eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: nrswdt ที่ วันที่ 27 มกราคม 2010, 09:46:26 น.
-
ข้อดีของ Power Switching ชอบตรงที่ว่าน้ำหนักเบา แต่ความอึดอย่างไงก็สู้ Power Tranfromer ไม่ได้
บางรุ่นเจอระบบไฟมีปัญหา ไฟตกเหลือ 180 V เครี่องไม่ทำงานแต่บางเครื่องก็ทำงาน
ซ้ำร้ายเจอไฟจากเครื่องปั่นที่ไซเกิลไม่ได้จะเปิดติดบ้างไม่ติด ส่วนมากแล้วจะเปิดไม่ติด
ถ้าไซเกิลได้บ้างไม่ได้บ้างอันนี้แหละน่ากลัวครับเพราะมันจะทำให้การแสดงของเราปั่นป่วนมาก ๆ
เอฟเฟคมา ๆ หาย ๆ Power Switching ขับกลางแหลมเสียงบี้มือมิกซ์หัวปั่นเพราะมันเดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย เจัาของวงนั่งไม่ติิดแล้วครับ รุ่งขึ้น
ตั้งเครื่องเทสยาว 5 ชั่วโมง ปกติทุกอย่าง
สาเหตุปัญหาไซเกิลได้บ้างไม่ได้บ้างที่เกิดจากเครื่องปั่นสายพานไม่ปกติ
ที่ใคร ๆ พูดถึง Power Switching ว่าใช้ลำโพง 2 โอม อยากให้ระบุว่าใช้สายลำโพงเบอร์อะไร ยาวเท่าไร
เพราะบางท่านใช้ีสายลำโพงเบอร์ใหญ่และ่สั้น โอมของลำโพงจึงมีสำสัญต่อ Power Switching
-
ผมใช้อยู่ครับ ขับกลางแหลม เสียงใช้ได้ ปัญหาคือ ส่งซ่อม หรือสั่งนานไปหน่อย ถ้าผู้มีความรู้เรื่องช่าง โอเค ครับ เขาส่งมาให้เราเปลี่ยนเลย
เรื่องของไฟไม่มีปัญหาครับ
-
ผมกำลังอยากได้ แต่ไม่ได้รับการตอดรัดเลยครับ สงสัยต้องเล่นของ จ.ด. ซะแล้ว อิอิ
-
ข้อดีของ Power Switching ชอบตรงที่ว่าน้ำหนักเบา แต่ความอึดอย่างไงก็สู้ Power Tranfromer ไม่ได้
บางรุ่นเจอระบบไฟมีปัญหา ไฟตกเหลือ 180 V เครี่องไม่ทำงานแต่บางเครื่องก็ทำงาน
ซ้ำร้ายเจอไฟจากเครื่องปั่นที่ไซเกิลไม่ได้จะเปิดติดบ้างไม่ติด ส่วนมากแล้วจะเปิดไม่ติด
ถ้าไซเกิลได้บ้างไม่ได้บ้างอันนี้แหละน่ากลัวครับเพราะมันจะทำให้การสแดงของเราปั่นป่วนมาก ๆ
เอฟเฟคมา ๆ หาย ๆ Power Switching ขับกลางแหลมเสียงบ ี้มือมิกซ์หัวปั่นเพราะมันเดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย เจัาของวงนั่งไม่ติิดแล้วครับ รุ่งขึ้นตั้งเครื่องเทสยาว 5 ชั่วโมง ปกติทุกอย่าง
สาเหตุปัญหาไซเกิลได้บ้างไม่ได้บ้างที่เกิดจากเครื่องปั่นสายพานไม่ปกติ
ที่ใคร ๆ พูดถึง Power Switching ว่าใช้ลำโพง 2 โอม อยากให้ระบุว่าใช้สายลำเบอร์อะไร ยาวเท่าไร
เพราะบางท่านใช้ีสายลำโพงเบอร์ใหญ่และ่สั้น โอมของลำโพงจึงมีสำสัญต่อ Power Switching
ถูกต้องตามนี้ครับ ผมเคยเล่นไฟมาแค่ 160 Vใช้หม้อเพิ่มไฟปรับหมดได้มา 180-190 v ถ้าไม่ได้ Power Tranfromer แล้วแย่เลยแอฟเฟ็กใช้ไม่ได้เลย ปลิวๆหายๆ มาบ้างไม่มาบ้าง พยามยามประคองรักษาระดับเสียงและเช็คไฟอยู่ตลอดกลัวไฟมาแล้วปรับไม่ทันลำโพงเบสจะลาผมไป..(เครียดมากครับ :strom:..แต่ได้รับคำชมจากเจ้าภาพและแขกที่มาในงานว่าของผมเสียงดีที่สุดที่เข้าเล่นในพื้นที่นั้น แต่ทุกวันนี้ยังไม่กล้ารับงานพื้นที่นั้นอีกเลย) ทุกวันนี้ยังไม่กล้าใช้Power Switching เพราะงานที่รับบางพื้นที่ไฟฟ้าปลายสาย พอเล่นไฟฟ้าที่ใช้ให้แสงสว่างในงานดับหมดทั้งงาน ทำให้รู้ว่าเครื่องเสียงจะดีอย่างไร สุดยอดขนาดไหน ยังมีปัจจัยอีกอย่างที่นักเล่นเครื่องเสียงมองข้ามไม่ได้คือเรื่องของไฟฟ้าและแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ขนาดสายไฟ และเทคนิค ในการนำไฟมาใช้และการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี โดยอาศัยประสบการณ์ของตนเองและเพื่อนสมาชิกมาช่วยกันแชร์ความรู้ ;D
