eXtreme Community
เครื่องเสียง / ภาพ => เครื่องเสียงกลางแจ้ง (Public Address,Pro Audio Sound Reinforcement System) => ข้อความที่เริ่มโดย: sem1 ที่ วันที่ 20 มกราคม 2009, 14:12:21 น.
-
เห็นเพาเวอร์ตระกูลพวกมอสเฟต หรือทรานซิสเตอร์
ผมไม่แน่ใจว่าเสียงแบบไหนมันดีกว่ากัน
มันแยกมะค่อยออก ที่อยากลองเล่น อยากเล่นแบบผสม ระหว่างหลอดกับทรานซิสเตอร์
ไม่รู้ว่าเสียงมันจะออกมาเหมือนกับเครื่องเสียงหลอดจริงๆหรือเปล่า
พวกพี่ท่านใดเคยเล่น
ช่วยบอกหน่อยนะครับ
เผื่อจะบ้าสั่งประกอบ
ขอบคุณครับ
-
อ๋อ..ผมลืมบอกไปว่า
เล่นกลางแจ้งครับ
เวลามีงาน
แต่บางคนเห็นบอกว่าทรานซิสเตอร์เสียงดีกว่ามอสเฟต
ไอ้อันนี้มันจริงหรือเปล่าคับ
-
ทรานซิสเตอร์ดีกว่า แต่พังง่ายครับท่าน
ทรานซิสเตอร์ผมว่าเล่นดนตรีจะเสียงได้กว่าครับส่วนงานเปิดเหมาะกับมอสเฟสอีกอย่างทรานซิสเตอร์เวลาพังมันเสียเป็นตัวครับไม่ระเบิดยกหชุดเหมือนฟวกมอสเฟสซ่อมเสียตังค์เยอะกว่า(ล้วนแล้วแต่เป็นความเห็นส่วนตัวครับ) :)
-
ข้อดีของทรานซิสเตอร์เสียงนุ่มดีเหมาะสำหรับเล่นคนตรีแต่ต้องเล่นหลายๆตัวจึงจะดี
ส่วนมอสเฟสเสียงตนตรีจะออกมาแขงไม่นิ่มนวนเท่าไรแต่มอสเฟสมีเสียงที่หนักแน่นเหมาะสำหรับภาพยนต์
ยกตัวอย่างเสียง ฉิ่งของทรานซิสเตอร์ความเพี่ยนของเสียง 0.2 ส่วนมอสเฟส 0.6
มอสเฟสฟังแล้วหูเราจะร้าไม่สบสยหู
ทรานซิสเตอร์ฟังแล้วสบสบหู
ฉนั้นถ้าเล่นดนตรีสียง ทรานซิตเตอร์หรือที่เรียกอีกอย่าว่าไบโพล่าจะดีกว่า
แต่ถ้าภาพยนต์มอสเฟสจะดีกว่าเสียงหนักแน่นมาก
-
จะยกตัวอย่างเสียงเบส
มอสเฟน*ตึม..........
ไบโพล่า*ตึม....................
เสียงฉิ่ง
มอสเฟส*ฉิง..........
ไบโพล่า*ฉิง....................
มอสเฟสเสียงจะแขง
ไบโพล่าเสียงจะนุ่ม
ถ้าเทียบกับดอกลำโพง มอสเฟส=แอกขอด
ไบโพล่า=พีออดิโอ
-
เอาไงดี ครับ ผมไม่กล่าวครับว่าอันไหนดีกว่า
ใช้ตามความเหมาะสม แต่ละท่าน
.....แต่ขอเปรียบเทียบ แบบภาษาบ้าน ๆ ให้สมาชิกได้ลองทบทวนกันดู (เผื่อหลาย ๆ ท่าน ก็ทราบแล้ว) ครับ
1. มอสเฟส ทำงานได้ โดยอิงกันแรงดัน - สนามไฟฟ้า หากเราวัดกันที่กำลังวัตต์ (ทางวิชาการ)
ยกตัวอย่าง เพื่อให้ได้กำลัง 100 W.ที่ 8 โอห์ม มอสเฟส ข้างละ 1 คู่ ต้องใช้ไฟ +- 52 V.
