www.soundmarkthai.com/shop/s/soundmarkthai/img-lib/spd_2008072193741_b.jpg)
ห่วย..แมนแล้ว..คิดได้ไง 555 ผมมี alto 140 FX อยู่ตัวหนึ่ง..ต้องเอาไปตั้งโชว์ซะแล้ว ;D
วันที่ 11 ผมจะไปดูให้เห็นกับตา...และจะขอคลำๆ ไม่ไห้บุบสลสยครับ อยากเห็นโดนแล้วครับ...
จะได้สัมผัส ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ตัวจริงเสียงจริง ตัวเป็นๆครับผม....
(http://www.mhsecure.com/v5mm/uimg/FrontActive.jpg)
โอ๋ยย...ท่านพี่ไท ครับ มันไม่ได้วิเศษขนาดนั้นหรอกท่าน...เทียบกับของท่านใช้อยู่ไม่ได้หรอก..เครื่องพี่สุดยอดแล้วครับ ...ตัวนี้มันก็ซาวด์การ์ดของเราดีๆนี่แหล่ะ.เพียงแต่มันมีชื่อด้าน ADC และ DAC เขาพยายามทำให้เหมือนอนาลอคมากที่สุด...เห็นมั้ยครับว่า ก็มาหาอนาลอคเหมือนเดิม...ไม่เหมาะนำมาเล่นงานสนามหรอกครับ..เหมาะกับงาน studio มากกว่า..ข้อดีของมันคือมันมีทุกอย่างในตัวเดียวสะดวกครับ...ผมไม่มีตังไปซื้อ คอมเพรสเซอดีๆ 8 ตัว/เกทดีๆ 8 ตัว/อีคิวดีๆอีก 8 ตัว/รีเวิบดีๆอีกตัว/เฮ้อคิดเป็นเงินอู๊ยยย.หนาวครับ ;D ผมแอบอิจฉาพี่ไท ที่มีเครื่องเล่นงานสนามดีๆมานานแล้ว อยากมีบ้างจังเลย อิอิ ;D
เอ้าเด้อพี่หมอ...มีหยังให้เผิ่นเบิ่งหล่ะบาดเนี่ย...คุยไว้หลาย..ล่อคนมางานเจ้าของกะเป็น ;D :sadism:
-
ตั๋วให้เพิ่นมาแล้วเรากะเอา โตนี่ให้เพิ่นเล่นสั่นตั้ว อิอิ
(http://www.soundmarkthai.com/shop/s/soundmarkthai/img-lib/spd_2008072193741_b.jpg)