-
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกท่านครับ :thank1:
-
ได้ความรู้ดีมากครับ :thank1: :th2:
-
ผมก้อใช้อยู่ครับ แต่...ก้อยังงงๆ รอดมาได้ไง
อยากทราบเรื่อง "ไซเคิล" ของไฟฟ้าหน่อยครับ...ใครอธิบายได้บ้างครับพี่น้อง
-
ผมว่าขับกลางแหลมพอไหว ถ้าเบสหนักๆขอทรานฟอเมอร์ไว้ก่อนครับ ขอบคุณครับ
-
ผมก้อใช้อยู่ครับ แต่...ก้อยังงงๆ รอดมาได้ไง
อยากทราบเรื่อง "ไซเคิล" ของไฟฟ้าหน่อยครับ...ใครอธิบายได้บ้างครับพี่น้อง
(http://www.doctronics.co.uk/images/sig_07.gif)
ไฟฟ้ากระแสสลับ คือ ไฟฟ้าที่ลักษณะการไหลของกระแสไฟฟ้าที่เปลี่ยนทิศทางตลอดเวลา คือ ขณะหนึ่งมีค่าเป็น 0 แล้วจะเพิ่มขึ้นมีค่าสูงสุดในทิศทางบวกแล้วลดลงเป็น 0 ต่อจากนั้นก็จะมีค่าเพิ่มขึ้นอีกจนถึงค่าสูงสุด และทิศทางลบแล้วจะลดลงเป็น 0 อีก จะสลับกันไปตลอดเวลา ถ้าไฟฟ้ากระแสสลับมีความถี่คงที่ กระแสไฟฟ้าที่จะไหลก็จะเปลี่ยนทิศทางคงที่ตามไฟด้วย เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับมีลักษณะการทำงาน คือ จะทำการเปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับนี้ สามารถที่จะผลิตแรงดันไฟฟ้า AC ได้โดยใช้หลักการของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นขบวนการของการเหนี่ยวนำแรงดันไฟฟ้าในลวดตัวนำ โดยลวดตัวนำจะเคลื่อนที่ผ่านสนามแม่เหล็ก การสลับ คือใน 1 ไซเคิล จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เหมือนกัน
ในแต่ละครั้งที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับเคลื่อนที่ครบ 1 รอบ จะกล่าวได้ว่า “เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับทำงานได้ 1 ไซเคิล” และแรงดันไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะเรียกว่าแรงดันไฟฟ้า 1 ไซเคิลเช่นกัน และในทำนองเดียวกันเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับก็จะผลิตกระแสไฟฟ้าในวงจรที่สมบูรณ์แบบออกมา 1 ไซเคิลเช่นกัน และสำหรับการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองซีกของไซเคิลนี้เรียกว่า การสลับ (Alternation) สำหรับวงลวดตัวนำที่หมุนนี้เรียกว่า อาร์เมเจอร์ (Armature) และแรงดันไฟฟ้า AC นั้นจะถูกเหนี่ยวนำในอาร์เมเจอร์ และเคลื่อนที่จากตอนปลายของวงลวดตัวนำผ่านหน้าสัมผัสที่เคลื่อนที่ได้ซึ่งติดอยู่ตรงปลายของอาร์เมอเจอร์ วงแหวน 2 วงจะถูกเรียกว่า สลิปริง ซี่งจะถูกยึดติดกับตอนปลายของวงลวดตัวนำและแปรงถ่าน จะเป็นส่วนที่รับแรงดันไฟฟ้า AC จาก สปริง และสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับที่อธิบายมานี้จะทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้า AC ที่ค่าต่ำ ๆ ดังนั้นเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับจะต้องมีจำนวนของวงลวดตัวนำเพิ่มขึ้น จึงจะทำให้แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำสูงขึ้น