แต่ไบโพลาร์ ใช้ ไฟ +- 40 V. ทำไมใช้ไฟต่างกัน ดูข้อ 2 ครับ
เมื่อ มอสเฟส ใช้ไฟสูงกว่าแต่ได้กำลังงานเท่ากัน (ทางวิชาการ) การสวิงของสัญญาณ (สรูเรท) จึงเร็วแรง
ค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์ ดุดันฉับพลัน ส่วนสัมประสิทธิ์ระหว่างอุณหภูมิ - กระแสไฟฟ้า นั้นเป็นค่า ลบ
กล่าวคือ - หากมอสเฟสมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะด้วยเหตุใดก็ตาม กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวมันได้น้อยลง
เหตุนี้เอง ที่มอสเฟสไม่พังง่าย ๆ ตัวมันร้อนมาก ๆ เสียงที่ขับออกมาก็จะไม่เต็มที่มากนัก แต่ไม่พัง...
ทีนี้ว่ากันเรื่องเสียง... (ไม่เกี่ยวกับ วิชาการ)
มอสเฟสให้โทนเสียงที่กระแทก ดุดัน สวิงขึ้นลงฉับ ไว ฉับพลัน จึงนิยมมาออกแบบแอมป์ กลางแจ้ง
โดยเฉพาะโซนเอเชียเรา (อาจจะเป็นที่อากาศร้อนด้วย) ใช้ขับความถี่ต่ำ ๆ ได้ดีทนทานสูง แต่โซนประเทศที่เย็น ๆ ทางยุโรป อเมริกา
เขาจะใช้ไบโพลาร์กันส่วนมาก แต่ออกแบบระบบป้องกันที่ดีเยี่ยม นะครับ...
2. ทรานซิสเตอร์ (ไบโพลาร์) ทำงานโดยใช้กระแสเป็นตัวแปร ใหญ่ ๆ ใช้แรงดันไอบัสที่ เบส 0.6 V.ก็อัดฉีกกระแสได้เต็มที่ การอัดฉีดกระแสรุนแรงต่อเนื่อง
โดยใช้แรงดัน ไม่ต้องสูงมาก ก็จ่ายกระแสได้มาก สังเกตุแอมป์ รถยนต์ จะเห็นมีแต่ทรานซิสเตอร์ ใช้ไฟไม่มาก (40-50 V.) แต่ออกแบบวงจรให้จ่ายกำลังได้หลายร้อย วัตต์ สัมประสิทธิ์ระหว่างอุณหภูมิ - กระแสไฟฟ้า ของทรานซิสเตอร์เป็นบวก กล่าวคือ - หากทรานซิสเตอร์มีอุณหภูมิสูงขึ้นจะด้วยเหตุใดก็ตาม กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวมันได้มากขึ้น และร้อนมากขึ้น ๆ จนถึงจุดเสียหาย
การออกแบบวงจรขยายจึงต้องพิถีพิถัน มีการชดเชยอุณหภูมิ ให้ดี ๆ ในส่วนวงจรขับ (Driver) และการป้อนกลับ..
จึงเป็นเหตุให้การออกแบบวงขยายให้ทนทานของ ทรานซิสเตอร์ จะต้องมีวงจรป้องกันที่มากมายหลายจุดกว่า มอสเฟต ด้วยเหตุนี้ แอมป์บางค่ายจึงราคาสูง
ทีนี้ว่ากันเรื่องเสียง... (ไม่เกี่ยวกับ วิชาการ) ทรานซิสเตอร์ (ไบโพลาร์) มีมนต์ขลังหลายอย่าง มีจุดดีที่ปฏิเสธไม่ลงหลายเรื่อง ... ความนิ่มนวล .. เบสลึก..ฟังไม่ล้า..อะไรประมาณนี้
ส่วนตัวผมทั้งใช้ ทั้งประกอบแอมป์ มาทั้ง 2 รูปแบบ มีข้อดีข้อด้อยที่เป็นจริง ตามผมกล่าวมาข้างต้นจริง ๆ ตัวผมไม่ถึงกับมืออาชีพนะครับ นับจากเริ่มทำ - ซ่อมแอมป์ มาแต่เรียน ม. 3 ปี 27- 28 จนเดี๋ยวนี้
รวม 22 ปี. ....งานกลางแจ้งนั้น ใช้ได้ทั้งแอมป์ มอสเฟต หรือ ทรานซิสเตอร์ก็ได้ แต่ ทรานซิสเตอร์จะต้องมีระบบป้องกันที่ดีเยี่ยมนะครับ ก็บ้านเรามันเมือง ร้อน รู้ ๆ อยู่ ไม่งั้นเดี๋ยวพัง
ส่วนในบ้านไม่ได้อัดกันจน อกสั่น เรื่องร้อนไม่น่าเป็นปัญหา แอมป์ทรานซิสเตอร์ ดูเหมาะสมแก่การใช้งาน จากการที่ให้เสียงโทน หนานุ่มลึก เป็นธรรมชาติ ไม่บาดหู....