ท่านคลิกตรงนี้แล้วจะเข้าใจ.....
http://www.facstaff.bucknell.edu/mastascu/eLabs/Scope/Simulator_Scope.html (http://www.facstaff.bucknell.edu/mastascu/eLabs/Scope/Simulator_Scope.html)
-
(http://www.doctronics.co.uk/images/sig_07.gif)
ไฟฟ้ากระแสสลับ คือ ไฟฟ้าที่ลักษณะการไหลของกระแสไฟฟ้าที่เปลี่ยนทิศทางตลอดเวลา คือ ขณะหนึ่งมีค่าเป็น 0 แล้วจะเพิ่มขึ้นมีค่าสูงสุดในทิศทางบวกแล้วลดลงเป็น 0 ต่อจากนั้นก็จะมีค่าเพิ่มขึ้นอีกจนถึงค่าสูงสุด และทิศทางลบแล้วจะลดลงเป็น 0 อีก จะสลับกันไปตลอดเวลา ถ้าไฟฟ้ากระแสสลับมีความถี่คงที่ กระแสไฟฟ้าที่จะไหลก็จะเปลี่ยนทิศทางคงที่ตามไฟด้วย เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับมีลักษณะการทำงาน คือ จะทำการเปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับนี้ สามารถที่จะผลิตแรงดันไฟฟ้า AC ได้โดยใช้หลักการของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นขบวนการของการเหนี่ยวนำแรงดันไฟฟ้าในลวดตัวนำ โดยลวดตัวนำจะเคลื่อนที่ผ่านสนามแม่เหล็ก การสลับ คือใน 1 ไซเคิล จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เหมือนกัน
ในแต่ละครั้งที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับเคลื่อนที่ครบ 1 รอบ จะกล่าวได้ว่า “เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับทำงานได้ 1 ไซเคิล” และแรงดันไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะเรียกว่าแรงดันไฟฟ้า 1 ไซเคิลเช่นกัน และในทำนองเดียวกันเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับก็จะผลิตกระแสไฟฟ้าในวงจรที่สมบูรณ์แบบออกมา 1 ไซเคิลเช่นกัน และสำหรับการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองซีกของไซเคิลนี้เรียกว่า การสลับ (Alternation) สำหรับวงลวดตัวนำที่หมุนนี้เรียกว่า อาร์เมเจอร์ (Armature) และแรงดันไฟฟ้า AC นั้นจะถูกเหนี่ยวนำในอาร์เมเจอร์ และเคลื่อนที่จากตอนปลายของวงลวดตัวนำผ่านหน้าสัมผัสที่เคลื่อนที่ได้ซึ่งติดอยู่ตรงปลายของอาร์เมอเจอร์ วงแหวน 2 วงจะถูกเรียกว่า สลิปริง ซี่งจะถูกยึดติดกับตอนปลายของวงลวดตัวนำและแปรงถ่าน จะเป็นส่วนที่รับแรงดันไฟฟ้า AC จาก สปริง และสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับที่อธิบายมานี้จะทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้า AC ที่ค่าต่ำ ๆ ดังนั้นเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับจะต้องมีจำนวนของวงลวดตัวนำเพิ่มขึ้น จึงจะทำให้แรงดันไฟฟ้าเหนี่ยวนำสูงขึ้น
ท่านคลิกตรงนี้แล้วจะเข้าใจ.....
http://www.facstaff.bucknell.edu/mastascu/eLabs/Scope/Simulator_Scope.html (http://www.facstaff.bucknell.edu/mastascu/eLabs/Scope/Simulator_Scope.html)
ทีนี้ เราจะทราบได้อย่างไรว่า "ไซเคิล" พอใช้ หรือมีมาให้เราใช้เท่าไหร่ อ่ะครับ
-
ทีนี้ เราจะทราบได้อย่างไรว่า "ไซเคิล" พอใช้ หรือมีมาให้เราใช้เท่าไหร่ อ่ะครับ
อันนี้ต้องพึ่งสะโคบแล้วละครับ
-
อันนี้ต้องพึ่งสะโคบแล้วละครับ
ฮ่าๆๆ เอ้า..ว่ากันไปครับ..Volt มาพอก้อเอาละครับ :th2: :th2: :th2:
-
ทีนี้ เราจะทราบได้อย่างไรว่า "ไซเคิล" พอใช้ หรือมีมาให้เราใช้เท่าไหร่ อ่ะครับ
ใช้ Frequency Meter ครับ เป็นแบบ มูฟวิ่งคอยล์ เหมือนวัดแรงดันนั่นแหละครับ มีหน่วยวัดเป็น Cycle/Second หรือ Hz
ถ้าได้ระหว่าง 48-52 ก็พอทนครับ ปกติจะพยายามไม่ให้ออกไปไกลกว่า 49-51Hz ครับ แต่ถ้ามันแกว่งมากๆก็ ตัวใครตัวมันครับ ;D ;D ;D
-
ใช้ Frequency Meter ครับ เป็นแบบ มูฟวิ่งคอยล์ เหมือนวัดแรงดันนั่นแหละครับ มีหน่วยวัดเป็น Cycle/Second หรือ Hz
ถ้าได้ระหว่าง 48-52 ก็พอทนครับ ปกติจะพยายามไม่ให้ออกไปไกลกว่า 49-51Hz ครับ แต่ถ้ามันแกว่งมากๆก็ ตัวใครตัวมันครับ ;D ;D ;D
เก็บรองเท้าให้ด้วย...ว่าง้าน...ฮ่าๆๆ ขอบคุณมากๆ เน้อ...น้าอู๊ด คีอนโจ
-
ผมว่าขับกลางแหลมพอไหว ถ้าเบสหนักๆขอทรานฟอเมอร์ไว้ก่อนครับ ขอบคุณครับ
ผมว่าตอนนี้ไม่ไม่ใช่แล้วครับ ผมใช้อยู่ครับสวิทชิ่งล้วนๆ เป็นของคนไทยทำด้วย สองค่ายของดีเทคของช่างเยาว์ กับเวฟเทคของช่างบอม โคราชทั้งคุ่ ครับ ขับทั้งซับทั้งกลาง ครับ ความแรงผมก็ว่าไม่แพ้หม้อแปลงเลย ผมใช้มาเกือบปีแล้วงานมีตลอด นับแล้วไม่ต่ำกว่า 50 งานในปีนี้ ยังไม่เคยพังไม่เคยเสียเพราะการใช้งานครับ แต่ละงานไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงบางงาน 12ชั่วโมงก็มาแล้ว อันนี้พุดจากการใช้งานจริงมา ครับ ขอบคุณครับ
-
ผมว่าตอนนี้ไม่ไม่ใช่แล้วครับ ผมใช้อยู่ครับสวิทชิ่งล้วนๆ เป็นของคนไทยทำด้วย สองค่ายของดีเทคของช่างเยาว์ กับเวฟเทคของช่างบอม โคราชทั้งคุ่ ครับ ขับทั้งซับทั้งกลาง ครับ ความแรงผมก็ว่าไม่แพ้หม้อแปลงเลย ผมใช้มาเกือบปีแล้วงานมีตลอด นับแล้วไม่ต่ำกว่า 50 งานในปีนี้ ยังไม่เคยพังไม่เคยเสียเพราะการใช้งานครับ แต่ละงานไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงบางงาน 12ชั่วโมงก็มาแล้ว อันนี้พุดจากการใช้งานจริงมา ครับ ขอบคุณครับ