เอวัง ครับ ;D :em06: :em31: :em31: :em10:
-
ี้วงดนตรีที่อยู่ข้างบ้าน เมื่อก่อนเค้าใช้มอตเฟตยกชุดมีปัญหาเรื่องออสซิเลต ขาประจำของคนเล่นมอฟเฟตแต่เรื่องความทนทานยกให้มอตเฟต เรื่องเสียงนี่แข็งโป๊กหาความนุ่มไม่มีเลยค่ะ ทุกวันนี้วงดนตรีข้างบ้านเค้าเปลี่ยนมอตเฟตยกชุด มาเป็นไบโพล่าราคาถูกกว่าเยอะเลย เสียงนุ่มทำซาวด์ง่าย พูดถึงเรื่องการพัง โอกาสพังเท่าๆกันน่ะค่ะหากใช้งานไม่ถูกต้อง หากว่าพังขึ้นมามอตเฟตไม่ต่ำกว่า1พันแน่ๆค่ะเรื่องค่าซ่อม พังทีทั้งแผงเลย ถูกสุดคู่ละ100กว่าบาท ทรานซิสเตอร์ถูกออกแบบมาเพื่อแทนหลอดที่มีปัญหาเรื่องความร้อน อีกอย่างนึงราคาถูกค่ะ ของหนูก็ประกอบค่ะ ไบโพล่าข้างละ 5 คู่ เอาไปเล่นงานแต่งงานของญาติ เปิดเกือบ 20ชม. ไม่มีปัญหาเลย ของลูกค้าที่เค้ามาสั่งประกอบก็ไม่เคยมีปัญหาต้องกลับมาซ่อมเลยค่ะ หนูเชียร์ไบโพล่าค่ะ ถูก ซ่อมง่าย เสียงนุ่ม :em30: :em30:
-
อีกนิดนึงค่ะ ถ้าจะเล่นแบบผสม แนะนำว่าให้ภาคปรีเป็นหลอด และ ภาคเอ้าท์พุทเป็นทรานซิสเตอร์ เสียงความคมชัดของหลอด + ความนุ่มนวลของทรานซิสเตอร์ (ความคิดเห็นของหนูนะคะ)
-
อีกนิดนึงค่ะ ถ้าจะเล่นแบบผสม แนะนำว่าให้ภาคปรีเป็นหลอด และ ภาคเอ้าท์พุทเป็นทรานซิสเตอร์ เสียงความคมชัดของหลอด + ความนุ่มนวลของทรานซิสเตอร์ (ความคิดเห็นของหนูนะคะ)
อ้าย กะเล่นแบบ นี่ อยู่
น้อง หล่า คนงาม ...... :em01:
-
เอาไงดี ครับ ผมไม่กล่าวครับว่าอันไหนดีกว่า
ใช้ตามความเหมาะสม แต่ละท่าน
.....แต่ขอเปรียบเทียบ แบบภาษาบ้าน ๆ ให้สมาชิกได้ลองทบทวนกันดู (เผื่อหลาย ๆ ท่าน ก็ทราบแล้ว) ครับ
1. มอสเฟส ทำงานได้ โดยอิงกันแรงดัน - สนามไฟฟ้า หากเราวัดกันที่กำลังวัตต์ (ทางวิชาการ)
ยกตัวอย่าง เพื่อให้ได้กำลัง 100 W.ที่ 8 โอห์ม มอสเฟส ข้างละ 1 คู่ ต้องใช้ไฟ +- 52 V.
แต่ไบโพลาร์ ใช้ ไฟ +- 40 V. ทำไมใช้ไฟต่างกัน ดูข้อ 2 ครับ
เมื่อ มอสเฟส ใช้ไฟสูงกว่าแต่ได้กำลังงานเท่ากัน (ทางวิชาการ) การสวิงของสัญญาณ (สรูเรท) จึงเร็วแรง
ค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์ ดุดันฉับพลัน ส่วนสัมประสิทธิ์ระหว่างอุณหภูมิ - กระแสไฟฟ้า นั้นเป็นค่า ลบ
กล่าวคือ - หากมอสเฟสมีอุณหภูมิสูงขึ้นจะด้วยเหตุใดก็ตาม กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวมันได้น้อยลง
เหตุนี้เอง ที่มอสเฟสไม่พังง่าย ๆ ตัวมันร้อนมาก ๆ เสียงที่ขับออกมาก็จะไม่เต็มที่มากนัก แต่ไม่พัง...
ทีนี้ว่ากันเรื่องเสียง... (ไม่เกี่ยวกับ วิชาการ)
มอสเฟสให้โทนเสียงที่กระแทก ดุดัน สวิงขึ้นลงฉับ ไว ฉับพลัน จึงนิยมมาออกแบบแอมป์ กลางแจ้ง
โดยเฉพาะโซนเอเชียเรา (อาจจะเป็นที่อากาศร้อนด้วย) ใช้ขับความถี่ต่ำ ๆ ได้ดีทนทานสูง แต่โซนประเทศที่เย็น ๆ ทางยุโรป อเมริกา
เขาจะใช้ไบโพลาร์กันส่วนมาก แต่ออกแบบระบบป้องกันที่ดีเยี่ยม นะครับ...
2. ทรานซิสเตอร์ (ไบโพลาร์) ทำงานโดยใช้กระแสเป็นตัวแปร ใหญ่ ๆ ใช้แรงดันไอบัสที่ เบส 0.6 V.ก็อัดฉีกกระแสได้เต็มที่ การอัดฉีดกระแสรุนแรงต่อเนื่อง
โดยใช้แรงดัน ไม่ต้องสูงมาก ก็จ่ายกระแสได้มาก สังเกตุแอมป์ รถยนต์ จะเห็นมีแต่ทรานซิสเตอร์ ใช้ไฟไม่มาก (40-50 V.) แต่ออกแบบวงจรให้จ่ายกำลังได้หลายร้อย วัตต์ สัมประสิทธิ์ระหว่างอุณหภูมิ - กระแสไฟฟ้า ของทรานซิสเตอร์เป็นบวก กล่าวคือ - หากทรานซิสเตอร์มีอุณหภูมิสูงขึ้นจะด้วยเหตุใดก็ตาม กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านตัวมันได้มากขึ้น และร้อนมากขึ้น ๆ จนถึงจุดเสียหาย
การออกแบบวงจรขยายจึงต้องพิถีพิถัน มีการชดเชยอุณหภูมิ ให้ดี ๆ ในส่วนวงจรขับ (Driver) และการป้อนกลับ..
จึงเป็นเหตุให้การออกแบบวงขยายให้ทนทานของ ทรานซิสเตอร์ จะต้องมีวงจรป้องกันที่มากมายหลายจุดกว่า มอสเฟต ด้วยเหตุนี้ แอมป์บางค่ายจึงราคาสูง
ทีนี้ว่ากันเรื่องเสียง... (ไม่เกี่ยวกับ วิชาการ) ทรานซิสเตอร์ (ไบโพลาร์) มีมนต์ขลังหลายอย่าง มีจุดดีที่ปฏิเสธไม่ลงหลายเรื่อง ... ความนิ่มนวล .. เบสลึก..ฟังไม่ล้า..อะไรประมาณนี้
ส่วนตัวผมทั้งใช้ ทั้งประกอบแอมป์ มาทั้ง 2 รูปแบบ มีข้อดีข้อด้อยที่เป็นจริง ตามผมกล่าวมาข้างต้นจริง ๆ ตัวผมไม่ถึงกับมืออาชีพนะครับ นับจากเริ่มทำ - ซ่อมแอมป์ มาแต่เรียน ม. 3 ปี 27- 28 จนเดี๋ยวนี้
รวม 22 ปี. ....งานกลางแจ้งนั้น ใช้ได้ทั้งแอมป์ มอสเฟต หรือ ทรานซิสเตอร์ก็ได้ แต่ ทรานซิสเตอร์จะต้องมีระบบป้องกันที่ดีเยี่ยมนะครับ ก็บ้านเรามันเมือง ร้อน รู้ ๆ อยู่ ไม่งั้นเดี๋ยวพัง
ส่วนในบ้านไม่ได้อัดกันจน อกสั่น เรื่องร้อนไม่น่าเป็นปัญหา แอมป์ทรานซิสเตอร์ ดูเหมาะสมแก่การใช้งาน จากการที่ให้เสียงโทน หนานุ่มลึก เป็นธรรมชาติ ไม่บาดหู....