ช่วยแนะนำ...ดีๆ ราคาพอประมาณ เอาไว้สำหรับขับเบสได้ความนุ่มลึกถึงอกถึงใจ...สักตัวสิครับ เวป un-sound ผมก้อไปอ่านบ่อยมากเลยครับ
-
ช่วยแนะนำ...ดีๆ ราคาพอประมาณ เอาไว้สำหรับขับเบสได้ความนุ่มลึกถึงอกถึงใจ...สักตัวสิครับ เวป un-sound ผมก้อไปอ่านบ่อยมากเลยครับ
:evil: :evil: งั้นน้าเอก สุมหัว เล่นเวฟเทคละกันนะครับ มีไรจะได้มีเพื่อน อิอิ :happy: :D
-
:evil: :evil: งั้นน้าเอก สุมหัว เล่นเวฟเทคละกันนะครับ มีไรจะได้มีเพื่อน อิอิ :happy: :D
แน่ะ..หาพวกเชียว...ฮ่าๆๆ
เวฟเทค 3000 ขึ้นไป ราคาเท่าไหร่อ่ะ..น้ากุ้ง
-
:happy: :D เวฟเทค 3600 ตอนซื้อราคาโปรโมชั่น 1X,XXX บาทครับ พี่เอก เอามาลองแล้ว แจ่มๆๆๆ ครับ :happy: :D
สั่งได้ที่ไหนครับ..อยากลอง หรือยืมน้ากุ้งก่อนดีหล่ะ อิอิ
-
สั่งได้ที่ไหนครับ..อยากลอง หรือยืมน้ากุ้งก่อนดีหล่ะ อิอิ
:happy: ที่นีี่เลยครับพี่เอก http://www.un-soundsales.com/board/index.php?board=33.0 :D :happy:
:happy: :D ว่างๆๆๆๆ ลงมาเที่ยวหาดใหญ่บ้างเด้อครับ :D :happy:
-
:happy: ที่นีี่เลยครับพี่เอก http://www.un-soundsales.com/board/index.php?board=33.0 :D :happy:
:happy: :D ว่างๆๆๆๆ ลงมาเที่ยวหาดใหญ่บ้างเด้อครับ :D :happy:
ขอบคุณหลาย...เคยไปอยู่นะ หาดใหญ่เนี่ย..น้องสาวทำงานอยู่ BigC ครับ...ตอนนี้ย้ายไปอยู่พิษ'โลกแล้วครับ
-
ทุกค่ายที่ผลิตผมติดตามผลงานมาตลอดและยังสั่งของมาทดลองใช้อยู่ครับ และยังศึกษาเรื่องของPower Switching เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นและสถานที่ที่ที่ใช้ ผมไม่มีเครื่องปั่นไฟเป็นขอตนเอง ถ้าจะเช่าเครื่องปั่นไฟสำหรับงานเล็กๆ ก็ไม่คุ้มและเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าและเจ้าภาพ สำหรับ Power Switching ข้อดีก็สุดยอดครับคือสามารถรับไฟได้ตั้งแต่ 180 - 260 V ในช่วงนี้ให้กำลังไม่ตกครับไม่ว่าไฟจะเหลือสักเท่าไหร่ เหมาะสำหรับในเมืองหรือสถานที่ๆไฟฟ้าตกไม่มากนัก แต่ความเป็นจริงสำหรับตัวผมเองเคยเล่นไฟฟ้ามาแค่ 160 V ซึ่งไฟในช่วงนี้ Power Switching ไม่สามารถทำงานได้ถึงทำได้ก็ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์ทางด้านการใช้งานพวกนี้คงรู้นะครับว่าเกิดอะไรขึ้น บางยี่ห้อเมื่อไฟไม่พอตัดกว่าจะใช้งานได้ปกติ ครึ่งชั่วโมง