เอวัง ครับ ;D :em06: :em31: :em31: :em10:
+1 ไม่รู้คืออะไรนะ เห็นเขาก็บวก ๆ กัน เข้าใจว่าถูกอกถูกใจก็ให้แต้มมั่ง
เสริมนิดครับ การใช้งานกลางแจ้ง หมายถึง ที่โล่งนะครับหรือเขาเรียกว่างานเอาท์ดอร์อะครับ เราไม่สามารถเก็บรายละเอียดของเสียงเหมือนในฮออล์ ดังนั้นความนุ่มลึกของเสียงที่ได้มักไม่ค่อยมีผล การเล่นในที่โล่งแจ้ง พลังในการกระแทกกระทั้นมีความจำเป็น การใช้เพาเวอร์แอมป์ที่มีพลังอย่างมอสเฟทจึงน่าเป็นตัวเลือกครับ ยิ่งถ้าใช้ลำโพงเสียงต่ำที่ผลิตในบ้านเราด้วยแล้ว ผมฟันธงให้เลยครับ มอสเฟทเป็นตัวเลือกเดียว เพราะลำโพง วูฟเฟอร์ 15-18 นิ้วบ้านเรากินกำลังวัตต์มาก ๆ ครับ ผมว่า เจบีแอล ดีกว่าบ้านเราตรงที่ไม่กินกำลังเพาเวอร์แอมป์อะครับ ผม่ไม่ได้ใช้ เจบีแอลหรอกนะครับ(เพียงคิดว่าจะใช้) ผมใช้ อาร์ซีเอฟ แจมด้วย ลำโพงบ้านเราจึงรู้ความแตกต่างครับ
-
+1 ไม่รู้คืออะไรนะ เห็นเขาก็บวก ๆ กัน เข้าใจว่าถูกอกถูกใจก็ให้แต้มมั่ง
เสริมนิดครับ การใช้งานกลางแจ้ง หมายถึง ที่โล่งนะครับหรือเขาเรียกว่างานเอาท์ดอร์อะครับ เราไม่สามารถเก็บรายละเอียดของเสียงเหมือนในฮออล์ ดังนั้นความนุ่มลึกของเสียงที่ได้มักไม่ค่อยมีผล การเล่นในที่โล่งแจ้ง พลังในการกระแทกกระทั้นมีความจำเป็น การใช้เพาเวอร์แอมป์ที่มีพลังอย่างมอสเฟทจึงน่าเป็นตัวเลือกครับ ยิ่งถ้าใช้ลำโพงเสียงต่ำที่ผลิตในบ้านเราด้วยแล้ว ผมฟันธงให้เลยครับ มอสเฟทเป็นตัวเลือกเดียว เพราะลำโพง วูฟเฟอร์ 15-18 นิ้วบ้านเรากินกำลังวัตต์มาก ๆ ครับ ผมว่า เจบีแอล ดีกว่าบ้านเราตรงที่ไม่กินกำลังเพาเวอร์แอมป์อะครับ ผม่ไม่ได้ใช้ เจบีแอลหรอกนะครับ(เพียงคิดว่าจะใช้) ผมใช้ อาร์ซีเอฟ แจมด้วย ลำโพงบ้านเราจึงรู้ความแตกต่างครับ
เห็นด้วย ครับ .... ลำโพงบ้านเรา ยังไงก็กินกำลังขับ ...ต้องเผื่อ ๆ มาก ๆ หน่อย ไม่งั้น
ลำโพงไม่ขยับ .... ที่แน่ ๆ ราคาลำโพงในไทยยังไงก็ราคาไม่สูง....อัดได้... ไหม้ ก็ ซ่อม ...
อัดได้อีก .....
-
TAFN และ Bosstech เพราะว่าราคา ถูกลง แล้วก็ค่าซ่อมไม่แพง อัฟเกด ได้ตลอด ชีพ
084-3389455