ผมเคยติดตามยี่ห้อหนึ่งเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้วเคยทำออกมาจำหน่ายผมไปถึงโชว์รูมที่บ้านหม้อไปฟังเสียงถูกใจผมเหลือเกิน เผอิญหลังจากนั้นเพื่อนผมได้เป็นตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฎว่าขายดีมากช่วงแรกๆ หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน เครื่องตีกลับต้องส่งซ่อมบริษัทจำนวนมาก Power Switching เสีย ผมรู้ได้ทันทีว่าเกิดจากปัญหาของไฟฟ้า ปัจจุบันแอมป์ยี่ห้อดังกล่าวเลิกผลิต แอมป์Power Switching แต่กลับเอา Power Tranfromer มาใช้แทน (ยี่ห้อนี้พัดลมดูดอากาศลงข้างล่าง) ทุกวันนี้การพัฒนาทางด้าน Power Switching ล้ำหน้าไปเยอะมีการปรับปรุงไปเยอะ แต่นั้นแหละครับจะได้เป็นทางเลือกให้เพื่อนสมาชิกที่ตัดสินใจที่จะซื้อให้เลือกซื้อตามความเหมาะสมที่จะใช้งานโดยต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆที่อยู่รอบตัวเราด้วยเพื่อการตัดสินใจ ไม่ผิดหวัง และใช้ได้เต็มประสิทธิภาพจริงๆ ;D ;D ออ...ผมกำลังเ็ล็งPower Switching อยู่เหมือนกันเพราะทีใช้อยู่บอกได้เลยว่าโค..ต..ร..หนัก
-
ทุกค่ายที่ผลิตผมติดตามผลงานมาตลอดและยังสั่งของมาทดลองใช้อยู่ครับ และยังศึกษาเรื่องของPower Switching เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นและสถานที่ที่ที่ใช้ ผมไม่มีเครื่องปั่นไฟเป็นขอตนเอง ถ้าจะเช่าเครื่องปั่นไฟสำหรับงานเล็กๆ ก็ไม่คุ้มและเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าและเจ้าภาพ สำหรับ Power Switching ข้อดีก็สุดยอดครับคือสามารถรับไฟได้ตั้งแต่ 180 - 260 V ในช่วงนี้ให้กำลังไม่ตกครับไม่ว่าไฟจะเหลือสักเท่าไหร่ เหมาะสำหรับในเมืองหรือสถานที่ๆไฟฟ้าตกไม่มากนัก แต่ความเป็นจริงสำหรับตัวผมเองเคยเล่นไฟฟ้ามาแค่ 160 V ซึ่งไฟในช่วงนี้ Power Switching ไม่สามารถทำงานได้ถึงทำได้ก็ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์ทางด้านการใช้งานพวกนี้คงรู้นะครับว่าเกิดอะไรขึ้น บางยี่ห้อเมื่อไฟไม่พอตัดกว่าจะใช้งานได้ปกติ ครึ่งชั่วโมง ผมเคยติดตามยี่ห้อหนึ่งเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้วเคยทำออกมาจำหน่ายผมไปถึงโชว์รูมที่บ้านหม้อไปฟังเสียงถูกใจผมเหลือเกิน เผอิญหลังจากนั้นเพื่อนผมได้เป็นตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฎว่าขายดีมากช่วงแรกๆ หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน เครื่องตีกลับต้องส่งซ่อมบริษัทจำนวนมาก Power Switching เสีย ผมรู้ได้ทันทีว่าเกิดจากปัญหาของไฟฟ้า ปัจจุบันแอมป์ยี่ห้อดังกล่าวเลิกผลิต แอมป์Power Switching แต่กลับเอา Power Tranfromer มาใช้แทน (ยี่ห้อนี้พัดลมดูดอากาศลงข้างล่าง) ทุกวันนี้การพัฒนาทางด้าน Power Switching ล้ำหน้าไปเยอะมีการปรับปรุงไปเยอะ แต่นั้นแหละครับจะได้เป็นทางเลือกให้เพื่อนสมาชิกที่ตัดสินใจที่จะซื้อให้เลือกซื้อตามความเหมาะสมที่จะใช้งานโดยต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆที่อยู่รอบตัวเราด้วยเพื่อการตัดสินใจ ไม่ผิดหวัง และใช้ได้เต็มประสิทธิภาพจริงๆ ;D ;D
ขอบคุณอย่างมากครับผม...ก้อศึกษาหาความรู้ความเข้าใจครับ ดีที่พี่มีประสพการณ์จริง พวกผมยังไม่เคยเจอครับไฟตกมากขนาดนั้น อย่างมากก้อ 180 กว่าๆ เบสอุดอู้ไปหมด เจ้าภาพก้อเข้าใจครับ แต่พวกเราก้อหาอะไรที่มันเหมาะสมกับเรานั่นแหล่ะ... :thank1:
-
ก็ติดตามข่าว Power Switching มานาน ก็เลยปล่อยหม้อแปลงไปหมด
แปรพักตร์มาใช้ Switching หนีความหนัก มีใช้อยู่ 2 แท่น ใช้งานได้ดีครับ บางเบา
สวมใส่สบาย.....บริการหลังการขายยอดเยี่ยมมาก ....เป็นอีกหนึ่งทางเลือกลองดูครับ.... :D
-
:evil: :evil: งั้นน้าเอก สุมหัว เล่นเวฟเทคละกันนะครับ มีไรจะได้มีเพื่อน อิอิ :happy: :D
ตอนแรกก็ว่าอย่างพี่กุ้งแหละ แต่ไม่เห็นมันมีอะไรซักที ขับ2 โอมก็เคยเอาขับกะจะเอาให้มันมีอันเป็นไปแล้วจะได้ไปเปลี่ยนกล่องมัน กลับไม่เป็นอะไรลองเล้ว... ปัจจุบันรับได้กับกล่องมันแล้วรอกล่องของน้องบอมออกใหม่ค่อยว่ากัน ใช้ดีครับทนด้วย
-
โห...ไฟตกเหลือ 160 v...แอมป์แบบไหมก็ไปไม่รอดหรอกครับ...ถึงรอดก็ไหว..ไม่รู้เสียงจะออกมายังไง.. :bla: :bla:
-
โห...ไฟตกเหลือ 160 v...แอมป์แบบไหมก็ไปไม่รอดหรอกครับ...ถึงรอดก็ไหว..ไม่รู้เสียงจะออกมายังไง.. :bla: :bla:
แมนยุ ;D ;D ;D ;D
-
แมนยุ ;D ;D ;D ;D
ลีเวอร์พูล :happy: :D :D
-
ทีนี้ เราจะทราบได้อย่างไรว่า "ไซเคิล" พอใช้ หรือมีมาให้เราใช้เท่าไหร่ อ่ะครับ
ไซเคิล ประเทศไทยเรามีใช้ 2 แบบ 50 กลับ 60 ไซเคิล ง่ายๆดูที่ไดครับ จะมีบอกไว้
สมมุติเรามีเครื่องเปิดแผ่นเสียง 50 ไซเคิล แต่ได 60 ไซเคิล เสียงเพลงจะเร็ว
เครื่องเปิดแผ่นเสียง 60 ไซเคิล แต่ได 50 ไซเคิล เสียงเพลงจะช้า